S&P 500 พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ท่ามกลางตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI

2025-08-13
สรุป

ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากการเติบโตที่ขับเคลื่อนโดย AI ในหุ้นเทคโนโลยีช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน

S&P 500 Price Today

ดัชนี S&P 500 กลับมาได้รับความสนใจจากทั่วโลกอีกครั้ง โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,400 จุด ณ เวลาปิดตลาด ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการอันโดดเด่นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ตั้งแต่ Meta และ Palantir ไปจนถึง Nvidia และ Microsoft ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้ตอกย้ำอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในฐานะปัจจัยขับเคลื่อนหลักในตลาดกระทิงปัจจุบัน


ทั้งนักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างกำลังสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง: กำไรของดัชนี S&P 500 ในปัจจุบันกระจุกตัวอยู่ในหุ้นเทคโนโลยีที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ขณะที่หุ้นที่เหลือส่วนใหญ่กลับมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตโดยรวมน้อยกว่า แนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดที่ถูกขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม AI มากขึ้นเรื่อยๆ


ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีขับเคลื่อน S&P 500

Tech Giants

นับตั้งแต่ตลาดร่วงลงสู่จุดต่ำสุด หุ้น 20 ตัวหลักของดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 40.6% แซงหน้าดัชนีโดยรวมที่พุ่งขึ้น 27.9% อย่างมาก บริษัทต่างๆ เช่น Nvidia (NVDA), Microsoft (MSFT), Apple (AAPL), Amazon (AMZN), Alphabet (GOOGL), Meta (META), Broadcom (AVGO), Tesla (TSLA), JPMorgan (JPM), Netflix (NFLX), Oracle (ORCL) และ Palantir (PLTR) ต่างได้รับประโยชน์จากการปฏิวัติ AI ในระดับที่แตกต่างกันไป


เจสสิกา ราเบ ผู้ร่วมก่อตั้ง DataTrek Research ระบุว่า บริษัทที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีพลิกโฉมวงการอย่าง AI มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนในตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าของดัชนี S&P 500 เท่านั้น แต่ยังปูทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในวงกว้างผ่านนวัตกรรมอีกด้วย


ประสิทธิภาพของภาคส่วนและอิทธิพลของ AI

The Global Al Market May Reach $1.8T by 2030

การฟื้นตัวของตลาดเมื่อเร็วๆ นี้มีลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างชัดเจน โดยภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ (XLK) และภาคอุตสาหกรรม (XLI) มีผลงานที่โดดเด่น แสดงให้เห็นว่าการนำ AI มาใช้ขยายขอบเขตไปไกลกว่าบริษัทเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม ไปสู่การผลิต การใช้งานในภาคอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจที่กว้างขึ้น


สก็อตต์ โครเนิร์ต นักกลยุทธ์หุ้นสหรัฐฯ ของซิตี้กรุ๊ป ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนี S&P 500 สิ้นปีเป็น 6,600 จุด โดยอ้างอิงถึงการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผลกระทบของเทคโนโลยีนี้กำลังแผ่ขยายไปทั่วเศรษฐกิจ เช่นเดียวกัน จอห์น สโตลซ์ฟัส จากออพเพนไฮเมอร์ แอนด์ โค คาดการณ์เป้าหมายที่สูงขึ้นอีกที่ 7,100 จุด ภายในสิ้นปี 2568 โดยเน้นย้ำว่าการนำ AI มาใช้อาจช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวในหลายภาคส่วน


ความรู้สึกและความกังวลด้านมูลค่าของนักลงทุน


แม้ราคาหุ้นจะพุ่งสูงขึ้น แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงมีความซับซ้อน จากผลสำรวจล่าสุดของ Bank of America พบว่า 91% ของผู้จัดการกองทุนทั่วโลกเชื่อว่าหุ้นสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงเกินจริง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงินลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในบริษัทชั้นนำในดัชนี S&P 500


ความกังวลเกี่ยวกับ "ฟองสบู่หุ้น AI" เพิ่มสูงขึ้น โดยนักลงทุน 41% ยอมรับว่าเป็นความเสี่ยง และ 14% ระบุว่าเป็นข้อกังวลหลัก ขณะเดียวกัน ความสนใจในตลาดเกิดใหม่ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยได้รับแรงกระตุ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน


ความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมตลาดปัจจุบัน


ในขณะที่ AI กำลังขับเคลื่อนดัชนี S&P 500 นักกลยุทธ์บางคนเตือนว่าการประเมินมูลค่าในปัจจุบันอาจไม่ยั่งยืน แบร์รี แบนนิสเตอร์ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านหุ้นของ Stifel เปรียบเทียบตลาดในปัจจุบันกับยุคเฟื่องฟูของเทคโนโลยีในช่วงปลายทศวรรษ 1990 อัตราส่วน P/E ที่สูง กำไรที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ไม่กี่แห่ง และกิจกรรมการเสนอขายหุ้น IPO ที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ดัชนีมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 5,500 จุดในช่วงที่ตลาดกำลังถดถอย


แบนนิสเตอร์เน้นย้ำว่าการใช้จ่ายเงินทุนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในระยะเริ่มต้นและการจัดซื้อจัดจ้างเชิงรุกเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้ นักลงทุนควรตระหนักว่าแม้นวัตกรรมจะสร้างโอกาสในระยะสั้น แต่ความเสี่ยงด้านการประเมินมูลค่ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา


บทสรุป


ดัชนี S&P 500 ยังคงเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับผลประกอบการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI และบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ แม้ว่าดัชนีจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่นักลงทุนยังต้องพิจารณาทั้งมุมมองเชิงบวกและความระมัดระวัง โดยคำนึงถึงทั้งศักยภาพในการทำกำไรอย่างต่อเนื่องและความเสี่ยงจากการประเมินมูลค่าที่สูง


การทำความเข้าใจถึงแรงผลักดันเบื้องหลัง S&P 500 ตั้งแต่การสร้างสรรค์นวัตกรรม AI เฉพาะภาคส่วนไปจนถึงผลงานของหุ้นที่กระจุกตัวกัน ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบรู้มากขึ้น และสามารถนำทางในภูมิทัศน์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมั่นใจมากขึ้น


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

ช็อกวงการ Perplexity AI ยื่นซื้อ Google Chrome 34.5 พันล้าน USD

ช็อกวงการ Perplexity AI ยื่นซื้อ Google Chrome 34.5 พันล้าน USD

Perplexity AI ยื่นข้อเสนอซื้อ Google Chrome 34.5 พันล้านดอลลาร์ หวังใช้ผู้ใช้ 3 พันล้านคนเสริมแกร่ง AI Search ตลาดยังจับตาผลตอบรับ Google

2025-08-13
แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% หนุนตลาดการเงิน รับเศรษฐกิจไทยครึ่งปี 68

แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% หนุนตลาดการเงิน รับเศรษฐกิจไทยครึ่งปี 68

กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 1.50% หนุน SMEs และตลาดการเงิน หลังเศรษฐกิจครึ่งปี 2568 เสี่ยงชะลอจากภาษีสหรัฐฯ–ท่องเที่ยวซบเซา

2025-08-13
USD/INR ร่วงแตะ 87.65 เหตุคาดเฟดลดดอกเบี้ยพุ่ง 94% ทำดอลลาร์อ่อนค่าหนัก

USD/INR ร่วงแตะ 87.65 เหตุคาดเฟดลดดอกเบี้ยพุ่ง 94% ทำดอลลาร์อ่อนค่าหนัก

USD/INR ร่วงแตะ 87.65 หลังตลาดคาด Fed ลดดอกเบี้ย ทำดอลลาร์อ่อนค่ากดดันคู่เงิน ขณะที่รูปีอินเดียแข็งค่าท่ามกลางเงินเฟ้อต่ำ

2025-08-13