เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-17
หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนที่ยืดหยุ่น ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่เท่าการซื้อหุ้นแบบดั้งเดิม และสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะสดใสหรือซบเซา CFD (Contract for Difference) อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหาอยู่ค่ะ
ในบทความนี้ EBC Financial Group จะพาคุณไปทำความเข้าใจแบบเจาะลึกแต่เข้าใจง่ายว่า CFD คืออะไร ทำไมมันถึงเป็นเครื่องมือยอดนิยมของเทรดเดอร์ทั่วโลก และเราจะใช้ประโยชน์จากมันอย่างไรให้ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด

CFD ย่อมาจาก Contract for Difference หรือในภาษาไทยคือ “สัญญาซื้อขายส่วนต่าง” ค่ะ
อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ คือ มันเป็นข้อตกลงระหว่าง "คุณ" (ผู้ลงทุน) และ "โบรกเกอร์" (อย่างเช่นเรา) เพื่อทำการแลกเปลี่ยนส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ ตั้งแต่เวลาที่คุณเริ่มเปิดสัญญา ไปจนถึงตอนที่คุณปิดสัญญา
หลายคนได้ยินคำนี้แล้วถอดใจเพราะดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วหลักการของมันเรียบง่ายมากค่ะ:
คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์จริงๆ: คุณไม่ได้ถือครองใบหุ้นทองคำแท่ง หรือถังน้ำมันจริงๆ กลับบ้าน
คุณเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา: สิ่งที่คุณทำคือการ "คาดการณ์" ว่าราคาของสินทรัพย์นั้นๆ จะ ขึ้น หรือ ลง
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ:
การซื้อหุ้นดั้งเดิม: หากคุณอยากลงทุนในหุ้น Barclays 10,000 หุ้น ที่ราคา 280p คุณต้องใช้เงินสดเต็มจำนวนคือ 28,000 ปอนด์ เพื่อแลกกับใบหุ้นและการเป็นเจ้าของ
การเทรด CFD: คุณไม่ต้องใช้เงิน 28,000 ปอนด์ และคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น Barclays แต่คุณสามารถทำกำไรจากการขึ้นลงของราคาหุ้น Barclays ได้เหมือนกัน (และใช้เงินทุนน้อยกว่ามาก)
นี่คือฟีเจอร์พระเอกของ CFD ค่ะ Leverage (เลเวอเรจ) หรือการใช้อัตราทด มันคือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณ "วางเงินเพียงบางส่วน แต่เทรดได้ในปริมาณมาก"
ลองนึกภาพคุณต้องการซื้อหุ้น Barclays จำนวน 10,000 หุ้น (มูลค่ารวม 28,000 ปอนด์)
ถ้าเทรดปกติ: คุณต้องจ่าย 28,000 ปอนด์
ถ้าเทรด CFD กับเรา (Leverage 1:5): คุณวางเงินมัดจำ (Margin) เพียงแค่ 20% หรือประมาณ 5,600 ปอนด์ เท่านั้น แต่คุณถือครองสถานะที่มีมูลค่าเท่ากับ 28,000 ปอนด์ได้เลย
สมมติราคาหุ้น Barclays เพิ่มขึ้น 10%:
ซื้อหุ้นปกติ: กำไร 2,800 ปอนด์ (คิดเป็น 10% ของเงินลงทุน)
เทรด CFD: กำไร 2,800 ปอนด์ เท่ากัน แต่เมื่อเทียบกับเงินต้นที่คุณลงไปแค่ 5,600 ปอนด์... เท่ากับว่าคุณได้กำไรถึง 50%
⚠️ คำเตือนสำคัญจากผู้เชี่ยวชาญ: เหรียญย่อมมีสองด้านครับ Leverage ช่วยเพิ่มกำไรได้มหาศาล แต่ถ้าตลาดสวนทาง (หุ้นตก 10%) คุณก็จะขาดทุน 50% ของเงินต้นเช่นกัน การเข้าใจเรื่อง Margin Call และการบริหารหน้าตักจึงสำคัญมาก ซึ่งที่ EBC Financial Group ของคุณ] เรามีทีมซัพพอร์ตและเครื่องมือช่วยเตือนความเสี่ยงให้คุณเสมอ
นอกจากเรื่องเงินทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่าแล้ว CFD ยังมีความยืดหยุ่นสูงมากในการทำกำไร:
นี่คือจุดเด่นที่การซื้อหุ้นปกติทำได้ยาก:
คิดว่าราคาจะขึ้น? เปิดสถานะ Buy (Long) -> ราคาขึ้น = กำไร
คิดว่าราคาจะร่วง? เปิดสถานะ Sell (Short) -> ราคาลง = กำไร
ตัวอย่าง: หากคุณวิเคราะห์ว่าหุ้น Apple กำลังจะร่วง คุณสามารถเปิดสถานะ Sell ได้ทันที ยิ่งราคาร่วงลงไปเท่าไหร่ คุณยิ่งได้กำไรจากส่วนต่างนั้น นี่คือกลยุทธ์ที่ทำให้เทรดเดอร์อยู่รอดได้แม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
ที่ EBC Financial Group เราเปิดประตูสู่ตลาดโลกให้คุณในบัญชีเดียว เรามีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 1,500 รายการ ไม่ว่าจะเป็น:

Forex CFDs
Commodity CFDs การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ, น้ำมัน, เงิน, ก๊าซธรรมชาติ
Cryptocurrency CFDs
Index CFDs การเทรด ดัชนีตลาดหุ้น เช่น S&P 500, NASDAQ, Dow Jones, DAX
ต่างจาก Options หรือ Futures บางประเภท ส่วนใหญ่แล้ว CFD ไม่มีวันหมดอายุ คุณสามารถถือสถานะข้ามวัน หรือจะปิดสถานะเมื่อไหร่ก็ได้ที่คุณพอใจในกำไร เพียงแค่ทำการเทรดในทิศทางตรงกันข้ามกับตอนเปิดสัญญา
เข้าใจทฤษฎีแล้ว มาดูภาคปฏิบัติกันครับ การเทรด CFD มีองค์ประกอบหลักที่คุณต้องเจอ:
Spread (สเปรด) & Commission: เรามีราคา "ซื้อ" และ "ขาย" ให้คุณ ส่วนต่างตรงนี้คือต้นทุนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับโอกาสทำกำไร
Lot Size (ขนาดสัญญา): เรามีขนาดสัญญาที่เป็นมาตรฐาน ทำให้คำนวณกำไรขาดทุนได้ง่าย คล้ายกับการซื้อขายในตลาดจริง
Duration (ระยะเวลา): คุณกำหนดเองได้ 100% จะเทรดสั้น (Day Trade) หรือถือยาว ก็ออกแบบได้ตามสไตล์คุณ
การใช้ Leverage เปรียบเสมือนการขับรถสปอร์ต มันพาคุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วมาก แต่คุณต้องมีเบรกที่ดีเสมอ ในการเทรด CFD เราแนะนำให้ลูกค้าตั้งจุด Stop Loss (ตัดขาดทุน) ทุกครั้งเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ และอย่าลืมทดลองเทรดในบัญชี Demo ของเราจนกว่าจะมั่นใจในกลยุทธ์
หุ้น CFD และ Forex ต่างกันที่สินทรัพย์อ้างอิง โดย CFD เทรดได้หลากหลาย (หุ้น, ดัชนี, โภคภัณฑ์, forex) ผ่านสัญญาเก็งกำไรราคาเคลื่อนไหว ไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง และทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง แต่ Forex คือการเทรดคู่สกุลเงินเท่านั้น และมีสภาพคล่องสูงมาก ทำงาน 24/5 ขณะที่ CFD หุ้นมีเวลาจำกัดตามตลาดหลักทรัพย์.
การเทรด CFD (Contract for Difference) ไม่ผิดกฎหมายสำหรับนักลงทุนรายบุคคลในไทย ที่ไปเทรดกับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตในประเทศตนเอง (เช่น ASIC, FCA) เช่น EBC Financial group
CFD หุ้น (Contract for Difference) ไม่ใช่หุ้นจริง แต่เป็นสัญญาอนุพันธ์ที่ให้นักลงทุนทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้นจริงๆ โดยทำข้อตกลงกับโบรกเกอร์เพื่อเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่ขึ้นหรือลง (Long/Short) โดยใช้เงินทุนน้อยกว่าและมีเเวอเรจทำให้เพิ่มกำไรหรือขาดทุนได้สูง.
กำไรจากการเทรด CFD (Contract for Difference) ในไทย ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 4 (เงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์ หรือเงินได้อื่น ๆ) ต้องนำผลกำไรสุทธิไปรวมกับรายได้อื่น ๆ และคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้าสูงสุด 35% โดยต้องสำแดงและยื่นภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย.
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ