Fair Value Gap คือช่องว่างที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วโดยที่ตลาดยังไม่มีการตกลงราคาอย่างสมดุล ซึ่งสามารถเป็นโอกาสทำกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง ต้องระมัดระวังในการเข้าทำการเทรด
หากคุณกำลังศึกษาเรื่องการเทรด ไม่ว่าจะเป็นในตลาดหุ้นหรือตลาด forex คุณอาจเคยได้ยินคำว่า "Fair Value Gap (FVG)" มาแล้วบ้าง แม้ฟังดูซับซ้อนในตอนแรก แต่จริง ๆ แล้วแนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง Fair Value Gap เกิดขึ้นเมื่อราคาขยับขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วจนผู้ซื้อกับผู้ขายไม่มีโอกาสเจรจาต่อรองราคากันได้ทัน ทำให้เกิด "ช่องว่าง" ที่เห็นชัดบนกราฟ
แม้ว่าช่องว่างเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้ทำกำไรจากการเทรดได้ แต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงที่ตามมาด้วย การเข้าใจว่ากลไกของ FVG ทำงานอย่างไร จึงสำคัญทั้งในแง่การหาโอกาสทำกำไร และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีสติ
Fair Value Gap (FVG) คืออะไร
โดยพื้นฐานแล้ว Fair Value Gap คือความคลาดเคลื่อนของราคาที่เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักเกิดจากข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญ หรือการเปลี่ยนแปลงของมุมมองในตลาด ช่องว่างนี้สะท้อนถึงระดับราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายยังไม่มีโอกาสตกลงราคากันได้อย่างสมดุล โดยบนกราฟราคาจะเห็นเป็นช่วงที่ไม่มีการซื้อขาย หรือมีการซื้อขายเกิดขึ้นน้อยมากระหว่างสองระดับราคา
ในสภาวะปกติ ราคาของสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีการปรับเปลี่ยนสถานะของผู้ซื้อและผู้ขายอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการ หรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ มักทำให้เกิดช่องว่างบนกราฟ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า Fair Value Gap
นักเทรดมักมองหาช่องว่างเหล่านี้เพื่อหาโอกาสในการเข้า-ออกจากตลาด โดยคาดหวังว่าราคาจะย้อนกลับมาปิดช่องว่าง หรือเคลื่อนไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
ผลกระทบของ Fair Value Gap ต่อการกำหนดราคาและการเทรด
FVG สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อการกำหนดราคาของสินทรัพย์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เมื่อเกิดช่องว่างขึ้น นั่นสะท้อนว่ามีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็วโดยที่ตลาดยังไม่ได้สร้างฉันทามติอย่างเพียงพอ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญหรือเกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในตลาด
สำหรับนักเทรด ช่องว่างเหล่านี้ถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในด้านหนึ่ง FVG อาจบ่งชี้ว่าตลาดมีการตอบสนองเกินจริง จึงเปิดโอกาสให้เก็งกำไรจากการกลับตัวของราคาได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง FVG ก็สะท้อนถึงความเสี่ยง โดยเฉพาะหากราคายังคงเคลื่อนที่ไปในทิศทางของช่องว่างโดยไม่ย้อนกลับมาปิด ทำให้เกิดความผันผวนมากยิ่งขึ้น
เนื่องจาก FVG มักเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Day Trader และ Swing Trader ที่เน้นการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น นอกจากนี้ FVG ยังสามารถเป็นสัญญาณที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนระยะยาว ในการระบุจุดที่ราคามีแนวโน้มจะเกิดการปรับฐานได้เช่นกัน
การระบุ Fair Value Gap บนกราฟราคา
หลังจากที่เราเข้าใจแล้วว่า FVG คืออะไร และมีผลต่อราคาตลาดอย่างไร มาดูกันต่อว่ามีวิธีระบุ FVG อย่างไรบ้าง จริง ๆ แล้ว การหาช่องว่างนี้บนกราฟไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณใช้กราฟแท่งเทียนหรือกราฟแท่งราคา คุณจะเห็น FVG เป็นช่วงที่มี "ช่องว่าง" ระหว่างราคาปิดของแท่งหนึ่งกับราคาเปิดของแท่งถัดไปอย่างชัดเจน
ลองนึกภาพว่า ราคาหุ้นตัวหนึ่งพุ่งขึ้นถึง 10% ภายในวันเดียว โดยที่ไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นระหว่างราคาปิดของวันก่อนหน้ากับราคาเปิดของวันถัดไป นั่นแหละคือลักษณะของ Fair Value Gap ซึ่งเกิดจากราคาขยับเร็วจนตลาดไม่ทันได้สร้างสมดุลอย่างเหมาะสม
อีกจุดที่ควรสังเกตคือ "ขนาดของช่องว่าง" ถ้า FVG มีขนาดเล็ก อาจหมายถึงการตอบสนองชั่วคราวของตลาด แต่หากช่องว่างมีขนาดใหญ่ ก็อาจสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มที่สำคัญ สำหรับมือใหม่ อาจต้องใช้เวลาในการฝึกสังเกต FVG แต่เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับเครื่องมือดูกราฟแล้ว การมองเห็น FVG ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก และช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย
กลยุทธ์การเทรดด้วย Fair Value Gap ที่นิยมใช้
หลังจากที่คุณสามารถระบุ FVG ได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเรียนรู้วิธีนำข้อมูลนี้มาใช้ในการวางกลยุทธ์การเทรด นักเทรดจำนวนมากมักผสานการใช้ FVG เข้ากับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม คือการ "รอให้ราคากลับมาเติมเต็มช่องว่าง" เมื่อราคาเกิดการกระโดดขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว หลายคนคาดว่าตลาดจะย้อนกลับมาที่บริเวณช่องว่างในภายหลัง ซึ่งเรียกว่าปรากฏการณ์ "การเติมช่องว่าง (Gap Filling)" เพราะตลาดมีแนวโน้มต้องการปรับสมดุลใหม่ ตัวอย่างเช่น หากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนจะรอให้ราคาย่อลงมาทดสอบบริเวณช่องว่าง ก่อนตัดสินใจเทรดตามแนวโน้มถัดไป
อีกแนวทางหนึ่งคือ "เทรดตามทิศทางของช่องว่าง" กลยุทธ์นี้ตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่าหากช่องว่างเกิดขึ้นจากแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง เช่น ข่าวสำคัญหรือเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ตลาดมักมีแนวโน้มเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิม นักเทรดที่เลือกวิธีนี้มักมองหาสัญญาณยืนยันเพิ่มเติมจากอินดิเคเตอร์อื่น เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนี RSI เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนเปิดสถานะ
แม้ว่าทั้งสองกลยุทธ์นี้จะได้รับความนิยม แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะตลาดไม่เคลื่อนตัวตามคาดเสมอไป บางครั้งช่องว่างก็ไม่ถูกเติมเต็ม โดยเฉพาะในช่วงที่มีแรงส่งจากข่าวหรือความผันผวนสูง การบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อนำ FVG มาใช้ในการเทรด
ความเสี่ยงและข้อดีของการเทรดด้วย Fair Value Gap
การเทรดด้วย FVG มีทั้งข้อดีและความเสี่ยง ข้อดีหลัก ๆ คือโอกาสทำกำไรสูง เพราะช่องว่างมักเกิดในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างแรง ทำให้ราคาขยับเร็ว หากคาดการณ์ได้ถูกต้อง การทำกำไรก็สามารถทำได้มาก
แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง เช่น ราคาที่ไม่ย้อนกลับมาเติมเต็มช่องว่าง แต่กลับวิ่งไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ช่องว่างที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดผันผวนอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกหรือราคาผันผวนรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ขาดประสบการณ์โดนหลอกได้
อีกสิ่งที่ต้องระวังคือการหาจังหวะเข้าและออกจากการเทรดให้เหมาะสม เพราะช่องว่างเกิดจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็ว การตัดสินใจเข้าเร็วเกินไปหรือล่าช้าไปก็อาจทำให้พลาดโอกาสหรือขาดทุนได้ ดังนั้น การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนและการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ
สรุปแล้ว การเทรดด้วย FVG มีโอกาสที่ดี แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว สำหรับผู้เริ่มต้น ควรฝึกฝนการสังเกตช่องว่างและเรียนรู้กลยุทธ์ที่เหมาะสม พร้อมทั้งบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น FVG ก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ค้นพบวิธีการทำงานของการแยกทางแบบขาลง เหตุใดจึงส่งสัญญาณว่าโมเมนตัมกำลังอ่อนตัวลง และผู้ซื้อขายใช้มันเพื่อคาดการณ์ภาวะขาลงของตลาดได้อย่างไร
2025-04-30รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับราคาเศษทองแดงประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ดูอัตราปัจจุบัน แนวโน้มตลาด และสิ่งที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้รีไซเคิล
2025-04-30ตัวบ่งชี้ Aroon และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ติดตามแนวโน้ม แต่ตัวใดมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานและกลยุทธ์ของตัวเหล่านี้
2025-04-30