ค้นพบ 7 สาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้น PayPal ร่วงในปี 2025 ตั้งแต่การเติบโตที่ชะลอตัวไปจนถึงการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ ยังน่าพิจารณาในฐานะการลงทุนที่เหมาะสมอยู่หรือไม่?
หุ้น PayPal (NASDAQ: PYPL) ได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในปี 2025 โดยร่วงลงมากกว่า 25% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากในหมู่นักลงทุนและนักวิเคราะห์
แม้บริษัทจะยังคงมีกำไรและเดินหน้ากลยุทธ์สำคัญต่าง ๆ แต่ราคาหุ้นกลับยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมหุ้น PayPal จึงดิ่งลงในปีนี้ และมีโอกาสฟื้นตัวหรือไม่?
บทความนี้จะวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังการปรับตัวลงของหุ้น Paypal ตรวจสอบข้อมูลการเงินล่าสุด และสำรวจแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2025 ไปจนถึงปี 2026
ราคาหุ้นของ PayPal ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งปีแรกของปี 2025 โดยร่วงจากประมาณ 81.20 ดอลลาร์ เมื่อต้นเดือนมกราคม เหลือ 68.57 ดอลลาร์ กลางเดือนมิถุนายน คิดเป็นการลดลงประมาณ 15.6%
แม้จะไม่ใช่การร่วงลงที่รุนแรงมากในแง่เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่ามีนัยสำคัญ เมื่อพิจารณาจากภาพรวมของตลาดเทคโนโลยีที่ยังคงแข็งแกร่ง และประวัติการทำกำไรที่มั่นคงของบริษัท ต่อไปนี้คือภาพรวมรายเดือน:
เดือน | ราคาปิดโดยเฉลี่ย (USD) | การเปลี่ยนแปลงรายเดือน |
---|---|---|
ม.ค | 81.20 | - |
ก.พ. | 78.45 | –3.4% |
มี.ค. | 72.30 | –7.8% |
เม.ย. | 70.10 | –3.0% |
พ.ค. | 69.80 | –0.4% |
มิ.ย. | 68.57 | –1.8% |
มกราคม 2025 – การเริ่มต้นอย่างการระมัดระวัง
ราคาเปิด: ~81.20 ดอลลาร์
ราคาปิด: ~78.45 ดอลลาร์
การเปลี่ยนแปลง: –3.4%
แม้จะเปิดปีด้วยความคาดหวังว่า PayPal จะได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายหลังเทศกาล แต่ผู้บริหารกลับส่งสัญญาณว่าความต้องการของผู้บริโภคไม่เติบโต และรายได้ไตรมาส 4 คงที่ แม้กำไรสุทธิจะยังแข็งแรง
อีกทั้งการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมผู้ค้าในเดือนมกราคมยังถูกวิจารณ์อย่างหนัก สะท้อนถึงความท้าทายด้านการสร้างรายได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง
กุมภาพันธ์ 2025 – การย่อตัวของตลาดตามคำแนะนำ
ราคาเปิด: ~ 78.45 ดอลลาร์
ราคาปิด: ~ 72.30 ดอลลาร์
เปลี่ยนแปลง: –7.8%
ในเดือนกุมภาพันธ์ PayPal รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2024 แม้ว่าบริษัทจะมีรายได้ต่อหุ้น (EPS) สูงกว่าที่คาดไว้ แต่รายได้กลับไม่ถึงเป้า และแนวโน้มการเติบโตในอนาคตยังคงระมัดระวัง นักลงทุนจึงผิดหวังและเทขายหลังการประชุมผลประกอบการ
นักวิเคราะห์หลายสำนักปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นลง หลังไม่เห็นแรงผลักดันจากรายได้
มีนาคม 2025 – ความกังวลด้านกฎระเบียบทวีความรุนแรงมากขึ้น
ราคาเปิด: ~ 72.30 ดอลลาร์
ราคาปิด: ~ 70.10 ดอลลาร์
เปลี่ยนแปลง: –3.0%
ในเดือนมีนาคม ข่าวลือเกี่ยวกับมาตรการเก็บภาษีจากผู้ให้บริการดิจิทัลของสหรัฐในสหภาพยุโรป เช่น PayPal, Amazon และ Stripe เพิ่มความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ถึงแม้มาตรการยังไม่เริ่มใช้จริง แต่ก็สร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้น
เมษายน 2025 – การซื้อขายคงที่แม้จะมี EPS ที่แข็งแกร่ง
ราคาเปิด: ~ 70.10 ดอลลาร์
ราคาปิด: ~ 69.80 ดอลลาร์
เปลี่ยนแปลง: –0.4%
รายงานไตรมาสแรกเผยว่า PayPal มีกำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโตจากการควบคุมต้นทุนและการซื้อหุ้นคืน แต่รายได้เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
บริษัทยังคงเป้าหมายรายปีเดิม โดยไม่มีการปรับเพิ่ม นักลงทุนจึงมองว่าการเติบโตในระยะสั้นยังชะงัก
พฤษภาคม 2025 – ข่าวกลยุทธ์ใหม่ยังไม่จุดประกาย
ราคาเปิด: ~ 69.80 ดอลลาร์
ราคาปิด: ~ 68.57 ดอลลาร์
เปลี่ยนแปลง: –1.8%
ในเดือนพฤษภาคม PayPal เปิดตัวแพลตฟอร์ม Unified Commerce และการเชื่อมโยงระหว่าง PayPal, Venmo และการชำระเงินแบบมีแบรนด์
แม้จะสะท้อนถึงการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ระยะยาว แต่ยังไม่มีตัวเลขที่แสดงการเติบโตของผู้ใช้หรือร้านค้าที่ชัดเจน ตลาดจึงตอบรับอย่างเย็นชา
มิถุนายน 2025 – เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด
ราคาปัจจุบัน: 68.57 ดอลลาร์
แนวโน้ม : Sideways ไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ
ณ กลางเดือนมิถุนายน ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (ประมาณ 75 ดอลลาร์) และมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงอีก หากผลประกอบการไตรมาสถัดไปหรือปัจจัยมหภาคไม่เอื้ออำนวย ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับปัจจัยหนุนการเติบโตระยะสั้น ทำให้นักลงทุนยังคงระมัดระวัง และมุมมองต่อหุ้นยังคงโน้มเอียงไปในทางลบ
1. รายได้ทรงตัว แม้กำไรยังแข็งแกร่ง
แม้ว่า PayPal จะยังสร้างกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่แข็งแกร่ง และมีกระแสเงินสดอิสระที่น่าประทับใจ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่การเติบโตของรายได้รวมกลับหยุดนิ่ง รายได้ในไตรมาส 1 ปี 2025 เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดหวัง และทำให้นักลงทุนผิดหวังที่คาดหวังการเติบโตจากแพลตฟอร์มฟินเทคชั้นนำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความชะลอตัวของยอดธุรกรรมรวม (TPV) นั้นน่ากังวลมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจหลักอย่างระบบชำระเงิน (checkout) ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตลาดมักจะให้ความสำคัญกับการเติบโตมากกว่ากำไร และการขยายตัวของรายได้ที่ชะลอตัวนี้ทำให้หุ้น PayPal ถูกมองว่าเป็นกับดักมูลค่า (value trap) มากกว่าจะเป็นโอกาสเติบโตในอนาคต
2. แนวโน้มผลประกอบการไม่สดใส และความระมัดระวังของ CEO
ผู้บริหารของ PayPal แสดงท่าทีระมัดระวังในทุกการประชุมรายงานผลประกอบการ แม้ EPS จะออกมาดี แต่บริษัทยังยืนยันเป้าหมายรายปีเดิม โดยให้เหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและแรงกดดันจากการแข่งขัน การที่ไม่มีแนวโน้มเชิงบวกเหมือนบริษัทเทคโนโลยีอื่น ยิ่งทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ
ในช่วงที่ดอกเบี้ยยังสูงและตลาดระมัดระวัง ความมั่นใจและความชัดเจนจากผู้บริหารจึงมีความสำคัญอย่างมาก ท่าทีที่ระมัดระวังของ PayPal ทำให้นักวิเคราะห์ไม่แน่ใจว่าบริษัทคาดหวังการเติบโตจะกลับมาเร่งขึ้น หรือจะหยุดชะงักต่อไปอีก
3. แรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
ตลาดฟินเทคมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดย PayPal ต้องเผชิญกับคู่แข่งทั้งจากบริษัทยักษ์ใหญ่และผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการ:
Apple Pay ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในจุดขายและกระเป๋าเงินดิจิทัล
Zelle และ Cash App แย่งส่วนแบ่งจาก Venmo ในกลุ่มการโอนเงินแบบ P2P
แพลตฟอร์ม Buy Now, Pay Later (BNPL) จากบริษัทอื่นเริ่มแย่งผู้ใช้ไปจากบริการ Pay Later ของ PayPal โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ
เมื่อต้นปี 2025 PayPal ได้ขึ้นค่าธรรมเนียมเพื่อรักษากำไร แต่กลับสร้างความไม่พอใจแก่ทั้งผู้ค้าและผู้ใช้ ทำให้หันไปหาแพลตฟอร์มอื่นแทน
4. ผู้ค้าไม่พอใจการขึ้นค่าธรรมเนียม
PayPal ได้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของผู้ค้าตั้งแต่เดือนมกราคม เช่น ค่าธรรมเนียม Pay Later เพิ่มจาก 3.49% เป็น 4.99% และมีการปรับขึ้นในบริการอื่น ๆ ด้วย ราคาหุ้นร่วงทันที 5% ภายในสัปดาห์หลังประกาศโดยผู้ค้าหลายรายออกมาวิจารณ์อย่างรุนแรง
แม้ว่าการปรับค่าธรรมเนียมจะช่วยเพิ่มรายได้ในระยะสั้นได้ แต่ก็เสี่ยงที่จะทำลายความจงรักภักดีในระยะยาวของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่ไวต่อราคาซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบเครือข่ายของ PayPal
5. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและความเสี่ยงทางการเมือง
PayPal กำลังเผชิญกับความซับซ้อนและแรงเสียดทานทั้งด้านกฎหมายและการเมือง เช่น ภาษีบริการดิจิทัลในยุโรป การตรวจสอบค่าธรรมเนียมฟินเทคที่เข้มข้นขึ้น และร่างกฎหมาย Stablecoin ในสหรัฐฯ ซึ่งกระทบกับโครงการ PYUSD ของบริษัท
ในเดือนมีนาคม 2025 PayPal ตกเป็นข่าวจากข้อเสนอเรียกเก็บภาษีดิจิทัลของสหภาพยุโรป แม้มาตรการจะยังไม่บังคับใช้จริง แต่ก็สร้างแรงกดดันและตอกย้ำความเปราะบางของบริษัทในเวทีภูมิรัฐศาสตร์
6. ความเสี่ยงในการดำเนินกลยุทธ์เปลี่ยนผ่าน
PayPal กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จากผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล ไปสู่แพลตฟอร์มการค้าแบบครบวงจร ซึ่งรวมถึง:
การรวมระบบชำระเงินระหว่าง PayPal, Venmo และบริการสำหรับร้านค้า
การลงทุนในระบบ AI ป้องกันการฉ้อโกงและฟีเจอร์การค้าเฉพาะบุคคล
การผลักดัน PYUSD (Stablecoin) สำหรับการโอนเงินและชำระเงินระหว่างประเทศ
แม้กลยุทธ์เหล่านี้จะมีเหตุผล แต่ก็มีความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน นักลงทุนจึงยังอยู่ในโหมด “รอดูสถานการณ์” และหากเกิดความล่าช้าหรือดำเนินการผิดพลาด โดยเฉพาะในด้านการสร้างรายได้จาก Venmo หรือการใช้งาน PYUSD ก็อาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นของตลาดลดลงอีกด้วย
7. บรรยากาศในกลุ่มฟินเทคและเทคโนโลยียังอ่อนแรง
ในภาพรวมหุ้นกลุ่มฟินเทคทั่วทั้งตลาดกำลังถูกกดดันจากหลายปัจจัย เช่น ดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง (Fed คงอัตราไว้เกิน 4%) และการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มชะลอตัว ปริมาณการชำระเงินดิจิทัลจึงได้รับผลกระทบ
นักลงทุนจึงเริ่มหมุนเงินไปลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีความปลอดภัยสูงและจ่ายเงินปันผล เช่น กลุ่มพลังงานและสุขภาพ แม้พื้นฐานของ PayPal จะยังดูมั่นคง แต่ในช่วงที่ตลาดไม่สนใจหุ้นเติบโต หุ้น PayPal จึงถูกเทขายต่อเนื่อง จนกว่าสภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวหรือมุมมองต่อฟินเทคกลับมาในทางบวกอีกครั้ง
นักวิเคราะห์ประเมินว่าราคาหุ้น PayPal ภายในสิ้นปี 2025 อาจอยู่ในช่วง 70-82 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับผลประกอบการไตรมาส 3 และทิศทางเศรษฐกิจมหภาค หาก PayPal สามารถสร้างการเติบโตในบริการ Branded Checkout หรือเพิ่มรายได้จาก Venmo ได้อย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นอาจกลับไปทดสอบระดับ 75–78 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีพัฒนาการที่ชัดเจน ราคาหุ้นก็อาจยังติดอยู่ในช่วงปัจจุบันที่ประมาณ 68–70 ดอลลาร์
Base Case: 72–75 ดอลลาร์
Bear Case: 60–65 ดอลลาร์
Bull Case: 80 ดอลลาร์ขึ้นไป
แนวโน้มปี 2026
ปี 2026 อาจสามารถฟื้นตัวได้หาก:
อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืน
การเติบโตของการชำระเงินดิจิทัลฟื้นตัวทั่วโลก
นวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น Stablecoin ของ PayPal และ Embedded Finance ได้รับการตอบรับที่ดี
หากรายได้และกำไรสามารถเติบโตต่อเนื่อง ราคาหุ้นอาจขยับขึ้นกลับไปแตะระดับ 85–95 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะยังต่ำกว่าช่วงพีคในยุคโควิด แต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวที่มีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบัน
การที่หุ้น PayPal ปรับตัวลดลงในปี 2025 ไม่ได้เกิดจากการขาดกำไรหรือปัญหาด้านกระแสเงินสด แต่เป็นผลสะท้อนจากรายได้ที่เติบโตช้าลงอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มผลประกอบการที่ระมัดระวัง แรงกดดันจากการแข่งขัน ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ และบรรยากาศในตลาดฟินเทคที่อ่อนแรง
แม้บริษัทจะยังมีงบดุลที่แข็งแกร่ง และมีแผนพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง แต่หากต้องการฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุน PayPal จำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเร่งการเติบโตอีกครั้งในอนาคตอันใกล้
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต
2025-06-20ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย
2025-06-20สกุลเงินของอินเดียคืออะไร ค้นพบความแข็งแกร่งในปัจจุบันและเปรียบเทียบกับสกุลเงินหลัก เช่น USD และ EUR
2025-06-20