简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Stop Order คืออะไร? คู่มือเทรดสำหรับมือใหม่

2025-09-23

ลองนึกภาพว่า คุณกำลังเทรดหุ้นหรือ Forex อยู่ แต่จู่ ๆ ตลาดกลับเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้าม ก่อนที่คุณจะทันได้ตั้งตัว ยอดเงินในบัญชีก็เริ่มลดลง แล้วถ้ามีเครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็น “ตาข่ายนิรภัย” คอยช่วยจำกัดการขาดทุน หรือแม้กระทั่งล็อกกำไรในช่วงที่คุณไม่ได้เฝ้าหน้าจออยู่ล่ะ?


นั่นก็คือที่มาของ Stop Order เครื่องมือนี้คือคำสั่งที่คุณมอบให้กับโบรกเกอร์ เพื่อให้ซื้อหรือขายสินทรัพย์ทันทีที่ราคาขยับไปแตะระดับที่กำหนดไว้ ซึ่งเรียกว่า Stop Price


คู่มือนี้จะอธิบายอย่างละเอียดว่า Stop Order คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ วิธีการทำงานในตลาดจริง และแนวทางที่คุณสามารถนำไปใช้เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้


Stop Order คืออะไรในการเทรด?

Stop Order คืออะไรในการเทรด

ดังที่กล่าวไปแล้ว Stop Order คือคำสั่งที่คุณมอบให้กับโบรกเกอร์ เพื่อให้ทำการซื้อหรือขายสินทรัพย์โดยอัตโนมัติ เมื่อราคาขยับไปถึงระดับที่กำหนดไว้ ซึ่งเรียกว่า Stop Price


  • ดังที่กล่าวไปแล้ว Stop Order คือคำสั่งที่คุณมอบให้กับโบรกเกอร์ เพื่อให้ทำการซื้อหรือขายสินทรัพย์โดยอัตโนมัติ เมื่อราคาขยับไปถึงระดับที่กำหนดไว้ ซึ่งเรียกว่า Stop Price

  • แต่หากราคายังไม่ถึงระดับที่กำหนด คำสั่งจะยังคงไม่ทำงาน เปรียบเสมือน “ผู้เฝ้ายาม” ที่รอคอยสัญญาณให้เริ่มปฏิบัติการ


ตัวอย่างเช่น:

  1. คุณถือหุ้นที่ราคา 1,000 ดอลลาร์

  2. คุณไม่ต้องการขาดทุนเกิน 10%

  3. คุณตั้ง Stop Order ไว้ที่ 900 ดอลลาร์

  4. หากราคาหุ้นร่วงลงถึง 900 ดอลลาร์ โบรกเกอร์จะขายหุ้นให้คุณโดยอัตโนมัติ



พูดง่าย ๆ มันคือคำสั่งแบบมีเงื่อนไข — “ถ้าเกิดสิ่งนี้ขึ้น ก็ให้ดำเนินการเทรดตามที่สั่ง”


วิธีการทำงานของ Stop Order ในตลาดต่าง ๆ


1) หุ้น

นักลงทุนมักใช้ Stop Order เพื่อปกป้องพอร์ตการลงทุน เช่น การตั้ง Stop-Loss สำหรับการถือครองระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงจากการร่วงลงกะทันหัน อย่างเช่นวิกฤตโควิดปี 2020


2) Forex

Stop Order มีความสำคัญอย่างยิ่งในตลาด Forex เนื่องจากค่าเงินสามารถผันผวนอย่างรุนแรงภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที การตั้ง Stop-Loss จึงช่วยป้องกันไม่ให้การเทรดที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้บัญชีเสียหายหนัก


3) คริปโต

ความผันผวนของคริปโตทำให้ Stop Order กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ หลายแพลตฟอร์มเปิดให้ตั้งคำสั่งนี้ เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการขายแบบตื่นตระหนก (panic selling) พร้อมกับควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น


4) สินค้าโภคภัณฑ์

การเทรดน้ำมัน ทองคำ หรือสินค้าเกษตร มักได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และอุปสงค์อุปทาน Stop Order จึงเป็นตัวช่วยจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ประเภทของ Stop Order ที่คุณควรรู้

ประเภทของ Stop Order ที่คุณควรรู้

1. Stop-Loss Order

คำสั่ง Stop-Loss จะขาย (หรือซื้อ) สินทรัพย์โดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด เพื่อจำกัดการขาดทุน


คุณซื้อหุ้นในราคา 50 ดอลลาร์ และตั้ง Stop-Loss ไว้ที่ 45 ดอลลาร์ หากราคาหุ้นร่วงลงถึง 45 ดอลลาร์ คำสั่ง Stop จะทำงานโดยอัตโนมัติ ช่วยป้องกันไม่ให้ขาดทุนเพิ่ม


2. Stop-Buy Order

คำสั่ง Stop-Buy จะทำงานเมื่อราคาหุ้นขึ้นถึงระดับ Stop ที่กำหนด


ตัวอย่างเช่น หุ้นตัวหนึ่งราคา 40 ดอลลาร์ และคุณเชื่อว่าหากราคาผ่าน 42 ดอลลาร์ หุ้นจะยังคงขึ้นต่อเนื่อง คุณตั้ง Stop-Buy ที่ 42 ดอลลาร์ เพื่อจับโอกาสในแนวโน้มขาขึ้น


3. Trailing Stop Order

Trailing Stop เป็นคำสั่งที่เคลื่อนตามราคาตลาด ช่วยล็อกกำไรในขณะที่ยังให้โอกาสหุ้นเติบโตต่อ


ตัวอย่างเช่น คุณตั้ง Trailing Stop ที่ 5% ต่ำกว่าราคาตลาด หากราคาหุ้นขึ้นจาก 50 ดอลลาร์ เป็น 60 ดอลลาร์ Stop จะปรับขึ้นจาก 47.50 ดอลลาร์ เป็น 57 ดอลลาร์ เพื่อปกป้องกำไรของคุณ


4. Stop-Limit Order

คำสั่ง Stop-Limit รวม Stop Price กับ Limit Price เมื่อเริ่มทำงานจะเปลี่ยนเป็น Limit Order แทนที่จะเป็น Market Order


ข้อดีคือคุณมีการควบคุมราคามากขึ้น แต่ความเสี่ยงคืออาจไม่ถูกดำเนินการหากตลาดเคลื่อนไหวเร็วเกินไป


Stop Orders กับ Limit Orders แตกต่างกันอย่างไร?

  • Stop Order: เมื่อเริ่มทำงานราคาถึง Stop Price จากนั้นจะกลายเป็น Market Order

  • Limit Order: ดำเนินการเฉพาะที่ราคาที่กำหนดหรือต่ำกว่าที่กำหนด (สำหรับการซื้อ) ทำให้ควบคุมราคาได้ แต่ไม่รับประกันว่าจะถูกซื้อขาย


เปรียบเทียบง่าย ๆ:

  • Stop Order = “ขายออกทุกราคาเมื่อสถานการณ์ไม่ดี”

  • Limit Order = “ซื้อขายเฉพาะราคาที่ฉันเลือก ถ้าไม่ได้ก็ไม่ทำ”


ทำไม Stop Order ถึงสำคัญ?

ทำไม Stop Order ถึงสำคัญ

ไม่ต้องแปลกใจที่การเทรดมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในตลาด Forex หรือคริปโต มือใหม่มักปล่อยให้ความรู้สึก เช่น ความวิตกกังวล ความโลภ หรือความตื่นตระหนก มานำทางการตัดสินใจ


Stop Order ช่วยได้โดย:

  1. จำกัดการขาดทุนเมื่อราคาตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ

  2. ล็อกกำไรโดยการขายอัตโนมัติที่ระดับเป้าหมาย

  3. ลดการตัดสินใจจากอารมณ์ ด้วยการยึดตามแผนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

  4. ให้ความสบายใจ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอด 24 ชั่วโมง


ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ Bitcoin ที่ราคา 100,000 ดอลลาร์ในปี 2025 และตั้ง Stop Order ไว้ที่ 95,000 ดอลลาร์ คุณก็จะจำกัดการขาดทุนได้ หากราคาลงอย่างรวดเร็ว


เทรดเดอร์มืออาชีพที่ใช้ Stop Orders

แม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพก็ใช้ Stop Orders


  • Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดัง มักเน้นการบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก ใช้ Stop เพื่อตัดขาดทุนอย่างรวดเร็ว

  • เทรดเดอร์ Forex รายย่อยในเอเชียและยุโรปมักใช้กลยุทธ์ Stop-Loss เพื่อป้องกันบัญชีถูกทำลาย

  • นักลงทุนระยะยาวหลายรายก็ใช้ Stop Orders โดยเฉพาะ Trailing Stop เพื่อปกป้องกำไรในตลาดขาขึ้น


ตัวอย่างเหล่านี้พิสูจน์ได้ว่า Stop Orders ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับมือใหม่เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือควบคุมความเสี่ยงที่ใช้ได้กับทุกคน


ข้อดีและข้อจำกัดของ Stop Orders

ข้อดี ข้อจำกัด
ปกป้องเทรดเดอร์จากการขาดทุนรุนแรงด้วยการออกจากการเทรดที่ขาดทุนอัตโนมัติ ราคากระโดดอาจทำให้การซื้อขายเกิดที่ราคาที่แย่กว่าที่คาด (Slippage)
ลดอารมณ์ในการตัดสินใจ บังคับให้มีวินัย ราคาผันผวนอย่างรุนแรงอาจทำให้ Stop ถูกดำเนินการเร็วเกินไป
สามารถเทรดแบบไม่เฝ้าหน้าจอตลอด 24 ชม. ไม่มีการรับประกันกำไร เพราะ Stop จำกัดแต่การขาดทุน ไม่ได้สร้างกำไร
ช่วยล็อกกำไรเมื่อใช้กับ Trailing Stop คำสั่ง Stop อาจไม่ถูกดำเนินการตามราคาที่ต้องการในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว
ยืดหยุ่น ใช้ได้กับหุ้น Forex คริปโต และสินค้าโภคภัณฑ์ พึ่งพา Stop เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีแผนการเทรดอาจให้ผลลัพธ์ไม่ดี


วิธีตั้ง Stop Order ให้ถูกต้อง

กลยุทธ์การตั้ง Stop Order

การตั้งค่าสต็อปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์และส่วนหนึ่งของศิลปะ:


  1. ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ตั้ง Stop ใกล้ระดับแนวรับ/แนวต้าน

  2. คำนวณความผันผวน: ใช้เครื่องมือเช่น Average True Range (ATR) เพื่อกำหนดระยะ Stop ที่เหมาะสม

  3. ปรับให้เข้ากับความเสี่ยงของคุณ: อย่าเสี่ยงเกิน 1–2% ของบัญชีต่อการเทรดแต่ละครั้ง

  4. ปรับตามสถานการณ์: หากเทรดได้กำไร ให้ปรับ Trailing Stop เพื่อล็อกกำไร


ในปี 2025 แพลตฟอร์มเทรด เช่น EBC Financial Group ทำให้ Stop Orders มีความซับซ้อนมากขึ้น

  • บอทเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถปรับ Stop แบบไดนามิกตามสัญญาณตลาด


สิ่งนี้ทำให้ Stop Orders เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก และช่วยให้คุณเทรดเหมือนกับมืออาชีพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน


คำถามที่พบบ่อย

1. Stop Order คืออะไรในการเทรด?

Stop Order คือคำสั่งที่คุณมอบให้โบรกเกอร์ เพื่อซื้อหรือขายหลักทรัพย์เมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Stop Price)


2. Stop Order สามารถรับประกันกำไรได้หรือไม่?

ไม่ได้ Stop Order เป็นเครื่องมือสำหรับการบริหารความเสี่ยง ช่วยจำกัดการขาดทุนหรือล็อกกำไร แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะทำกำไร


3. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตลาดกระโดดเกินราคาที่ตั้ง Stop ไว้?

หากตลาดพุ่งผ่านราคาที่ตั้ง Stop ไว้ คำสั่งจะถูกดำเนินการที่ราคาที่มีอยู่ถัดไป ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Slippage และอาจทำให้เกิดการขาดทุนมากกว่าที่คาดไว้ได้


4. จะตัดสินใจวาง Stop Order ที่ระดับไหนดี?

ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ระดับแนวรับ-แนวต้าน หรือดัชนีความผันผวน เช่น ATR (Average True Range) เพื่อวาง Stop อย่างมีกลยุทธ์


บทสรุป

การเทรดโดยไม่มี Stop Order เปรียบเสมือนการขับรถโดยไม่มีเบรก คุณอาจสนุกกับการเดินทาง แต่เมื่อเจอโค้งกะทันหัน คุณอาจเจอปัญหา การเข้าใจว่า Stop Order คืออะไรในการเทรด จะมอบข้อได้เปรียบสำคัญให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความเสี่ยง วินัย และความสบายใจ


หากคุณจริงจังกับการเทรด การเรียนรู้และใช้ Stop Order อย่างเชี่ยวชาญถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนเริ่มต้นสู่ความสำเร็จระยะยาว และกำไรตามที่คุณต้องการ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
order block คืออะไร? คู่มือเทรดสำหรับผู้เริ่มต้น
วิธี Day Trade สำหรับมือใหม่ปี 2025
Paper Trading คืออะไร? เรียนรู้วิธีเทรดโดยไม่เสี่ยง
ICT Trading คืออะไร? เทคนิค กลยุทธ์ และการใช้งาน
คำสั่ง Buy Stop คืออะไร?