เรียนรู้ประเภทของเงินที่สำคัญซึ่งนักเทรดควรรู้ ตั้งแต่เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง เงินสินค้า ไปจนถึงเงินธนาคารและเงินตัวแทน พร้อมประวัติโดยสังเขป
เงิน คือรากฐานของการซื้อขาย การลงทุน และตลาดการเงินทุกประเภท สำหรับนักเทรด การเข้าใจประเภทของเงินแต่ละรูปแบบ และวิวัฒนาการของเงินแต่ละประเภท ถือเป็นสิ่งสำคัญในการก้าวสู่ตลาดโลกอย่างมั่นใจ
ตั้งแต่ระบบแลกเปลี่ยนสินค้าในยุคแรกเริ่ม จนถึงสกุลเงินสมัยใหม่ที่เราใช้กันในปัจจุบัน เงินได้แปรเปลี่ยนไปในหลายรูปแบบ บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยประวัติศาสตร์โดยสังเขป พร้อมแนะนำประเภทของเงินที่นักเทรดทุกคนควรรู้จักอย่างกระชับ และใช้งานได้จริง
เงินมีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี ย้อนกลับไปในยุคที่มนุษย์ยังใช้ระบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter) เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของและบริการกันโดยตรง แต่เมื่อสังคมขยายตัวและการค้าขายมีความซับซ้อนมากขึ้น ระบบดังกล่าวก็เริ่มไม่ตอบโจทย์ ความต้องการจึงเกิดขึ้นสำหรับ "สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน" ที่เป็นมาตรฐาน ใช้ง่าย และยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
จากจุดนี้เอง เงินในรูปแบบแรกเริ่มจึงถือกำเนิดขึ้น — ที่เรียกว่า “เงินสินค้า (Commodity Money)” เช่น ปศุสัตว์ ธัญพืช และโลหะมีค่าต่าง ๆ อย่างทองคำและเงิน สิ่งเหล่านี้มีมูลค่าในตัวเองและได้รับความเชื่อถือในการนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยน ราว 1,200 ปีก่อนคริสตกาล ผู้คนในบางพื้นที่ของเอเชียและแอฟริกาใช้เปลือกหอยคาวรี (Cowrie Shells) เป็นเงินตรา และในเวลาต่อมาประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล เหรียญโลหะก็เริ่มปรากฏในจีนและบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงใช้งานสะดวกและพกพาได้ง่าย
หลังจากนั้นแนวคิดของ“เงินตัวแทน (Representative Money)” ก็เริ่มขึ้น ซึ่งเป็นเงินกระดาษหรือโทเคนที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำหรือเงินตามอัตราที่กำหนด ประเทศจีนเป็นชาติแรกที่นำเงินกระดาษมาใช้ในช่วงราชวงศ์ซ่ง (ศตวรรษที่ 11) ต่อมาในศตวรรษที่ 13 มาร์โคโปโลได้เขียนถึงการใช้เงินกระดาษในยุคราชวงศ์หยวน การแพร่หลายของธนบัตรและตั๋วแลกเงินในยุโรปก็มีส่วนช่วยให้การทำธุรกรรมขนาดใหญ่เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
กระทั่งเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 หลายประเทศเริ่มนำระบบมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) มาใช้ โดยผูกมูลค่าของเงินตราไว้กับปริมาณทองคำที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป โลกก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ “เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง (Fiat Money)” ซึ่งมีมูลค่าอยู่บนพื้นฐานของคำประกาศจากรัฐบาลและความเชื่อมั่นของประชาชน ไม่ได้มีทองคำหรือทรัพย์สินจริง ๆ หนุนหลังอีกต่อไป
ทุกวันนี้ เงินส่วนใหญ่ของเราไม่ได้อยู่ในรูปธนบัตรหรือเหรียญอีกแล้ว แต่เป็นเพียงตัวเลขในระบบธนาคารหรือบนหน้าจอดิจิทัล แม้รูปร่างของเงินจะเปลี่ยนไปมาก แต่หลักคิดเบื้องหลังในเรื่องคุณค่า ความเชื่อถือ และการยอมรับ ยังคงสืบทอดมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นเดิม
1. เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง (Fiat Money)
เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง คือรูปแบบของเงินตราที่ใช้กันในเกือบทุกประเทศในปัจจุบัน เงินประเภทนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเอง และไม่ได้มีสินทรัพย์จริงค้ำประกัน มูลค่าของเงินประเภทนี้ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของรัฐบาล และความเชื่อมั่นของประชาชนผู้ใช้งาน
คุณสมบัติหลัก:
ออกโดยธนาคารกลางหรือรัฐบาล
มูลค่าขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและคำสั่งทางกฎหมาย
อุปทานถูกควบคุมโดยนโยบายการเงิน
ตัวอย่าง:
ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์อังกฤษ (GBP), เยนญี่ปุ่น (JPY)
2. เงินสินค้า (Commodity Money)
เงินสินค้า คือเงินที่มีมูลค่าในตัวเอง หมายความว่าสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน และยังสามารถใช้ในทางอื่นได้ด้วย โดยในอดีตนิยมใช้โลหะมีค่า เช่น ทองคำ และเงิน
คุณสมบัติหลัก:
มูลค่าขึ้นอยู่กับตัวสินค้าเอง
อุปทานที่จำกัด ซึ่งช่วยรักษามูลค่า
มักใช้เป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
ตัวอย่าง:
เหรียญทอง แท่งเงิน หรือแม้แต่แม้กระทั่งเกลือหรือปศุสัตว์ในเศรษฐกิจสมัยโบราณ
3. เงินตัวแทน (Representative Money)
เงินตัวแทนคือเงินที่เป็นใบแสดงสิทธิ์ในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ เช่น ทองคำหรือเงิน ที่ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย เงินประเภทนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเอง แต่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าจริงได้
คุณสมบัติหลัก:
มีสินทรัพย์จริงค้ำประกันอยู่เบื้องหลัง
ช่วยให้การทำธุรกรรมขนาดใหญ่สะดวกขึ้น
ต้องอาศัยความไว้วางใจจากผู้ออกหลักทรัพย์
ตัวอย่าง:
ใบรับรองทองคำ ธนบัตรเก่าที่แลกเปลี่ยนได้กับโลหะมีค่า หรือ “ใบรับรองเงิน” ของสหรัฐฯ ในยุคแรก ๆ
4. เงินที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อถือ (Fiduciary Money)
เงินประเภทนี้ไม่ได้มีสินทรัพย์ใด ๆ รองรับ แต่มูลค่าของเงินเกิดจากความเชื่อมั่นว่าผู้ออกจะรับผิดชอบตามที่สัญญาไว้ มักใช้ในรูปแบบตราสารต่าง ๆ เช่น เช็คหรือตั๋วแลกเงิน
คุณสมบัติหลัก:
มูลค่าขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้ออกหลักทรัพย์และระบบ
ใช้สำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่หรือไม่ใช่เงินสด
ไม่ใช่เงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ตัวอย่าง:
เช็ค ตั๋วแลกเงินจากธนาคาร ตราสารสัญญาชำระเงิน (Promissory Notes)
5. เงินของธนาคารพาณิชย์ (Commercial Bank Money)
เงินของธนาคารพาณิชย์ คือเงินที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อหรือเครดิตโดยธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ที่ใช้ในระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน และมักอยู่ในรูปแบบดิจิทัลในบัญชีธนาคาร
คุณสมบัติหลัก:
เกิดจากการปล่อยกู้หรือออกเครดิตของธนาคาร
ส่วนใหญ่มีอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
ใช้สำหรับการชำระเงิน โอน และชำระบัญชี
ตัวอย่าง:
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีกระแสรายวันหรือออมทรัพย์ การโอนเงินผ่านธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์
การเข้าใจวิวัฒนาการและประเภทของเงิน ช่วยให้นักเทรดมองเห็นภาพใหญ่ของระบบการเงินได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลไกการถ่ายโอนมูลค่าเหตุผลที่สกุลเงินผันผวน หรือบทบาทของธนาคารกลางที่มีอิทธิพลต่อทิศทางของตลาด เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเองที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับนโยบายและความเชื่อมั่นของผู้คน จึงมีความเปราะบางต่อข่าวสารและเหตุการณ์เศรษฐกิจ ขณะที่ทองคำและเงินประเภทสินค้าอื่น ๆ มักทำหน้าที่เป็นที่พักเงินหรือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน เงินตัวแทนและเงินที่อิงกับความเชื่อมั่น เช่น เช็คหรือธนบัตรในอดีต ชี้ให้เห็นว่าความไว้วางใจและสภาพคล่องคือสิ่งสำคัญในการทำธุรกรรม ส่วนเงินฝากและเครดิตที่เกิดจากธนาคารพาณิชย์ ก็เป็นรากฐานสำคัญของการซื้อขายในโลกยุคดิจิทัล
สำหรับนักเทรดแล้ว ความรู้เหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องทฤษฎี แต่คือเครื่องมือที่ใช้ได้จริงในการอ่านความเคลื่อนไหวของตลาด วางแผนกลยุทธ์ และบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
Anduril IPO 2025: บริษัทเทคโนโลยีเตรียมเข้าตลาดหุ้นหรือไม่? เจาะลึกความเคลื่อนไหว มูลค่าคาดการณ์ และสิ่งที่นักลงทุนควรรู้
2025-05-28ค้นพบว่าเทรด Forex คืออะไร และเทรดเดอร์ทำกำไรจากค่าเงินได้อย่างไร พร้อมเรียนรู้กลยุทธ์ ความเสี่ยง และปัจจัยขับเคลื่อนตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2025-05-28ค้นพบวิธีการทำงานของ DEMA และเหตุผลที่รนักเทรดนิยมใช้ เพื่อรับสัญญาณแนวโน้มที่รวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้นในตลาดที่มีความผันผวนสูง
2025-05-28