มีทุนน้อยไม่ใช่ปัจจัยสำคัญกับการเทรด CFDs คุณสามารถเริ่มต้นเทรดได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้ เงินก้อนโต
การเทรด CFDs หรือการซื้อขายสัญญาส่วนต่างนั้น เป็นการเทรดที่มีการเติบโตในตลาดมานานมากแล้ว และมีเทรดเดอร์นิยมลงทุนอยู่ทั่วโลก หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่อาจจะเข้าใจผิดว่า การเริ่มต้นเทรด CFDs อย่างแรกเลยคือ จะต้องมีทุนหนาพอสมควรถึงจะเริ่มการเทรดนี้ได้ แต่ความเป็นจริงแล้วการเทรด CFDs ก็เหมือนการเทรดสินทรัพย์ทั่วไป ที่เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนมือใหม่โดยไม่กำหนดว่าจะต้องเริ่มเทรดด้วยทุนหลักหมื่นหลักแสน เพราะสามารถเริ่มต้นเทรดด้วยหลักร้อยได้เลย
การเทรดรูปแบบ CFDs เป็นการเทรดที่เอื้อประโยชน์ให้กับเทรดเดอร์ที่ยังเป็นมือใหม่มีทุนน้อย ด้วยการที่มีระบบมาร์จิน (Margin) เข้ามาสนับสนุน คือ นักเทรดสามารถที่จะกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์ มาเป็นหลักประกันในการลงทุนได้ ซึ่งเงื่อนไขการยืมเงิน และอัตราดอกเบี้ยของมาร์จิน (Margin) นั้น ขึ้นอยู่กับขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ ของแต่ละบริษัทแตกต่างกันไป ซึ่งการเทรด CFDs รูปแบบนี้มักเป็นที่นิยม นักเทรดสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เพราะตามปกติแล้วการซื้อขายสัญญาในตลาดหุ้น จะให้เทรดเดอร์วางคำสั่งซื้อเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับการเทรด CFDs จะอนุญาตให้เทรดเดอร์วางคำสั่งขายพร้อมกันได้อีกด้วย
นอกจากระบบมาร์จิน (Margin) แล้ว นักลงทุนยังสามารถใช้ระบบเลเวอเรท (Leverage) เข้ามาช่วยให้เข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนจำนวนน้อยได้ ดังนั้นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมการเทรด CFDs ถึงเริ่มต้นจากทุนหลักร้อยได้สบาย ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่านักเทรดมือใหม่จะเข้ามาเทรดด้วยมือเปล่า อย่างน้อยเริ่มต้นก็ต้องมีเงินทุนสำรองของตัวนักเทรดเองด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ประกอบในการขออนุมัติกู้ยืมเงินจากระบบมาร์จิน (Margin) และระบบเลเวอเรท (Leverage)
1. มีความน่าเชื่อถือ นักเทรดต้องตรวจสอบด้วยว่า โบรกเกอร์นั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงใด มาจากสถาบันทางการเงินที่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และมีความรับผิดชอบในการบริหารเงินทุนของคุณอย่างถูกกฎหมาย โดยจะต้องได้รับการรับรองจาก Financial Conduct Authority (FCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับนโยบายทางการเงินที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
2. การดูแลนักเทรดอย่างทั่วถึง นักเทรดหลายท่านอาจจะประสบกับปัญญาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หรือพบเจอกับสถานการณ์ที่ไม่อาจตัดสินใจได้เอง จึงต้องพึ่งพาโบรกเกอร์เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน โบรกเกอร์ที่ดีจะต้องสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย
3. มีความรู้ และอัปเดตข่าวสารใหม่ ๆ อยู่เสมอ โบรกเกอร์จะต้องมีความรู้รอบด้านเกี่ยวกับตลาดการเงิน การลงทุน กลยุทธ์การเทรด ข่าวสารตลาดลงทุน อัตราค่าเงินต่างประเทศ และควรรู้มากกว่านักเทรด เพื่อที่จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่ถูกต้องแก่นักเทรดมือใหม่
ไม่ว่าคุณจะเรียนจบสาขาอะไรมา แต่ก่อนที่จะเป็นเทรดเดอร์คุณจะต้องศึกษาความรู้พื้นฐาน 3 อย่าง ดังนี้
1. ความรู้ด้านการเงิน ศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับการลงทุน อัตราส่วนที่จะได้รับเมื่อมีการลงทุน รวมไปถึงการคำนวณดอกเบี้ยในสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่ต้องการลงทุน หากเข้าใจตรงนี้แล้วก็จะสามารถวางแผนการเงินในการเทรดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
2. ความรู้ในตลาดที่เข้าไปลงทุน นักเทรดมือใหม่ควรศึกษาตลาดการเงิน ตราสารหนี้ ตราสารทุน และโครงสร้างหลักการทำงานของตลาดการเงินด้วย เพื่อให้เข้าใจกลไกตลาดสกุลเงิน การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพราะจะได้เรียนรู้กลยุทธ์เกี่ยวกับการซื้อขายแลกเปลี่ยน และทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดความผันผวนของตลาด ซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน
3. การบริหารความเสี่ยง เมื่อมีความรู้เกี่ยวกับการเงินและตลาดการลงทุนแล้ว นักเทรดควรศึกษาการวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงในการลงทุนด้วย เพราะทุกการเทรดย่อมต้องเผชิญกับการขาดทุน หรือเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน หากเผลอประมาทเลินเล่อลงทุนซื้อขายสัญญา หรือหุ้น โดยขาดการตรวจสอบราคาสัญญาที่ซื้อขายกันนั้นให้ดีก่อน
การจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝัน เพียงแต่ต้องอาศัยเวลา ความพยายาม และที่สำคัญจะต้องรักษาวินัยในการเทรดอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเทรดมากเกินไปหรือบ่อยเกินไป เพราะการที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เทรด แต่ขึ้นอยู่กับการเทรดที่มีความเหมาะสมในแง่ของคุณภาพ และความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่จะซื้อขายนั้นมากกว่า