กำลังมองหารายได้มั่นคงหลังเกษียณอยู่หรือไม่? ลองมาสำรวจว่า SCHD ETF เป็นทางเลือกที่ตอบคำถามนี้รึเปล่า
การวางแผนเกษียณมักเน้นการสร้างสมดุลระหว่างรายได้ การเติบโต และความปลอดภัย ซึ่ง SCHD ETF (Schwab U.S.Dividend Equity ETF) ได้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้เกษียณที่มองหารายได้แบบพาสซีฟที่เชื่อถือได้
ด้วยพอร์ตการลงทุนที่เติบโตต่อเนื่อง เงินปันผลที่มั่นคง และค่าธรรมเนียมต่ำ SCHD จึงมีข้อได้เปรียบที่น่าสนใจ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงบางประการที่ควรพิจารณา
ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกล่าสุดเกี่ยวกับข้อมูล ผลตอบแทน และบทบาทเชิงกลยุทธ์ของ SCHD ในพอร์ตการลงทุนสำหรับวัยเกษียณ
SCHD ETF เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2011 มีเป้าหมายเพื่อติดตามผลงานของดัชนี Dow Jones US Dividend 100 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นคุณภาพสูงในสหรัฐฯ จำนวน 100 บริษัทที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและฐานะการเงินแข็งแกร่ง
วัตถุประสงค์หลักของ SCHD คือ
ให้ผู้ลงทุนได้เข้าถึงหุ้นปันผลที่มีความยั่งยืนและให้ผลตอบแทนสูง
สร้างมูลค่าทุนจากบริษัทคุณภาพ
ให้โอกาสลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่เน้นรายได้ด้วยต้นทุนต่ำและกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ SCHD ยังมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกระแสเงินสด
SCHD โดดเด่นด้วยค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.06% ต่อปี ช่วยเพิ่มผลตอบแทนโดยลดต้นทุนด้านค่าธรรมเนียม มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นหนึ่งในกองทุน ETF เน้นหุ้นปันผลที่ใหญ่ที่สุดในตลาด สะท้อนความนิยมและความน่าสนใจของกองทุนนี้อย่างชัดเจน
ณ กลางปี 2025 SCHD มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลย้อนหลัง 12 เดือนประมาณ 3.8% ถึง 3.9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี S&P 500 ที่อยู่ราว 1.2% อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้
กองทุนนี้ถือครองหุ้นคุณภาพสูงจำนวน 100 บริษัท ที่เน้นจ่ายเงินปันผลและมีกระแสเงินสดแข็งแรง หุ้นใหญ่ที่โดดเด่นได้แก่ Texas Instruments, Chevron และ PepsiCo ซึ่งแต่ละบริษัทมีสัดส่วนประมาณ 4% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด
SCHD มีอัตราการหมุนเวียนพอร์ตประมาณ 31% ต่อปี ซึ่งถือเป็นระดับปานกลาง ช่วยรักษาความมั่นคงของพอร์ตพร้อมกับความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
1) รายได้และผลตอบแทนรวม
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล: 3.85–3.9% สร้างรายได้อย่างมั่นคง เหมาะกับผู้เกษียณ
ผลตอบแทนรวม:
1 ปี: +5–6%
3 ปี (ต่อปี): ~7.4%
5 ปี (ต่อปี): ~12.9%
10 ปี (ต่อปี): ~11.2%
ผลตอบแทนเหล่านี้สูงกว่ากองทุนพันธบัตรหลายราย พร้อมกับยังได้รับเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง
2) ความผันผวนและความเสี่ยง
เบต้า: ~0.8 เทียบกับ S&P 500 ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่า
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน: 15.2% ใน 3 ปี ถือว่าปานกลาง และมีการลดลงของมูลค่าพอร์ตน้อยกว่าดัชนีหุ้นทั่วไป
ด้วยเหตุนี้ SCHD จึงมีความเสถียรกว่าดัชนี S&P 500 ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เกษียณที่ระมัดระวังความเสี่ยง
ในวัยเกษียณ เป้าหมายจะเปลี่ยนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วไปสู่การสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง การรักษาทุน และความเสี่ยงต่ำ ETF ที่เน้นหุ้นปันผลอย่าง SCHD ให้ข้อได้เปรียบดังนี้:
สร้างรายได้ที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องขายหุ้น
การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อบางส่วน
การกระจายความเสี่ยงในแต่ละภาคส่วน
ศักยภาพในการเติบโตของทุนในระยะยาว
คุณสมบัติเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายของผู้เกษียณส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ดอกเบี้ยต่ำหรือความผันผวนสูง
ETF | อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล | อัตราค่าธรรมเนียม | จุดเน้นการลงทุน |
---|---|---|---|
SCHD | ~3.8% | 0.06% | หุ้นปันผลคุณภาพสูงจากสหรัฐฯ |
VYM | ~3.2% | 0.06% | หุ้นปันผลกว้างๆที่ให้ผลตอบแทนสูง |
DGRO | ~2.5% | 0.08% | หุ้นที่เน้นการเติบโตของเงินปันผล |
NOBL | ~2.2% | 0.35% | หุ้น Dividend Aristocrats ที่จ่ายปันผลต่อเนื่อง 25 ปีขึ้นไป |
แม้ว่า VYM และ DGRO จะให้การกระจายความเสี่ยงที่ดี SCHD มีข้อได้เปรียบเรื่องอัตราผลตอบแทนสูง คุณภาพหุ้น และค่าธรรมเนียมต่ำ จึงเหมาะสมกว่าในกลุ่มนักลงทุนเกษียณที่เน้นรายได้ ส่วน NOBL แม้จะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่มีค่าธรรมเนียมสูงกว่าและมีการลงทุนที่จำกัดกว่า
1. การพึ่งพารายได้
สำหรับผู้เกษียณที่พึ่งพารายได้จากเงินปันผลอย่างเดียว อัตราผลตอบแทน 3.8% อาจไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หรืออาจไม่มีเงินสำรองในระดับปลอดภัยเพียงพอ
2. ความผันผวนของตลาด
การลดลงของมูลค่าหุ้นเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้ แม้ SCHD จะมีความผันผวนต่ำกว่าดัชนีอย่าง S&P 500 แต่ก็ยังมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรมีการถือครองพันธบัตรหรือตลาดเงินเพื่อกระจายความเสี่ยง
3. ความเสี่ยงจากกลุ่มอุตสาหกรรม
มีการลงทุนในกลุ่มพลังงานค่อนข้างมาก ทำให้ราคาน้ำมันและภาวะเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อกองทุนได้
4. ความซับซ้อนด้านภาษี
เงินปันผลที่ได้รับอาจมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ผู้ลงทุนต้องติดตามระยะเวลาการถือครองและรูปแบบบัญชีลงทุน (บัญชีเสียภาษีทั่วไปกับบัญชีเกษียณ) เพื่อวางแผนภาษีอย่างเหมาะสม
ที่ปรึกษาทางการเงินหลายรายมองว่า SCHD เป็นกองทุน ETF ที่เหมาะกับการลงทุนแบบ “ตั้งใจถือยาวไม่ต้องดูแลบ่อย” ด้วยการคัดเลือกหุ้นคุณภาพสูง อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ดี และค่าธรรมเนียมต่ำ สอดคล้องกับกลยุทธ์การวางแผนเกษียณยุคใหม่
เหตุผลที่ควรลงทุนใน SCHD
รายได้สูงและมั่นคง ประมาณ 3.8–3.9% เทียบกับพันธบัตรรัฐบาลที่ประมาณ 4.4%
ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.06% ต่อปี
รายได้สม่ำเสมอและถือครองหุ้นคุณภาพ ที่ผ่านการคัดกรองตามเกณฑ์การเติบโตของเงินปันผล
ความผันผวนต่ำกว่าหุ้นโดยรวมในตลาด
ข้อควรระวัง :
การลงทุนเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมบางกลุ่ม อาจเพิ่มความเสี่ยงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
อาจไม่เพียงพอหากถือเพียงอย่างเดียว การกระจายความเสี่ยงกับพันธบัตรยังเป็นสิ่งจำเป็น
ความผันผวนของตลาดหุ้นอาจทำให้มูลค่าพอร์ตลดลงในช่วงตลาดขาลง
กลยุทธ์การนำ SCHD เข้าเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตลงทุน
การจัดสรรรายได้หลัก: กำหนดให้ SCHD เป็นฐานรายได้จากหุ้นในสัดส่วน 40–60% ของพอร์ตหุ้น
สำรวจคู่พันธบัตร: จับคู่กับ ETF พันธบัตร (เช่น BND, AGG) เพื่อสร้างรายได้และความมั่นคง
วางแผนลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพทางภาษี: โดยถือ SCHD ในบัญชีที่เสียภาษีเพื่อรับสิทธิ์เงินปันผลที่ได้รับการลดหย่อนภาษี
ปรับอัตราการถอนเงิน: ปรับแผนการถอนเงินให้น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผล โดยใช้หลักเกณฑ์ถอดถอนที่ยั่งยืนประมาณ 3–3.5% ต่อปี
ในปี 2025 SCHD ยังคงเป็นกองทุนที่เหมาะสมในสภาวะที่:
อัตราดอกเบี้ยยังมีความผันผวน
อัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว
นักลงทุนมองหาหุ้นที่มีมูลค่าและสร้างกระแสเงินสด
หุ้นที่จ่ายเงินปันผลได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสุขภาพ พลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน ซึ่ง SCHD เลือกลงทุนในบริษัทที่มีความแข็งแกร่งและคืนกำไรสม่ำเสมอให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
แม้ในตลาดที่ไม่แน่นอน SCHD ก็ยังมอบความมั่นใจและชัดเจนสำหรับนักลงทุนที่เน้นรายได้เป็นหลัก
SCHD ETF ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เกษียณที่มองหารายได้แบบพาสซีฟ ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างผลตอบแทน คุณภาพ ต้นทุนต่ำ และความมั่นคง โดยมีผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยประมาณ 3.8–3.9% พร้อมประวัติการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับในวงการ จึงเหมาะแก่การถือเป็นแกนหลักในพอร์ตของผู้เกษียณ
อย่างไรก็ตาม ผู้เกษียณควรใช้ SCHD ร่วมกับสินทรัพย์อื่นในพอร์ตที่เน้นรายได้ เช่น พันธบัตร เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรม และควรวางแผนการถอนเงินให้สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล เพื่อให้สามารถรักษาเงินทุนให้อยู่ได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ในปี 2025 อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านจะลดลงหรือไม่? เจาะลึกมุมมองผู้เชี่ยวชาญ แนวโน้มเศรษฐกิจ และผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้าน และนักลงทุนอสังหาฯ
2025-07-25เรียนรู้วิธีเทรด DAX Futures อย่างมั่นใจในบทความนี้ โดยครอบคลุมกลยุทธ์สำคัญสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
2025-07-25คู่มือปฏิบัติในการสร้างความมั่งคั่งจากตลาดหุ้น ด้วยกลยุทธ์ผสมผสาน เครื่องมืออัจฉริยะ และการบริหารพอร์ตอย่างมีวินัย
2025-07-25