เปรียบเทียบ NVDA กับ AMD และ Intel ใครคือผู้นำชิป AI?

2025-08-11
สรุป

เจาะลึกหุ้น Nvidia (NVDA) พร้อมเปรียบเทียบกับ AMD และ INTC ใครเติบโตในยุค AI ได้ดีกว่ากัน วิเคราะห์งบการเงินล่าสุด ผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง

ในโลกที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังปฏิวัติทุกอุตสาหกรรม หุ้นเทคโนโลยีจึงกลายเป็นหมวดที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง โดยเฉพาะ Nvidia (NVDA) ที่ถูกยกให้เป็นหัวหอกของเทรนด์ AI ด้วยการพัฒนาชิปประมวลผลที่ทรงพลัง แต่หลายคนอาจยังอยากเปรียบเทียบ NVDA กับหุ้นบริษัทคู่แข่งอย่าง AMD และ Intel (INTC) ว่าใครคือผู้ชนะในสนามแข่งขันชิป AI ในบทความนี้จึงจะพาคุณเจาะลึก เปรียบเทียบเชิงลึกระหว่าง NVDA, AMD และ Intel ทั้งในแง่ของผลประกอบการ เทคโนโลยี และแนวโน้มการเติบโต


ทำไมต้องเปรียบเทียบ NVDA กับ AMD และ Intel?


การเปรียบเทียบหุ้น Nvidia, AMD และ Intel ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมของแต่ละบริษัทในตลาดชิปที่แข่งขันกันสูง ทั้งในด้านเทคโนโลยีและกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อประเมินจุดแข็ง-จุดอ่อนและโอกาสเติบโต การวิเคราะห์เปรียบเทียบยังช่วยคาดการณ์แนวโน้มตลาดและความเสี่ยงได้ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนตัดสินใจได้แม่นยำและเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนมากขึ้น


บริษัท Nvidia: จากการ์ดจอเกมสู่ผู้นำชิป AI ระดับโลก


Nvidia Corporation (หุ้น NVDA) คือบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ก่อตั้งในปี 1993 โดย Jensen Huang โดยเริ่มต้นจากการผลิต การ์ดจอ (GPU) สำหรับเกมเมอร์และงานกราฟิกขั้นสูง ก่อนจะก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน ชิป AI, Data Center, และ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ระดับโลก ในปัจจุบัน ชิปของ Nvidia กลายเป็นแกนกลางของระบบ AI Infrastructure เช่น:


  • การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)

  • ระบบ Machine Learning และ Deep Learning

  • คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing)

  • ยานยนต์อัตโนมัติ (Autonomous Vehicles)


ผลิตภัณฑ์เด่นของ Nvidia


  • NVIDIA GeForce GPU การ์ดจอประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดเกมเมอร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของ Nvidia

  • NVIDIA Data Center GPU ชิปซีรีส์ H100 (Hopper) และ GB200 (Blackwell) ที่เป็นหัวใจของโครงสร้างพื้นฐาน AI ในศูนย์ข้อมูลระดับโลก และกลายเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทในปัจจุบัน

  • NVIDIA AI Platform และ Software Stack รวมถึง CUDA, TensorRT และระบบฝึกโมเดล AI ที่ใช้ในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก


เปรียบเทียบ NVDA


AMD: บริษัทออกแบบโปรเซสเซอร์และ GPU ที่ท้าชนยักษ์ใหญ่ในยุค AI


Advanced Micro Devices (AMD) หรือที่นักลงทุนรู้จักในชื่อ หุ้น AMD เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ก่อตั้งในปี 1969 โดยมีจุดแข็งด้านการ ออกแบบโปรเซสเซอร์ (CPU) และ ชิปกราฟิก (GPU) สำหรับอุปกรณ์พีซี เซิร์ฟเวอร์ และงานกราฟิกขั้นสูง


ในปี 2017 AMD พลิกเกมด้วยการเปิดตัว Ryzen CPU รุ่นแรก ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งสำคัญอย่าง Intel ได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน AMD ยังเปิดตัว Radeon GPU ที่รองรับทั้งเกมและงานกราฟิกระดับมืออาชีพ จุดแข็งของ AMD ในยุคที่ Nvidia ครองตลาดชิป AI คือการเลือกใช้ เทคโนโลยี Multi-Chip Module (MCM) ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนคอร์โดยไม่เพิ่มต้นทุนต่อหน่วยมากนัก อีกทั้งยังร่วมมือกับ TSMC (บริษัทผลิตชิปอันดับ 1 ของโลก) เพื่อใช้กระบวนการผลิตขนาดเล็กที่ล้ำสมัย เช่น 5nm และ 3nm


ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ราคาที่แข่งขันได้ และการบุกตลาด Data Center อย่างต่อเนื่อง AMD จึงเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ นักลงทุนกลุ่มหุ้น AI และเซมิคอนดักเตอร์ไม่ควรมองข้าม


ผลิตภัณฑ์เด่นของ AMD


  • Ryzen CPU – โปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและเกมเมอร์

  • EPYC CPU – ซีพียูระดับเซิร์ฟเวอร์ สำหรับศูนย์ข้อมูลและงานระดับองค์กร

  • Radeon GPU – การ์ดจอที่ออกแบบมาสำหรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กร

  • Instinct MI300X – ชิปประมวลผล AI ที่ออกมาแข่งกับ Nvidia ในตลาด Data Center


เปรียบเทียบ AMD และ NVDA - EBC


Intel (INTC) ยักษ์ใหญ่แห่งชิป x86 ที่กำลังปรับตัวสู่ยุค AI


Intel Corporation (หุ้น INTC) เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่เก่าแก่ที่สุด ก่อตั้งเมื่อปี 1968 โดยเป็นผู้นำในการออกแบบและผลิต โปรเซสเซอร์สถาปัตยกรรม x86 ที่ใช้กันแพร่หลายใน พีซี แล็ปท็อป และเวิร์กสเตชัน มายาวนานหลายทศวรรษ โดย Intel ไม่ได้มีแค่ CPU เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึง


  • โครงสร้างพื้นฐาน Cloud & Data Center

  • เทคโนโลยี เครือข่าย 5G

  • ระบบ Edge Computing และ Internet of Things (IoT)

  • การผลิตชิปขั้นสูงในโรงงานของตนเอง


กลยุทธ์สำคัญ: IDM 2.0


Intel เดินหน้า ยุทธศาสตร์ IDM 2.0 (Integrated Device Manufacturing) เพื่อกลับมาแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำอย่าง TSMC และ Samsung โดยเน้นลงทุนใน โรงงานผลิตชิปของตนเอง (Intel Foundry Services), พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น 18A, 20A และเสริมความแข็งแกร่งด้าน AI Accelerators และ GPU (เช่น Intel Gaudi)


ความท้าทายและโอกาส


แม้ในช่วงหลัง Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาด ให้กับคู่แข่งอย่าง AMD และ Nvidia แต่บริษัทก็ยังมี ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กร รัฐบาล และผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบัน Intel อยู่ระหว่าง การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยเน้นการพัฒนา


  • AI Chips และ GPU สำหรับ Data Center

  • บริการผลิตชิปให้บริษัทอื่น (Foundry Business)

  • การควบคุมห่วงโซ่อุปทานในระดับโลก


เปรียบเทียบหุ้น NVDA และ INTC - EBC


เปิดผลประกอบการไตรมาสล่าสุด NVDA - AMD - INTC


เมื่อเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของปี 2025 สำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ด้านชิปประมวลผลอย่าง Nvidia, AMD และ Intel สิ่งที่นักลงทุนและตลาดจับตามองอย่างใกล้ชิดคือภาพรวมรายได้ กำไร และแนวโน้มการเติบโตในแต่ละเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI และ Data Center ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมในยุคนี้ การวิเคราะห์ผลประกอบการจะช่วยให้เห็นความแข็งแกร่งและความท้าทายของแต่ละบริษัทอย่างชัดเจน


1. NVDA – ไตรมาส 2 ปี 2025


  • รายได้รวม: $30.0 พันล้าน เพิ่มขึ้น 122% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่ม 15% จากไตรมาสก่อนหน้า

  • รายได้จาก Data Center: $26.3 พันล้าน เพิ่มขึ้นถึง 154% จากปีก่อนหน้า

  • กำไรสุทธิ (GAAP): $16.6 พันล้าน, EPS diluted = $0.67 (เพิ่มขึ้น 168% YoY)

  • กำไรสุทธิ (Non‑GAAP): EPS = $0.68 (เพิ่มขึ้น 152%)

  • อัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin): อยู่ราว 75%


สรุป : Nvidia ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากเซ็กเมนต์ Data Center ซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจ AI รวมถึงปัจจุบันยังครองมาร์เก็ตแชร์ในตลาด Data Center และ GPU มากถึง 90% ของทั้งหมด


2. AMD – ไตรมาส 2 ปี 2025


  • รายได้รวมอยู่ที่ $7.69B พันล้าน เพิ่มขึ้นประมาณ 31.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024

  • Gross Margin: 40% (ลดลงจาก 49%)

  • Operating Loss: $134 ล้าน

  • Net Income: $872 ล้าน (+229% YoY)

  • EPS (Diluted): $0.54

  • รายได้ Data Center: $3.2 พันล้าน (+14% YoY) — แม้รายได้เพิ่ม แต่เกิด Operating Loss ประมาณ $155 ล้าน เนื่องจากค่าตัดสินค้าคงคลังของ MI308 ที่ถูกควบคุมการส่งออก

  • รายได้ Client + Gaming: $3.6 พันล้าน (+69% YoY) - Client (PC/โน้ตบุ๊ก): $2.5 พันล้าน (+67%) - Gaming (GPU / คอนโซล): $1.1 พันล้าน (+73%)

  • Embedded: $824 ล้าน (ลดลง 4%)


สรุป: ไตรมาส 2 ปี 2025 AMD เติบโตทั้งรายได้และกำไรอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในสาย Data Center ที่เป็นหัวใจขับเคลื่อนการเติบโต AI แม้ว่าจะต้องเผชิญความเสี่ยงจากมาตรการควบคุมการส่งออกไปยังจีน แต่ก็สามารถจัดการต้นทุนและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


3. INTC – ไตรมาส 2 ปี 2025


  • รายได้รวม: $12.9 พันล้าน คงที่จากปีก่อนหน้า (flat YoY) และสูงกว่าคาดการณ์เล็กน้อย (~$11.9 พันล้าน)

  • รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจ: Client Computing Group (CCG): $7.9 พันล้าน (ลด 3% YoY), Data Center & AI (DCAI): $3.9 พันล้าน (เพิ่ม 4% YoY) และIntel Foundry: $4.4 พันล้าน (เพิ่ม 3%) 

  • กำไรสุทธิตาม GAAP: ขาดทุน $2.9 พันล้าน, EPS = –$0.67 (GAAP) และ –$0.10 (non‑GAAP) 

  • Intel ได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างองค์กร (restructuring $1.9 พันล้าน) และภาระ impairment $800 ล้าน รวมถึงต้นทุนพิเศษอีก $200 ล้าน

  • ประกาศปรับลดพนักงานประมาณ 24,000 คน (15% ของพนักงาน) และยุติเพลนสร้างโรงงานในบางประเทศ


สรุป: Intel แม้ว่ารายได้จะไม่ลดต่ำ แต่กลับเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนักจากกระบวนการปรับโครงสร้างและต้นทุนพิเศษ เพื่อเตรียมพื้นฐานสำหรับยุทธศาสตร์ใหม่ด้าน AI และ foundry


รายการ

NVDA

AMD

INTC

รายได้รวม

$30.0B (+122% YoY)

$7.69B (+31.7% YoY)

$12.9B (0% YoY)

Data Center

$26.3B (+154%)

$3.2B (+14%)

$3.9B (+4%)

กำไรสุทธิ (GAAP)

$16.6B

$0.872B

–$2.9B

EPS (GAAP)

$0.67

$0.54

–$0.67

Gross Margin

~75%

40%

ไฮไลต์

ทำสถิติสูงสุด, AI/DC ครองตลาด 90%

Client+Gaming พุ่ง, DC กำไรขั้นต้นถูกกด

ขาดทุนหนัก, restructuring+ปลด 15%



เปรียบเทียบหุ้น NVDA - AMD - INTC: ใครคือผู้นำตัวจริงในยุค AI?


เมื่อพูดถึง หุ้นเทคโนโลยี ในกลุ่มผู้ผลิต ชิปประมวลผลและ GPU เพื่อรองรับการเติบโตของ AI และ Data Center สามชื่อหลักที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Nvidia (NVDA), AMD (AMD) และ Intel (INTC) ซึ่งต่างก็มีจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางการเติบโตที่แตกต่างกันชัดเจน


เปรียบเทียบ ผลิตภัณฑ์


1. Nvidia (NVDA) : Nvidia มีชื่อเสียงในด้านการผลิต GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) สำหรับเกมมิ่ง และงานด้าน AI/ML โดยเฉพาะการ์ดจอ GeForce และชิปประมวลผล AI ในซีรีส์ H100, GH200 Grace Hopper ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และคลาวด์ ปัจจุบัน Nvidia กำลังก้าวเข้าสู่ธุรกิจซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างจริงจัง


2. AMD (Advanced Micro Devices) : AMD ผลิตซีพียู (CPU), จีพียู (GPU) และชิปเซ็ตต่างๆ สำหรับพีซี เกมมิ่ง และศูนย์ข้อมูล โดยมีสินค้าหลักคือ Ryzen, Radeon และ EPYC ในปี 2025 บริษัทมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพของชิปในตลาด AI และศูนย์ข้อมูล เช่นชิป MI300X ซึ่งถูกออกแบบมาแข่งกับของ Nvidia โดยตรง


3. Intel (INTC) : Intel เป็นผู้ผลิต CPU รายใหญ่ที่ครองตลาดพีซีมายาวนานด้วยซีรีส์ Core และ Xeon สำหรับเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนั้นยังลงทุนพัฒนา GPU แบบแยก (Intel Arc), ธุรกิจฟ foundry (โรงหล่อผลิตชิปให้บริษัทอื่น) และโซลูชัน AI ผ่าน Gaudi accelerator แม้ยังไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่ง แต่ก็พยายามปรับตัวต่อการแข่งขันใหม่ ๆ


เปรียบเทียบ รายได้และกำไร


1. Nvidia Q2/2025 : Nvidia โชว์ผลประกอบการที่โดดเด่นอย่างมากในไตรมาส 2 ปี 2025 ด้วยรายได้รวมสูงถึง 30.0 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้นถึง 122% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนรายได้จากธุรกิจ Data Center ที่เป็นหัวใจของบริษัท เพิ่มขึ้นถึง 154% โดยมีรายได้ถึง 26.3 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิตามมาตรฐาน GAAP อยู่ที่ 16.6 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น EPS diluted ที่ 0.67 ดอลลาร์ เติบโตขึ้นกว่า 168% เมื่อเทียบปีต่อปี อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 75% สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรสูง และความเป็นผู้นำตลาด GPU และ Data Center ที่ครองส่วนแบ่งมากถึง 90% ในตลาดนี้


2. AMD Q2/2025 : ในไตรมาสเดียวกัน AMD รายงานรายได้รวม 7.69 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 31.7% จากปีก่อน แม้จะน้อยกว่าของ Nvidia แต่ก็ถือว่ามีการเติบโตที่แข็งแรง โดยรายได้จาก Data Center อยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% แม้จะเผชิญกับความท้าทายเรื่องค่าตัดสินค้าคงคลังและมาตรการควบคุมการส่งออกไปจีนก็ตาม แม้จะมี operating loss ราว 134 ล้านดอลลาร์ แต่ AMD ยังคงทำกำไรสุทธิได้ 872 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 229% YoY โดย EPS diluted อยู่ที่ 0.54 ดอลลาร์ อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 40% จาก 49% ในปีก่อน ซึ่งแสดงถึงแรงกดดันด้านต้นทุน แต่ AMD ยังสามารถรักษาการเติบโตในส่วนตลาด Client และ Gaming ได้ดี


3. Intel (INTC) Q2/2025 : ส่วน Intel รายงานรายได้รวมอยู่ที่ 12.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยรายได้หลักมาจากกลุ่ม Client Computing Group ที่มีรายได้ 7.9 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 3% และ Data Center & AI ที่เติบโตเล็กน้อย 4% อยู่ที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์ แต่ท่ามกลางรายได้ที่ค่อนข้างนิ่งนี้ Intel กลับเผชิญกับการขาดทุนสุทธิอย่างหนักถึง 2.9 พันล้านดอลลาร์ จากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กรและต้นทุนพิเศษอื่น ๆ ทำให้ EPS ตาม GAAP ติดลบที่ –0.67 ดอลลาร์ บริษัทได้ประกาศปรับลดพนักงานและยุติโครงการก่อสร้างโรงงานบางส่วนเพื่อประคองธุรกิจและตั้งฐานใหม่สำหรับยุทธศาสตร์ด้าน AI และการผลิตชิปในอนาคต


การตอบรับของตลาด


1. Nvidia : ราคาหุ้นยังคงเติบโตต่อเนื่องและเป็นผู้นำในหมวด AI และเซมิคอนดักเตอร์ โดยนักลงทุนให้การตอบรับเชิงบวกอย่างมากต่อผลประกอบการไตรมาส 2/2025 ทำให้มูลค่าตลาด (Market Cap) พุ่งทะลุ $3.3 ล้านล้านเหรียญ ถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในตอนนี้


2. AMD : นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นจากการเติบโตของรายได้ในตลาด Data Center และ AI โดยเฉพาะการเปิดตัวชิป MI300X ที่เริ่มเข้าแข่งขันกับ Nvidia ได้ ทำให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับขึ้น และหลายสถาบันวิจัยเริ่มปรับมุมมอง “buy” เพิ่มมากขึ้นในปี 2025


3. Intel : ถึงแม้จะพยายามพลิกฟื้นและขยายธุรกิจเข้าสู่ AI อย่างจริงจัง แต่การตอบรับยังค่อนข้างจำกัด ราคาหุ้นยังไม่สามารถกลับมาในระดับก่อนการปรับโครงสร้างองค์กรได้ และนักวิเคราะห์ยังคงให้มุมมอง "hold" หรือ “underperform” เป็นส่วนใหญ่


หุ้น NVIDIA - EBC


สรุป


ทั้งนี้ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมทั่วโลก หุ้น Nvidia (NVDA) ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะผู้นำตลาดชิป AI ที่มีเทคโนโลยี GPU และ Data Center ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบ NVDA กับคู่แข่งสำคัญอย่าง AMD และ Intel จะเห็นว่าแต่ละบริษัทมีจุดเด่นและกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน โดย NVDA โดดเด่นด้วยรายได้และกำไรที่เติบโตสูงสุดจากตลาด AI, AMD เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพชิปและราคาที่แข่งขันได้ ขณะที่ Intel ยังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างเพื่อกลับเข้าสู่การแข่งขันในตลาด AI อย่างเต็มตัว


การเปรียบเทียบ NVDA กับ AMD และ Intel ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจภาพรวมตลาดชิป AI ได้ดีขึ้น พร้อมพิจารณาว่าหุ้นตัวใดเหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนของตนมากที่สุด โดย NVDA เหมาะกับนักลงทุนสายเติบโตที่ยอมรับความผันผวนเพื่อกำไรสูง AMD เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลระหว่างการเติบโตและความคุ้มค่า ส่วน Intel เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในแผนพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัทในอนาคต


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

10 สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดที่คุณควรทราบ

10 สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดที่คุณควรทราบ

สำรวจ 10 สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดและค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญที่ผู้ซื้อขายต้องการเพื่อนำทางในตลาดฟอเร็กซ์อย่างมั่นใจและสร้างกำไร

2025-08-11
มีการซื้อขายกี่ประเภท? หุ้น ฟอเร็กซ์ และอื่นๆ

มีการซื้อขายกี่ประเภท? หุ้น ฟอเร็กซ์ และอื่นๆ

ค้นพบว่ามีการซื้อขายกี่ประเภท ทั้งหุ้น ฟอเร็กซ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำความเข้าใจแต่ละประเภทเพื่อเลือกตลาดที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณ

2025-08-11
วิธีการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ: แผนงานที่สำคัญ

วิธีการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ: แผนงานที่สำคัญ

ค้นพบขั้นตอนสำคัญในการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ไปจนถึงการควบคุมความเสี่ยงและวิธีคิดเพื่อสร้างกำไรที่สม่ำเสมอ

2025-08-11