2025-10-06
6 ต.ค. 2025 - ราคาทองคำ (XAU/USD) ขยับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ราว 3,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงการซื้อขายเอเช้าวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (government shutdown) และความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
วุฒิสมาชิกสหรัฐล้มเหลวในการผ่านร่างงบประมาณเพื่อเปิดทำการรัฐบาลอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 ส่งผลให้สถานการณ์ชัตดาวน์ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ใหม่ ความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากหน่วยงานรัฐบาลยิ่งเพิ่มแรงซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
“ยิ่งรัฐบาลสหรัฐปิดนานเท่าไร ก็ยิ่งเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำ แต่หากเกิดข้อตกลงเปิดรัฐบาลได้อย่างกะทันหัน ก็อาจเป็นแรงกดดันราคาทองคำได้” จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนตุลาคม โดยข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า นักลงทุนคาดเกือบแน่ชัดว่าจะมีการปรับลด 25 จุดเบสิส และตลาดฟิวเจอร์สได้สะท้อนถึงการลดดอกเบี้ยรวมราว 47 จุดเบสิสภายในสิ้นปีนี้
อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจลดต้นทุนโอกาสของการถือครองทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย ช่วยหนุนราคาทองคำให้มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้บางส่วนของนักลงทุนอาจเริ่มทยอยขายทำกำไรหลังราคาปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 61.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) ตกลงเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนพฤศจิกายนเพียง 137,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซียสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน โดยตลอดปีนี้ OPEC+ ได้เพิ่มเป้าหมายการผลิตรวมกว่า 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นกว่า 2.5% ของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก “การปรับขึ้นราคาน้ำมันรอบนี้มาจากการที่ OPEC+ เพิ่มกำลังผลิตน้อยกว่าคาด ซึ่งเป็นความพยายามของกลุ่มในการพยุงราคาที่อ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา” ทินา เต็ง นักวิเคราะห์อิสระกล่าว
ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงทวีความรุนแรง โดยยูเครนเดินหน้าถล่มโรงกลั่นคิริชี หนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งอาจกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ สหรัฐยังเตรียมให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครนเพื่อสนับสนุนการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของรัสเซีย เช่น โรงกลั่น ท่อส่ง และโครงสร้างอื่น ๆ เพื่อจำกัดรายได้ของเครมลิน
การพุ่งขึ้นของทั้งทองคำและน้ำมันในสัปดาห์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปตะวันออก และแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed สภาวะดังกล่าวทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงอยู่ในภาวะ “ถือสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ก่อน” ท่ามกลางความผันผวนที่ยังไม่คลี่คลาย
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ