เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-24
นักลงทุนหลายท่านคงสงสัยว่า ทำไมช่วงนี้ที่ ราคาทองวันนี้ พุ่งสูงขึ้น ค่าเงินบาทของไทยกลับ "แข็งค่า" สวนทางกับดอลลาร์อย่างรุนแรง และที่น่าตกใจคือ บาทไทยแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างชัดเจน
ที่ EBC Financial Group เราจะพาคุณไปไขข้อข้องใจนี้แบบเจาะลึก ตัดเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนออก และโฟกัสไปที่ "กลไกการเงิน" ที่เชื่อมโยงทองคำกับเงินบาท เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมตลาดและจับจังหวะทำกำไรได้แม่นยำขึ้น

ก่อนจะไปดูสาเหตุ เรามาเช็คสถานการณ์ปัจจุบันกันก่อน ตลาดทองคำตอนนี้อยู่ในสภาวะ Bullish (ขาขึ้น) อย่างรุนแรง โดยปัจจัยหนุนหลักคือการอ่อนค่าของดอลลาร์และ Demand จากฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยที่ปริมาณการซื้อขายทองคำพุ่งทะลุเป้า
เช็คกราฟ Real-time: หากคุณต้องการดูจุดเข้าซื้อ-ขายที่แม่นยำ สามารถดู ราคาทองวันนี้ และกราฟเทคนิคอลแบบเรียลไทม์ได้ที่แพลตฟอร์มของ EBC หรือเว็บไซต์อ้างอิงอย่าง GoldPrice.org
นี่คือหัวใจสำคัญของบทความนี้ครับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุชัดเจนว่า "ทองคำ" คือตัวการหลักที่กำหนดทิศทางเงินบาท ผ่านกลไกที่เรียกว่า Correlation Trade ซึ่งทำงานเป็นวัฏจักรดังนี้
คนไทยมีพฤติกรรมที่ชัดเจนมาก คือเมื่อ ราคาทองวันนี้ ปรับตัวสูงขึ้น (Gold Price Rally) นักลงทุนและประชาชนทั่วไปจะแห่กันนำทองคำออกมา "ขายทำกำไร" ทันที
เมื่อร้านทองรับซื้อทองคำจากประชาชนมาจำนวนมหาศาล พวกเขาจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยง โดยการ ส่งออกทองคำไปขายในตลาดต่างประเทศ
เมื่อขายทองในตลาดโลก ร้านทองจะได้รับเงินกลับมาเป็น "ดอลลาร์ (USD)" จากนั้นร้านทองจะนำดอลลาร์จำนวนมหาศาลนี้ มาแลกเปลี่ยนเป็น "เงินบาท (THB)"
แรงเทขายดอลลาร์เพื่อซื้อบาทจำนวนมหาศาลจากร้านทองนี้เอง คือแรงกดดันที่ทำให้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทุกครั้งที่ทองขึ้น
ทำไมปรากฏการณ์นี้ถึงไม่เกิดรุนแรงในประเทศอื่น? ข้อมูลจาก ธปท. (ณ ธันวาคม 2568) เผยค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างราคาทองคำกับค่าเงินของแต่ละประเทศ พบว่า ไทยมีความสัมพันธ์สูงสุด ดังนี้:
🇹🇭 ไทย: 65% (สูงโดดเด่น)
🇰🇷 เกาหลีใต้: 35%
🇨🇳 จีน: 29%
🇮🇩 อินโดนีเซีย: 29%
🇮🇳 อินเดีย: 20%
🇲🇾 มาเลเซีย: 15%
วิเคราะห์: ตัวเลข 65% สะท้อนว่า เงินบาทแทบจะผูกติดกับราคาทองคำ ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียแทบไม่ได้รับผลกระทบ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมบาทถึงแข็งค่า "แซงหน้า" สกุลเงินอื่นในภูมิภาค
อีกสาเหตุที่ทำให้ทองคำมีอิทธิพลต่อเงินบาทมากขนาดนี้ เพราะปริมาณการซื้อขายในไทยนั้นมหาศาลจนน่าตกใจ ข้อมูลเปรียบเทียบมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในปี 2568 ชี้ให้เห็นว่า:
ตลาดทองคำ: เฉลี่ย 65,937 ล้านบาท/วัน (สูงสุด 255,566 ล้านบาท)
ตลาดหุ้น (SET): เฉลี่ย 42,417 ล้านบาท/วัน
สิ่งที่ต้องรู้: การที่คนไทยเทรดทองมากกว่าหุ้น ทำให้ปริมาณเงินหมุนเวียนในตลาดทองคำมีพลังมากพอที่จะกำหนดทิศทางค่าเงินของทั้งประเทศได้ ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่ตลาดหุ้นมักจะใหญ่กว่า
เมื่อทองคำเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ภาครัฐจึงเริ่มขยับตัว นี่คือความเสี่ยงที่เทรดเดอร์ต้องระวัง เพราะอาจส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลดลง:
มาตรการภาษี: กรมสรรพากรเล็งเก็บ "ภาษีธุรกิจเฉพาะ" สำหรับการซื้อขายทองผ่านแพลตฟอร์ม
การตรวจสอบธุรกรรม: ร้านทองเตรียมต้องรายงานข้อมูลการซื้อขายให้สรรพากรทราบ
การคุมเพดาน: แบงก์ชาติจ่อกำหนดเพดานปริมาณการซื้อขายทองคำ เพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน
เพราะโครงสร้างตลาดทองคำไทยไม่เหมือนใครครับ ข้อมูลจากแบงก์ชาติระบุว่า ไทยมีค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างทองกับเงินบาทสูงถึง 65% (สูงที่สุดในภูมิภาค) เมื่อ ราคาทองวันนี้ พุ่งสูง คนไทยจะแห่ขายทองคำแท่งทำกำไร ทำให้ร้านทองต้องส่งออกทองและนำเงินดอลลาร์กลับมาแลกเป็นบาทจำนวนมหาศาล แรงซื้อบาทนี้เองที่กดดันให้บาทแข็งค่าเร็วกว่าประเทศอื่นอย่างเห็นได้ชัด
หากคุณซื้อขายทองคำแท่งผ่านร้านทองทั่วไปหรือแพลตฟอร์มในประเทศ อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการตรวจสอบภาษีและการรายงานข้อมูลธุรกรรมต่อกรมสรรพากรที่กำลังจะเกิดขึ้นครับ แต่ถ้าคุณเทรดทองคำออนไลน์ (CFD) กับโบรกเกอร์สากลอย่าง EBC คุณจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่า เพราะไม่มีการส่งมอบทองคำจริง จึงลดความยุ่งยากเรื่องภาระภาษีมูลค่าเพิ่มหรือขั้นตอนทางเอกสารที่ซับซ้อน
ตราบใดที่คนไทยยังมีพฤติกรรม "ทองขึ้นต้องรีบขาย" แนวโน้มเงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าต่อไปตามทิศทางราคาทองคำโลกครับ นักลงทุนจึงควรติดตามกราฟ ราคาทองวันนี้ ควบคู่กับค่าเงินบาทเสมอ หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์จาก EBC เพื่อหาจังหวะเข้าทำกำไรจากความผันผวนนี้
เพราะตลาดทองคำมีสภาพคล่องสูงและเปิดให้ซื้อขายเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ต่างจากตลาดหุ้นที่มีเวลาเปิด-ปิดจำกัดครับ ประกอบกับในปี 2568 มูลค่าซื้อขายทองเฉลี่ยสูงกว่า 65,000 ล้านบาท/วัน สะท้อนว่าคนไทยมองเห็นโอกาสทำกำไรในทองคำที่รวดเร็วกว่า และเป็นสินทรัพย์ที่คนไทยคุ้นเคยมาอย่างยาวนาน
ความสัมพันธ์ระหว่าง ราคาทองวันนี้ กับเงินบาทไทย เป็นเรื่องของ Demand & Supply ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบ้านเรา การที่คนไทยนิยมลงทุนในทองคำมากกว่าหุ้น ทำให้ทุกการขยับตัวของราคาทอง ส่งผลกระทบตรงต่อเงินในกระเป๋าเราผ่านค่าเงินบาท
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน: ในสถานการณ์ที่ตลาดมีความสัมพันธ์ซับซ้อนและมาตรการรัฐเริ่มเข้มงวด การเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีความโปร่งใสและเครื่องมือครบครันคือทางออกที่ดีที่สุด
EBC Financial Group มอบสภาพคล่องสูง สเปรดต่ำ และระบบที่เสถียร
ให้คุณทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาทองคำจริง
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ