简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เปิดสัญญาณอารมณ์นักลงทุนผ่านดัชนี VIX (Volatility Index)

เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-30

ตลาดการเงินคือเวทีแห่งอารมณ์ มันพุ่งสูงเมื่อเกิดความหวัง ร่วงลงเมื่อมีความกลัว และแกว่งไปมาระหว่างความโลภกับความระมัดระวัง แต่เบื้องหลังการขึ้นลงของราคาเหล่านั้น มีจังหวะที่สามารถวัดได้ ชีพจรของตลาดที่สะท้อนผ่านตัวเลขเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ “ดัชนี VIX” ซึ่งแปลงอารมณ์ของมนุษย์ให้กลายเป็นสถิติ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรู้สึกมั่นใจหรือหวาดหวั่นต่ออนาคตมากเพียงใด


สำหรับเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ การเข้าใจดัชนี VIX เปรียบเสมือนการเรียนรู้ “ภาษาของอารมณ์ตลาด” มันอาจไม่บอกว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงในวันพรุ่งนี้ แต่จะบอกได้ว่าความผันผวนรุนแรงเพียงใดเมื่ออารมณ์ในตลาดเดือดพล่าน และในปีที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การเข้าใจดัชนีนี้คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวนำหน้าตลาดอยู่เสมอ

ดัชนี VIX


ดัชนี VIX (Volatility Index) คืออะไร?


ดัชนี VIX (Volatility Index) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า VIX เป็นตัวชี้วัดระดับ “ความคาดหวังต่อการแกว่งตัวของราคาหุ้นในตลาดสหรัฐฯ” ในช่วง 30 วันข้างหน้า คำนวณโดยตลาดซื้อขายออปชันชิคาโก (CBOE) จากราคาของออปชันในดัชนี S&P 500 เมื่อเทรดเดอร์ยอมจ่าย “พรีเมียม” ที่สูงขึ้นเพื่อซื้อออปชัน หมายถึงพวกเขาคาดว่าความผันผวนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ค่า VIX ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย


แม้คำว่า “VIX” จะหมายถึงดัชนีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ แต่ในภูมิภาคอื่นก็มีตัวชี้วัดคล้ายกัน เช่น VSTOXX ของยุโรป, Japan VIX ของญี่ปุ่น และ India VIX ของอินเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อน “จังหวะหัวใจของตลาดโลก” ที่เต้นไปตามความกลัว ความมั่นใจ และการเก็งกำไร


VIX มักถูกเรียกว่า “เครื่องวัดความกลัวของตลาด” (Fear Gauge) เพราะมันสะท้อนระดับความวิตกของนักลงทุนในระยะสั้น เมื่อค่า VIX พุ่งสูง แปลว่าตลาดอยู่ในภาวะตึงเครียดหรือสับสน แต่เมื่ออยู่ในระดับต่ำ หมายถึงนักลงทุนรู้สึกมั่นใจและเชื่อมั่นในเสถียรภาพของตลาด


ดัชนี VIX สะท้อนอารมณ์ของตลาดอย่างไร?


โดยพื้นฐานแล้ว ดัชนี VIX คือเครื่องวัดจิตวิทยามวลชน (Crowd Psychology Barometer) เมื่อค่าอยู่ต่ำกว่า 15 มักบ่งชี้ถึงความมั่นใจและความนิ่งสงบของตลาด แต่หากพุ่งขึ้นเกิน 25 หรือ 30 หมายถึงความวิตกกังวลเริ่มก่อตัว มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเผชิญปัจจัยเสี่ยง เช่น การปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์


ในปี 2025 ค่า VIX ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 14–20 จุด ซึ่งสะท้อนถึง “ความระมัดระวังแบบมีความหวัง” นักลงทุนมองว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจจะอ่อนแรงก็ตาม ช่วงที่ค่า VIX พุ่งสูงสุดของปี มักเกิดขึ้นรอบเหตุการณ์ “เซอร์ไพรส์” จากธนาคารกลาง หรือการปรับขึ้นของราคาพลังงาน


สิ่งที่ทำให้ดัชนีนี้ทรงพลัง คือการ “แปลงอารมณ์ให้เป็นตัวเลข” แม้จะไม่สามารถทำนายทิศทางตลาดได้โดยตรง แต่มันเผยให้เห็น “อุณหภูมิของความคาดหวัง” ภาพสะท้อนอารมณ์รวมของโลกการเงินในช่วงเวลานั้น


เหตุการณ์ในอดีต: จากความสงบสู่ความวุ่นวาย


1. วิกฤตโควิด-19 ปี 2020


เมื่อการระบาดของโควิด-19 เขย่าตลาดโลกในเดือนมีนาคม 2020 ค่า VIX พุ่งขึ้นแตะ 82.7 จุด สูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 การเทขายอย่างตื่นตระหนกและความไม่แน่นอนจากมาตรการล็อกดาวน์สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อความกลัวพุ่งถึงขีดสุด ความผันผวนก็ทะยานตาม


2. วิกฤตธนาคารสหรัฐฯ ปี 2023


ในเดือนมีนาคม 2023 การล่มสลายของ Silicon Valley Bank และแรงกดดันต่อธนาคารภูมิภาคในสหรัฐฯ ทำให้ค่า VIX พุ่งขึ้นเกิน 30 จุด ภายในไม่กี่วัน ก่อนจะลดลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เข้ามาแทรกแซง เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความรวดเร็วของ “อารมณ์ตลาด” จากความกลัวสู่ความโล่งใจในเวลาอันสั้น


3. การฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยี ปี 2025


ในทางตรงกันข้าม ปี 2025 เป็นช่วงของความสงบยาวนาน หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ขับเคลื่อนตลาดขึ้นอย่างมั่นคง ค่า VIX ลดลงแตะ 13.9 จุด ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2019 แสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์คาดว่าตลาดจะนิ่ง แม้เศรษฐกิจโดยรวมยังมีความไม่แน่นอน


เหตุการณ์เหล่านี้ยืนยันว่า VIX ไม่ใช่นักพยากรณ์อนาคต แต่มันคือกระจกสะท้อนอารมณ์ของตลาด ที่ขึ้นลงตาม “การรับรู้” มากกว่าความจริง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกการเงิน


เทรดเดอร์ใช้ดัชนี VIX อย่างไร?


ใช้เป็นตัวชี้วัด “อารมณ์ตลาด”


เทรดเดอร์มองว่าดัชนีความผันผวน (VIX) คือมาตรวัดอารมณ์ในตลาด เมื่อค่า VIX พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มักถูกตีความว่า “ความกลัวถึงจุดสูงสุด” ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะฟื้นตัว ในทางกลับกัน หากค่า VIX อยู่ในระดับต่ำผิดปกติ หมายถึงนักลงทุนเริ่ม “ประมาทเกินไป” และตลาดอาจเสี่ยงต่อแรงสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน


เพื่อการป้องกันความเสี่ยงและการปกป้อง


ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนมักเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กับความผันผวน เมื่อตลาดดูนิ่งเกินไป ฟิวเจอร์สและกองทุน ETF ที่อิงกับดัชนี VIX มักทำหน้าที่คล้าย “ประกัน” เพื่อป้องกันการขาดทุนหนักในช่วงตลาดร่วง เช่น ในช่วงการถกเถียงเรื่อง “การปรับลดดอกเบี้ย” ของปี 2025 หลายกองทุนได้เพิ่มสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงด้วย VIX เพื่อรับมือความไม่แน่นอนทางนโยบาย


ใช้ในการ “จับจังหวะเข้า–ออกตลาด”


เทรดเดอร์ระยะสั้นมักใช้ VIX เพื่อหาจังหวะเข้าออกที่เหมาะสม เมื่อค่า VIX กระโดดขึ้นอย่างรุนแรง อาจบ่งชี้ว่าการเทขายจากความตื่นตระหนกกำลังใกล้สิ้นสุด เป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาต่ำ


ดัชนี VIX ในตลาดโลก


แม้ดัชนี VIX ของ CBOE จะวัดความผันผวนของ S&P 500 ในสหรัฐฯ แต่ตลาดอื่นทั่วโลกก็มีตัวชี้วัดคล้ายกัน เช่น:


  • VSTOXX: วัดความผันผวนที่คาดการณ์ของดัชนี Euro Stoxx 50 (ยุโรป)

  • Japan VIX: วัดความผันผวนจากออปชันในดัชนี Nikkei 225 (ญี่ปุ่น)

  • India VIX: สะท้อนอารมณ์นักลงทุนในตลาด Nifty 50 (อินเดีย)

  • VHSI: ดัชนีความผันผวนของฮ่องกง วัดความคาดหวังของตลาด Hang Seng


ดัชนีเหล่านี้มักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเมื่อเกิด “แรงกระแทกระดับโลก” เช่น ในเดือนมิถุนายน ปี 2025 หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทำให้ค่า VIX พุ่งทะลุ 25 จุด ดัชนี VSTOXX และ VHSI ก็เพิ่มขึ้นพร้อมกัน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของตลาดการเงินทั่วโลกในยุคปัจจุบัน

ดัชนี VIX


ความเข้าใจผิดทั่วไปเกี่ยวกับดัชนี VIX


  1. ดัชนี VIX ทำนายทิศทางตลาด: ไม่จริง VIX บอกเพียงว่า “ตลาดคาดว่าจะผันผวนมากแค่ไหน” ไม่ได้บอกว่า “จะขึ้นหรือลง” ค่าที่สูงสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงตลาดพุ่งแรงหรือช่วงตลาดร่วงแรง

  2. ค่า VIX สูงไม่ได้หมายความว่าตลาดกำลังตื่นตระหนกเสมอไป: บางครั้งความผันผวนที่สูงเพียงสะท้อน “ความไม่แน่นอน” ก่อนเหตุการณ์สำคัญ เช่น การเลือกตั้ง หรือการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ ไม่จำเป็นต้องหมายถึง “ความกลัว” หรือ “ความตื่นตระหนก” เสมอไป

  3. ไม่สามารถเทรด VIX ได้โดยตรง: ดัชนี VIX เป็นเพียง “ตัวชี้วัด” แต่เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงความผันผวนได้ผ่านตราสารอนุพันธ์ เช่น VIX futures, options หรือกองทุนซื้อขายในตลาด (ETPs) ที่อิงกับความผันผวน


ดัชนีความผันผวนในปี 2025: ข้อมูลและแนวโน้ม


ในปี 2025 ค่าเฉลี่ยของ VIX อยู่ราว 16.8 จุด สูงกว่าค่ามัธยฐานเฉลี่ย 10 ปี (16 จุด) เล็กน้อย แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงหลังโควิด-19 ปี 2020–2022 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 21 จุด ความผันผวนที่เกิดขึ้นเป็นระยะในปีนี้ ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาพลังงาน และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงิน โดยบางช่วงค่า VIX พุ่งขึ้นเหนือ 23 จุด หลังเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ


ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ระบุว่า “ความสัมพันธ์ของความผันผวนทั่วโลก” ระหว่าง VIX (สหรัฐฯ) และ VSTOXX (ยุโรป) ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 0.8 สะท้อนให้เห็นว่าอารมณ์ตลาดสามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ พอร์ตการลงทุนของสถาบันการเงินขนาดใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับ “ความผันผวน” ในฐานะสินทรัพย์ประเภทหนึ่ง (Volatility as an Asset Class) โดยจัดสรรสัดส่วนเล็กน้อยของพอร์ตไปยังกองทุนที่อิงกับความผันผวน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์รุนแรง (Tail Risks) แนวโน้มนี้เติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 2022 เมื่อผู้ลงทุนเริ่มตระหนักถึงคุณค่าของ “ความผันผวน” ในการสร้างสมดุลและกระจายความเสี่ยงของพอร์ต


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดัชนี VIX


Q1. ทำไมดัชนี VIX จึงถูกเรียกว่า “เครื่องวัดความกลัว”?


เพราะค่า VIX มักพุ่งสูงขึ้นเมื่อ “นักลงทุนยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อความคุ้มครอง”ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเต็มไปด้วยความกลัวและความไม่แน่นอน ยิ่งค่าดัชนีสูงเท่าไหร่ ยิ่งสะท้อนถึงระดับความวิตกกังวลรวมของตลาดที่มากขึ้นเท่านั้น


Q2. ค่าดัชนี VIX อยู่ในช่วงใดจึงถือว่า “ปกติ”?


  • ต่ำกว่า 15 → ตลาดอยู่ในภาวะสงบ มั่นคง

  • ระหว่าง 15–25 → ตลาดเริ่มระมัดระวังมากขึ้น

  • สูงกว่า 30 → สะท้อนถึงความไม่แน่นอนสูง หรือภาวะตลาดตึงเครียด


Q3. เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากดัชนีความผันผวนได้หรือไม่?


สามารถทำได้ แต่ต้องใช้ทางอ้อม เทรดเดอร์ใช้ VIX futures, options หรือ ETF เพื่อเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวน อย่างไรก็ตาม การเทรดผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องอาศัยประสบการณ์และการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม


ภาพรวมสำคัญ


ดัชนีความผันผวนเตือนให้นักเทรดตระหนักว่า “ตลาดไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเศรษฐศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่อารมณ์ของมนุษย์ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน” มันคือการสรุปปฏิกิริยาของผู้คนหลายล้านคน ทั้งความกลัว ความโลภ และความโล่งใจ ให้อยู่ในตัวเลขเพียงค่าเดียว การเข้าใจการเคลื่อนไหวของดัชนีนี้ช่วยให้นักลงทุนรับมือกับช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนได้อย่างมีสติ ไม่ใช่ด้วยความตื่นตระหนก


ในปี 2025 ซึ่งข้อมูลข่าวสารเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่เคย ดัชนี VIX ยังคงเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ของตลาดโลกที่ทรงพลัง เสมือนเทอร์โมมิเตอร์วัด “อุณหภูมิทางอารมณ์ของนักลงทุน” ไม่ว่าจะเป็นช่วงสงบหรือวุ่นวาย มันสะท้อนความรู้สึกของตลาด “ก่อน” ที่ราคาจะเคลื่อนไหวจริง


คำศัพท์น่ารู้: สรุปสั้น ๆ ที่ควรจำ


  • ความผันผวน (Volatility): ระดับการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง

  • ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility): การคาดการณ์ของตลาดต่อความผันผวนในอนาคต ซึ่งคำนวณจากราคาของออปชัน

  • VIX Futures: สัญญาฟิวเจอร์สที่เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนในอนาคต

  • การป้องกันความเสี่ยง: การลดความเสี่ยงของพอร์ตโดยเปิดสถานะที่ตรงข้ามกับการลงทุนหลัก


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ