USD/INR ร่วงแตะ 87.65 หลังตลาดคาด Fed ลดดอกเบี้ย ทำดอลลาร์อ่อนค่ากดดันคู่เงิน ขณะที่รูปีอินเดียแข็งค่าท่ามกลางเงินเฟ้อต่ำ
13 ส.ค. 2025 - ค่าเงินรูปีอินเดีย (INR) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ในช่วงบ่ายวันพุธ โดยคู่เงิน USD/INR ร่วงลงใกล้ระดับ 87.65 หลังนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนกันยายน หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลัก ร่วงลง 0.4% แตะใกล้ 97.70 ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่เครื่องมือ CME FedWatch ชี้ว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน พุ่งจาก 86% เมื่อวันจันทร์ สู่ 94% โดยรายงาน CPI สหรัฐฯ ชี้ว่า
เงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ขยายตัว 2.7% YoY ต่ำกว่าคาดที่ 2.8%
เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% สูงกว่าคาดที่ 3% และสูงกว่าครั้งก่อนที่ 2.9%
ทั้งนี้นักวิเคราะห์จาก Scotiabank มองต่างว่า หากพิจารณาลึกลงไป เงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมเร่งตัวสูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม โดย Core CPI เพิ่มขึ้น 0.3% MoM จึงอาจยังไม่ใช่สัญญาณชัดเจนสำหรับการลดดอกเบี้ย
แม้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเป็นปัจจัยหลักที่ดึงคู่ USD/INR ลง แต่ฝั่งรูปีอินเดียก็ยังเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากความเสี่ยงที่เงินเฟ้อภาคค้าปลีกอาจต่ำกว่าคาดของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ซึ่งเพิ่งปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปีงบประมาณนี้จาก 3.7% เหลือ 3.1%
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ดัชนี CPI ภาคค้าปลีกของอินเดีย เดือนกรกฎาคม อยู่ที่เพียง 1.55% YoY ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2017 ต่ำกว่าคาดที่ 1.76% และลดลงจาก 2.1% ในเดือนก่อน
แรงกดดันเงินเฟ้อต่ำนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจอินเดียกำลังเผชิญความเสี่ยงจากการถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษี ซึ่งอาจกระทบการเติบโต GDP ถึง 30-40 bps โดย Pankaj Chaudhary รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของอินเดีย ระบุว่ากว่า 55% ของมูลค่าส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ อยู่ภายใต้ภาษีตอบโต้
นอกจากนี้ สัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเป็น 50% สำหรับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ด้านรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ให้สัมภาษณ์ว่า อินเดียยังมีท่าที “ไม่ค่อยยอมอ่อนข้อ” ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
คู่ USD/INR ร่วงแตะใกล้ 87.65 ในวันพุธ แต่แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาขึ้น เนื่องจากเส้นค่าเฉลี่ย EMA 20 วัน ยังคงมีมุมลาดขึ้นที่บริเวณ 87.30 ขณะที่ดัชนี RSI 14 วัน เคลื่อนไหวในกรอบ 60.00–80.00 บ่งชี้แรงซื้อยังแข็งแกร่ง โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ EMA 20 วัน และแนวต้านสำคัญคือจุดสูงสุดวันที่ 5 สิงหาคม บริเวณ 88.25
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ดัชนี PPI สหรัฐพุ่งแรงในรอบ 3 ปี หุ้นสหรัฐแกว่ง ดอลลาร์แข็ง ฉุดทองคำร่วง นักลงทุนจับตาเฟดและเจรจาสหรัฐ-รัสเซียเขย่าตลาดทั่วโลก
2025-08-15แม้ความต้องการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงจะฟื้นตัว แต่ค่าเงินฟรังก์สวิสยังคงปรับขึ้นกว่า 10% และมีความสัมพันธ์กับทองคำ ทำให้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนเลือกเป็นอันดับต้นๆ
2025-08-14ตัวเลขดัชนี PPI มีความสำคัญสูง เนื่องจากจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์และความคาดหวังอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่อาจปรับเปลี่ยนได้
2025-08-14