Fed 2026: สงครามแย่งอำนาจกับเดิมพันความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Fed 2026: สงครามแย่งอำนาจกับเดิมพันความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ผู้เขียน: Blair Cornelia

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-15   
อัปเดตเมื่อ: 2025-12-16

หากคุณเป็นนักลงทุนที่กำลังติดตามตลาดการเงินโลก ปี 2026 คือปีที่คุณต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะนี่จะเป็นปีแห่ง 'มรสุมการเมือง' ที่กำลังจะโหมกระหน่ำใส่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างหนักที่สุดในประวัติศาสตร์

การประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีนี้อาจดูสงบเงียบ แต่นั่นเป็นเพียง 'ความสงบก่อนพายุ' เท่านั้น เพราะในปี 2026 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มลงมือปรับโครงสร้างอำนาจของ Fed อย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อ นโยบายการเงิน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และโอกาสในการลงทุนของคุณ

ทำไมปี 2026 จึงเป็นปีวิกฤตของ Fed?

Image 15-12-2568 BE at 15.34.png

1. การครบวาระของเจอโรม พาวเวลล์

ในเดือนพฤษภาคม 2026 วาระการดำรงตำแหน่งประธาน Fed ของ 'เจอโรม พาวเวลล์' จะสิ้นสุดลง นี่คือโอกาสทองของทรัมป์ในการแต่งตั้งประธาน Fed คนใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายของเขา โดยมีชื่อ 'เควิน แฮสเซ็ตต์' ซึ่งเป็นคนสนิทของทรัมป์ ถูกพูดถึงว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่ง

สำหรับนักลงทุน การเปลี่ยนผู้นำ Fed หมายถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงินที่อาจส่งผลต่อดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และมูลค่าพอร์ตโฟลิโอของคุณ

2. การต่อสู้ในวุฒิสภาที่ดุเดือด

ประเด็นความเป็นอิสระของ Fed เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายการเมืองให้ความสำคัญมาก ล่าสุด 'สตีเฟน มิแรน' ผู้ว่าการ Fed ที่ทรัมป์เสนอชื่อ ชนะการโหวตในวุฒิสภาไปแบบเฉียดฉิวที่ 48-47 เสียง แสดงให้เห็นว่าการแต่งตั้งประธาน Fed คนใหม่จะไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจเกิดการต่อสู้ทางการเมืองที่รุนแรง

ทำไมทรัมป์ไม่สามารถ 'สั่ง' ลดดอกเบี้ยได้ทันที?

หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าทรัมป์แต่งตั้งประธาน Fed คนใหม่แล้ว ทำไมไม่สั่งลดดอกเบี้ยได้เลย? คำตอบคือ โครงสร้างของ Fed ถูกออกแบบมาเพื่อ 'ถ่วงดุล' อำนาจไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครอบงำ

3 ระดับอำนาจที่ทรัมป์ต้องเผชิญ

• คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC): การตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยต้องได้รับเสียงข้างมากจากคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ว่าการ Fed และประธาน Fed สาขา

• ประธาน Fed สาขา (Regional Fed Presidents): ปัจจุบันประธาน Fed สาขาหลายคนยังมีมุมมองแบบ Hawkish คือกังวลเรื่องเงินเฟ้อและไม่อยากรีบลดดอกเบี้ย ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของทรัมป์

• เจอโรม พาวเวลล์อาจอยู่ต่อ: แม้พาวเวลล์จะพ้นจากตำแหน่งประธาน แต่เขายังมีสิทธิ์นั่งเป็นสมาชิกบอร์ดได้จนถึงปี 2028 ซึ่งอาจเป็นแรงขัดขวางแผนของทรัมป์

3 กลยุทธ์หลักที่ทรัมป์จะใช้ควบคุม Fed

Image 15-12-2568 BE at 15.35.png

1. การใช้อำนาจผ่านศาล: คดีของลิซ่า คุก

ทรัมป์พยายามไล่ 'ลิซ่า คุก' ผู้ว่าการ Fed ออกจากตำแหน่ง แม้ศาลสูงสุดจะอนุญาตให้เธอดำรงตำแหน่งต่อไประหว่างสู้คดี แต่การพิจารณาคดีที่จะเริ่มในมกราคม 2026 จะเป็นบรรทัดฐานสำคัญว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจปลดผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางได้หรือไม่

ผลกระทบต่อนักลงทุน: หากศาลตัดสินให้ประธานาธิบดีมีอำนาจไล่ผู้ว่าการ Fed ได้ ความเป็นอิสระของ Fed จะถูกท้าทาย และนโยบายการเงินอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามวาระทางการเมือง ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนในตลาด

2. การกดดันประธาน Fed สาขา

ทีมงานของทรัมป์วิจารณ์ว่าประธาน Fed สาขาบางคนไม่ใช่ 'คนในพื้นที่อย่างแท้จริง' และที่น่ากังวลคือ บอร์ดผู้ว่าการ Fed ที่ทรัมป์แต่งตั้งอาจใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อบีบบังคับหรือแม้แต่ไล่ประธานสาขาออก เพื่อควบคุมการโหวตนโยบายการเงิน

3. การแต่งตั้งผู้ว่าการ Fed ชุดใหม่

ทรัมป์จะพยายามครอบงำบอร์ดผู้ว่าการ Fed ทั้ง 7 คน ด้วยการแต่งตั้งคนที่มีความคิดสอดคล้องกับนโยบายของเขา ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยอาจเอนเอียงไปในทิศทางที่เขาต้องการ

ผลกระทบต่อตลาดการเงินและโอกาสในการลงทุน

สถานการณ์นี้อาจฟังดูน่ากังวล แต่สำหรับนักลงทุนที่เตรียมตัวไว้ นี่คือ โอกาสทองในการปรับพอร์ตให้รับมือกับความผันผวน

สิ่งที่คุณต้องจับตา

  • ทิศทางดอกเบี้ย: หาก Fed ลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด หุ้นและอสังหาริมทรัพย์อาจได้ประโยชน์ แต่ระวังความเสี่ยงเงินเฟ้อกลับมา

  •  ค่าเงินดอลลาร์: ดอกเบี้ยที่ลดลงอาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งออกและหุ้นบริษัทข้ามชาติ

  • ตลาดพันธบัตร: ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจทำให้นักลงทุนหันไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

  • ทองคำ: ในยุคความไม่แน่นอน ทองคำมักเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนหันมาถือ

การเปลี่ยนแปลงของ Fed ในปี 2026 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดการเงินโลก นักลงทุนควร:

1. กระจายความเสี่ยง - อย่าเก็บเงินสดในสกุลเดียว ลองดูตัวเลือกสกุลเงินที่แข็งแกร่งอื่นๆ

2. เพิ่มสินทรัพย์ปลอดภัย - พิจารณาเพิ่มน้ำหนักทองคำและพันธบัตรคุณภาพดีในพอร์ต

3. ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด - เหตุการณ์สำคัญในปี 2026 ได้แก่ การพิจารณาคดีของลิซ่า คุก (มกราคม), การโหวตแต่งตั้งประธาน Fed คนใหม่ (เมษายน-พฤษภาคม), และการประชุม FOMC ทุกครั้ง

สรุป: โอกาสในยุคความไม่แน่นอน

ปี 2026 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส การต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระของ Fed ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการเมือง แต่มันจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ พอร์ตการลงทุนของคุณ ดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และมูลค่าสินทรัพย์ทุกประเภท

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่คนที่รอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วค่อยปรับตัว ความผันผวนคือโอกาส และโอกาสมักเอื้ออำนวยให้กับผู้ที่มีข้อมูล มีกลยุทธ์ 

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และหน่วยงานทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นทั้งหมดหรือมากกว่า โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้


บทความแนะนำ
คาดการณ์ดัชนี S&P 500 ปี 2026: อาจเเตะ 8,000-8,100
การกล่าวของประธาน Fed Bowman วันนี้: มีสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและกฎระเบียบธนาคารหรือไม่?
การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เดือนธันวาคม 2568
มุมมองคู่เงิน NZD/USD ใน 6 เดือนข้างหนน้า
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐฯ ครั้งถัดไป คือวันที่ 18 ธันวาคม 2025