简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เจาะลึก TradingView เครื่องมือทำนายทิศทางตลาด

2025-09-29

นักเทรดส่วนใหญ่มักพึ่งพาการวิเคราะห์รูปแบบ (Pattern Analysis) หรือระดับฟีโบนัชชี (Fibonacci Levels) เพื่อคาดการณ์จุดราคาที่เป็นไปได้ในอนาคต


แต่ด้วยการจำลองแท่งราคาในอดีต และวิเคราะห์พฤติกรรมราคาโดยใช้ปริมาณการซื้อขาย (Volume) คุณสามารถได้การคาดการณ์ที่ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น


การวิเคราะห์รูปแบบมักให้ภาพรวมกว้าง ๆ ของทิศทางที่คาดว่าจะเกิดขึ้น แต่การจำลองแท่งราคา สามารถให้ความแม่นยำลงลึกถึงระดับแท่งต่อแท่ง


ในขณะที่ Fibonacci กให้เพียงระดับการย่อตัวที่ตายตัว เช่น 38.2% หรือ 61.8% ในขณะที่การวิเคราะห์ตามปริมาณสามารถระบุโซนคำสั่งซื้อขาย และเปิดเผยแนวรับ–แนวต้านที่ชัดเจนมากกว่า


เครื่องมือคาดการณ์และการวัดผลของ TradingView ทำให้เทคนิคเหล่านี้เป็นจริงได้

เครื่องมือคาดการณ์ เครื่องมือวิเคราะห์ตามปริมาณ เครื่องมือวัดผล


เครื่องมือหลักของ TradingView แบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ Projection Tools, Volume-Based Tools และ Measurers


1. Projection Tools

Projection Tools ส่วนใหญ่หมายถึงเครื่องมือในลักษณะพัด (Fan-Style) ที่ใช้ในเชิงเทคนิคอล โดยอิงหลักการมุม (Angle-Based) เพื่อช่วยคาดการณ์แนวรับ–แนวต้านที่เป็นไปได้ และยังสามารถบ่งชี้โครงสร้างการกลับตัวของราคาได้ รวมทั้งหมดมี 6 เครื่องมือ ดังนี้:


1) Long Position

หากคุณมองว่าตลาดกำลังเป็นขาขึ้น ให้เลือก Long Position จากนั้นคลิกที่จุดที่คาดว่าจะเปิดออเดอร์ เครื่องมือนี้จะแสดง ระดับทำกำไร (Take-Profit) และ ระดับหยุดขาดทุน (Stop-Loss) ที่แนะนำทันที

Long Position


คลิกขวาบนโซนสีแดง/เขียวที่ปรากฏขึ้น → เลือก Settings

คลิกการตั้งค่า...


ในการตั้งค่า คุณสามารถใส่ขนาดพอร์ตและระดับความเสี่ยงได้ โดยคำนวณจากกำไรหรือขาดทุน ÷ ขนาดพอร์ต ตัวอย่างเช่น หากตั้งค่าเสี่ยง 25% และขนาดพอร์ตคือ $1,000 → ระบบจะกำหนด Take-Profit ที่ $1,250 และ Stop-Loss ที่ $750 ทำให้เห็นระดับเป้าหมายชัดเจนทันที

ความเสี่ยง = กำไรหรือขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ÷ ขนาดพอร์ต


2) Short Position

ทำงานตรงข้ามกับ Long Position หากคุณคาดว่าตลาดเป็นขาลง ให้เลือก Short Position ตั้งค่าระดับความเสี่ยง จากนั้นเครื่องมือจะแสดงระดับ Take-Profit และ Stop-Loss ที่เหมาะสม

Short Position


3) Forecast

Forecast Tool เป็นเครื่องมือวาดกราฟที่มีประโยชน์มาก ใช้กำหนด ระยะเวลาที่คาดว่าการเทรดจะเกิดขึ้น โดยเมื่อคุณขยายเส้น Forecast ออกไป เครื่องมือนี้จะติดป้ายว่าเทรดนั้น “สำเร็จ” หรือ “ไม่สำเร็จ” โดยอัตโนมัติเมื่อเวลาผ่านไป

Forecast Tool


4) Bars Pattern (แท่งจำลอง)

Bars Pattern คือวิธีการคาดการณ์ที่ละเอียดขึ้น


ตัวอย่างเช่น คุณพบลำดับราคาในอดีตที่คล้ายกับการเคลื่อนไหวปัจจุบัน และเลือกใช้ Bars Pattern เพื่อทำการจำลองแท่งราคา

Bars Pattern


เมื่อนำแท่งที่คัดลอกมาประกบกับการเคลื่อนไหวปัจจุบัน คุณสามารถคาดการณ์ทิศทางอนาคตได้จากพฤติกรรมในอดีต

จำลองแท่งเพื่ออนุมานความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตที่เป็นไปได้


5) Ghost Feed 

Ghost Feed เป็นเครื่องมือวาดที่พิเศษ แตกต่างจากการลากเส้นทั่วไป เพราะในขณะวาด มันจะ สร้างลำดับแท่งราคาอัตโนมัติ เพื่อให้การคาดการณ์เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น


หากราคาที่เกิดขึ้นจริงมีความใกล้เคียงกับแท่งจำลองมาก ความน่าเชื่อถือของการคาดการณ์จะเพิ่มขึ้น และการจำลองสามารถช่วยปรับแต่งการตัดสินใจเข้าและออกได้อย่างละเอียด

Ghost Feed


6) Projection

Projection Tool มีหลักการเหมือนกับ Fan Chart


เลือกจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) จากนั้นลากเพื่อสร้างแนวรับและแนวต้าน เส้นพัดช่วยยืนยันแนวรับและแนวต้านของตลาด หากราคา ทะลุเส้นแนวโน้มของ Fan ต่อเนื่องกัน 3 เส้น ถือเป็นสัญญาณแรงว่ามีโอกาสเกิดการกลับตัวของเทรนด์สูง

Projection

Projection Tool


2. Volume-Based Tools

การเชื่อมโยงระหว่างราคาและปริมาณ (Price & Volume Alignment) ถือเป็นแนวคิดสำคัญในการเทรด


โดยทั่วไปแล้ว ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ขณะที่ราคาที่ลดลงพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลงบ่งบอกถึงความอ่อนแรงของแนวโน้ม เมื่อราคาและปริมาณการซื้อขายแตกต่างกัน พฤติกรรมของตลาดมักจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน เครื่องมือวิเคราะห์หลายตัวได้ผสาน Volume เข้าไปเพื่อเพิ่มความแม่นยำ


1) VWAP (Volume-Weighted Average Price)

แตกต่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั่วไป (Moving Average) ตรงที่ VWAP คำนวณโดยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณซื้อขาย


VWAP ที่ปรับแล้วจะเหมาะสมกับพฤติกรรมราคามากขึ้น และทำให้สามารถระบุแนวรับและแนวต้านได้ง่ายขึ้น

VWAP


VWAP สามารถเสริม Standard Deviation Bands (คล้าย Bollinger Bands แบบมีโครงสร้างชัดเจน) เพื่อดูการเบี่ยงเบนของราคา

Standard Deviation Bands


TradingView อนุญาตให้เพิ่มตัวคูณได้สูงสุดสามระดับ โดยคลิกขวาที่การตั้งค่าของอินดิเคเตอร์ แล้วเปิดใช้งานตัวคูณหมายเลข 2 และ 3

ตัวคูณแบนด์ # 2 และ # 3 ใน VWAP


การดำเนินการดังกล่าวจะขยายการแสดงผลเป็น 7 เส้นความเบี่ยงเบน ซึ่งจะช่วยระบุมาตราส่วนของความเบี่ยงเบนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เส้นเบี่ยงเบน 7 เส้น


2) Range Volume Profile

เลือกช่วงกรอบราคา (Boxed Range) ที่ต้องการ → Fixed Range Volume Profile จะแสดงปริมาณซื้อ/ขายในแต่ละระดับราคาภายในช่วงนั้น โดยเส้นสีขาวจะแสดง ราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด


ในการใช้งานจริง ราคาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด มักสอดคล้องกับโซนแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแรง

ปริมาตรที่มากที่สุดมักจะสอดคล้องกับพื้นที่สนับสนุนหรือต้านทานที่แข็งแกร่ง


3) Anchored Volume Profile

Anchored Volume Profile ทำงานคล้ายกับ Fixed Range Profile แต่จะ ยึดกับแท่งราคาที่เลือก เมื่อคุณคลิกเลือกแท่งราคา → เครื่องมือจะแสดงปริมาณการซื้อขายสะสมตั้งแต่แท่งนั้นจนถึงปัจจุบัน


เช่นเดียวกับ Fixed Range Profile เส้นสีขาวจะแสดง ราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด ซึ่งถือเป็นระดับแนวรับ–แนวต้านที่สำคัญ

ราคาที่มีปริมาณสูงสุดไฮไลท์ด้วยเส้นสีขาว


3. Measurers

ในการเทรดจริง วัฏจักรของราคาและเวลา (Price & Time Cycles) ก็มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจ


ตัวอย่างเช่น วัฏจักรสั้นอาจกินเวลาประมาณ 10–15 วัน หากตลาดอยู่ในวัฏจักรลักษณะนี้ เมื่อครบ 10–15 แท่งราคา ก็ควรจับตาเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นจุดกลับตัวที่สำคัญ


TradingView มีเครื่องมือวัดผล (Measurers) ที่ช่วยคำนวณได้ โดยการเลือกช่วงการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action Range) คุณสามารถวัดค่าได้ เช่น จำนวนแท่งราคาที่เกิดขึ้น ขนาดการเคลื่อนไหวของราคา และปริมาณการซื้อขายสะสมในกรอบนั้น


ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis)

ตัววัดข้อมูลและช่วงราคา

เครื่องมือคาดการณ์และวัดผลของ TradingView ทำให้การคำนวณแม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยให้เข้าใจวัฏจักรของตลาดและจังหวะเวลาได้ชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังสนับสนุนการหาจุดเข้า–ออกที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เจาะลึกกลยุทธ์เทรดหุ้นคู่ใจ คู่มือเทรดเดอร์สายลุย
วิธีการซื้อขาย EURUSD โดยใช้ข่าวเศรษฐกิจอย่างชาญฉลาด
ตัวเลือก Stop Loss: ข้อดี ข้อเสีย และข้อผิดพลาดที่ต้องรู้
วิธีทำกำไรในตลาดหุ้นให้ยั่งยืนและมั่นคง
คู่มือ TradingView เจาะลึก Elliott Wave วิเคราะห์กราฟขั้นเทพ