ค้นพบคู่สกุลเงินหลักที่ทำกำไรได้มากที่สุดในปี 2025 จากการจัดอันดับของเรา พร้อมข้อมูลว่าแต่ละคู่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ในปีนี้
ในปี 2025 เทรดเดอร์ในตลาดฟอเร็กซ์ต่างจับตามองคู่สกุลเงินหลักที่สร้างโอกาสจากความผันผวน ความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่เปลี่ยนแปลง
คู่สกุลเงินหลักอย่าง EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, AUD/USD และ USD/CAD กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการทำกำไรข
ด้านล่างนี้คือรายการจัดอันดับแบบเจาะลึกของคู่สกุลเงินหลักที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปีนี้ พร้อมข้อมูลการเคลื่อนไหวล่าสุด เทรนด์สำคัญ และมุมมองจากเทรดเดอร์ทั่วโลก
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
EUR/USD เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยมีสัดส่วนราว 20–23% ของปริมาณการซื้อขายรายวัน ทำให้มีสเปรดที่แคบ สภาพคล่องสูง และตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
ในช่วงต้นปี ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ ~1.183 ก่อนจะอ่อนลงสู่โซน 1.15 หลังการเจรจาการค้าสหรัฐ-ยุโรปที่กำหนดภาษี 15%
เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ทั้งจากฝั่ง Long และ Short ในช่วงความผันผวนนี้
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
สภาพคล่องสูง และสเปรดแคบ
อ่อนไหวต่อนโยบาย Fed กับ ECB เงินเฟ้อสหรัฐ และการค้าระหว่างประเทศ
การปรับลง ~2.5% ในสองวันล่าสุดจุดชนวนให้เกิดโมเมนตัมเทรด
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
USD/JPY ได้รับประโยชน์จากนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน ญี่ปุ่นยังคงดอกเบี้ยต่ำมาก ขณะที่สหรัฐยังคงดอกเบี้ยสูง ดอลลาร์แข็งค่าจาก ~146 ไปถึง ~153–154 เยน ทำให้เทรดเดอร์สายโมเมนตัมทำกำไรได้หลายเปอร์เซ็นต์
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
มีทิศทางชัดเจนตามแนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
ธนาคารกลางญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ย 0.1% เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
เหมาะกับการเทรดในทั้งภาวะเสี่ยงมากและเสี่ยงน้อย
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจอังกฤษและข้อตกลงการค้า Brexit ทำให้ GBP/USD ผันผวนในช่วง 1.235–1.25 เทรดเดอร์ทำกำไรได้ดีจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงระหว่างการแถลงของธนาคารกลางหรือข้อมูลสหรัฐ
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
มีช่วง pip ที่กว้างและลักษณะเทคนิคชัดเจน
ตอบสนองแรงต่อข้อมูลเศรษฐกิจ
ใช้ได้ทั้งกลยุทธ์ Scalping และ Swing Trading
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
AUD แข็งค่าขึ้นในช่วงต้นปี 2025 เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สดใสในจีน ซึ่งต่อมาก็ลดลงเมื่อความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงทั่วโลกเปลี่ยนไป ความผันผวนนี้ส่งผลให้การซื้อขายทำกำไรได้ในช่วง 0.6355–0.6565
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น แร่เหล็ก ทองคำ และดัชนี PMI ของจีน
เทรดเดอร์ใช้ได้ทั้งกลยุทธ์ Breakout และ Range Trading
อัตราส่วนที่แตกต่างกันระหว่าง RBA และ Fed สนับสนุนการเทรดแบบ Carry Trade
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
USD/CAD ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1.39 เป็นประมาณ 1.42 เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา คู่เงินนี้ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงภาษีศุลกากรสินค้าโภคภัณฑ์และจุดยืนของธนาคารกลางที่แตกต่างกัน
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
ตอบสนองต่อราคาน้ำมัน ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์
สัญญาณทิศทางมหภาคที่ชัดเจนจาก Fed เทียบกับ BoC
ช่วงราคากว้างเหมาะกับกลยุทธ์ Breakout
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
แม้ความผันผวนต่ำ USD/CHF ยังคงให้ผลตอบแทนดีช่วงตลาดอยู่ในโหมด Risk-On CHF แข็งค่าระยะสั้นเมื่อเกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
ใช้เก็บกำไรในช่วง Pullback
ความผันผวนต่ำแต่กลับตัวได้แม่น
ใช้เป็นเครื่องมือ Hedge หรือกระจายความเสี่ยง
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
EUR/JPY พุ่งขึ้นแตะระดับประมาณ 159–160 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงระมัดระวัง ส่วนเงินเยนอ่อนค่าลงเนื่องจากนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เทรดเดอร์แบบ Swing Trade ปรับตัวขึ้น 3–6% ในช่วงที่ความผันผวนสูง
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
จับทิศทางยูโรแข็งและเยนอ่อนพร้อมกัน
เคลื่อนไหวแรงช่วงตลาด Risk-On
รูปแบบเทคนิคเช่นการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนไหวชัดเจน
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
GBP/JPY เคลื่อนไหวแรงในปี 2025 โดยเฉพาะจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ BoE และ BoJ ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ในรูปเยนให้ผลตอบแทนหลักสิบเปอร์เซ็นต์
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
ความผันผวนสูงมาก เหมาะกับ Momentum Trader
ปัจจัยพื้นฐานเด่นจากอังกฤษและเอเชีย
ใช้ได้ดีกับ Stop Loss แคบและเทรดแบบมีเลเวอเรจ
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
EUR/GBP เคลื่อนไหวในกรอบแคบ (~1.15–1.17) แต่ยังมีโอกาสทำกำไรจากความต่างของนโยบาย ECB กับ BoE ยูโรแข็งเล็กน้อยหลังความเชื่อมั่นในยูโรโซนปรับตัวดีขึ้น
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
ไม่ผันผวนตามดอลลาร์มาก
เทรดจากคาดการณ์ดอกเบี้ยของ ECB กับ BoE
กลยุทธ์ Range Trading ได้ผลดีในคู่สกุลเงินนี้
ผลตอบแทนและศักยภาพทำกำไร
NZD แข็งค่าจากราคาสินค้าเกษตรส่งออก แต่หลังเศรษฐกิจจีนอ่อนแรง ค่าเงินถอยจาก ~0.594 ลงสู่ ~0.574 เทรดเดอร์ใช้ประโยชน์จากการอ่อนตัวนี้
เหตุผลที่ทำกำไรได้ดี
เคลื่อนไหวตามราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะนม
ไวต่อความเสี่ยงทั่วโลก ทำให้เหมาะกับเทรดตามเทรนด์
ดีต่อกลยุทธ์เทรดในภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนผ่าน
อันดับ | คู่สกุลเงิน | ประเด็นสำคัญปี 2025 |
1 | EUR/USD | ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย, ภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป, ความผันผวนของเงินยูโร |
2 | USD/JPY | นโยบายของ Fed-Bo,j การเปลี่ยนแปลงของ Sentiment ความเสี่ยง |
3 | GDP/USD | ความไม่แน่นอนของ Brexit, ความผันผวน, อัตราผลตอบแทน BoE vs Fed |
4 | AUD/USD | การฟื้นตัวของสินค้าโภคภัณฑ์, ความต้องการของจีน, ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย |
5 | USD/CAD | ราคาน้ำมันผันผวน, อัตราดอกเบี้ยในอเมริกาเหนือที่แตกต่างกัน |
6 | USD/CHF | กระแสเงินทุนปลอดภัย, การแทรกแซงของ SNB, การซื้อขายที่มีความผันผวนต่ำ |
7 | EUR/JPY | ความแตกต่างระหว่าง ECB กับ BoJ, การเคลื่อนไหวสำคัญที่เน้นความเสี่ยง |
8 | GDP/JPY | ความผันผวนสูง, โมเมนตัมมหภาค, การวางตำแหน่งที่ซับซ้อน |
9 | EUR/GBP | การซื้อขายที่เหลือของ Brexit, ความแตกต่างด้านนโยบาย ECB/BoE |
10 | NZD/USD | ความผันผวนที่ขับเคลื่อนโดยการส่งออก, ความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงของจีน |
ความแตกต่างระหว่างธนาคารกลางและช่องว่างอัตราดอกเบี้ย
การเทรดที่ทำกำไรได้มากในปีนี้มักมาจากการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง ขณะที่ประเทศอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์ยังคงท่าทีผ่อนคลาย ทำให้เกิดแนวโน้มราคาที่ชัดเจน
การค้าโลกและการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีศุลกากร
ข้อตกลงทางการค้าและภาษีศุลกากร (เช่น สหรัฐฯ–สหภาพยุโรป สหรัฐฯ–ญี่ปุ่น) กระตุ้นให้เกิดการปรับอย่างรวดเร็วในคู่ EUR/USD, USD/JPY และคู่ที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์
ความเชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์
คู่ AUD/USD และ USD/CAD เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาแร่เหล็กและน้ำมัน ซึ่งสัมพันธ์กับทิศทางเศรษฐกิจโลกและความคาดหวังต่อนโยบายของFed
วัฏจักร Risk-On/Risk-Off
คู่เงินเช่น USD/JPY, GBP/JPY, EUR/JPY และ USD/CHF มอบโอกาสอันทันท่วงทีในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากความยอมรับความเสี่ยงและการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ท่าทีของ Fed: คำพูดของพาวเวลในเดือนกรกฎาคมที่ส่งสัญญาณ "ดอกเบี้ยสูงยาวนาน" ยิ่งหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า
ความต่างของ ECB และ BoE: ยูโรโซนอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่า ขณะที่ BoE ยังมีแนวโน้มปรับขึ้น ส่งผลต่อ EUR/USD และคู่สกุลเงินที่มี GBP
สัญญาณจาก BoJ: หากญี่ปุ่นเริ่มกลับสู่ภาวะปกติด้านนโยบายการเงิน อาจส่งแรงหนุนให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น
แนวโน้มราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์: มีผลชัดเจนต่อคู่ AUD และ CAD
ความเสี่ยงในตลาด: หากความตึงเครียดโลกกลับมา จะหนุนให้เงินเยน (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
คู่สกุลเงินหลักที่ทำกำไรได้มากที่สุดในปี 2025 ล้วนมีแนวโน้มราคาที่ชัดเจนจากปัจจัยด้านนโยบายการเงิน ความเปลี่ยนแปลงของการค้าโลก และความผันผวนของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องยังคงต้องอาศัยการติดตามข่าวสารมหภาค ความแม่นยำทางเทคนิค และวินัยในการบริหารความเสี่ยง ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์รายวัน Swing Trade หรือถือระยะยาว คู่เหล่านี้ยังคงเป็นโอกาสหากรู้จักบริหารอย่างมีระบบ
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
หุ้น Figma ยังน่าซื้อหลังจาก IPO พุ่งสูงขนาดนี้หรือไม่? เรามาวิเคราะห์การพุ่งขึ้น 250% แนวโน้มตลาด และสิ่งที่คาดหวังต่อไป
2025-08-01เพิ่งเริ่มเทรดใช่ไหม? ค้นพบว่าทำไม EBC ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นแพลตฟอร์มคัดลอกเทรดที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นในปี 2025 เรียนรู้ฟีเจอร์ ประโยชน์ และวิธีการเริ่มต้นใช้งาน
2025-07-31เจาะลึกกราฟ XAUUSD อย่างมือโปร พร้อมเผยจุดแนวรับ-แนวต้าน รูปแบบกราฟ และอินดิเคเตอร์สำคัญ เพื่อส่งเสริมความสำเร็จในกาเทรดทองคำของคุณ
2025-07-31