หุ้น RXST ร่วงกว่า 80% ในปีนี้ ควรเข้าซื้อหรือไม่?

หลังจากช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนของบริษัท RxSight, Inc. (NASDAQ: RXST) เทรดเดอร์จำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า หุ้นเทคโนโลยีการแพทย์ตัวนี้กำลังเป็น “มีดหล่น” ที่ไม่ควรจับหรือเป็นโอกาสสวนกระแสที่น่าจับตา

หุ้น RXST ร่วงลงเกือบ 80% ตั้งแต่ต้นปี 2025 สาเหตุหลักมาจากการปรับลดคาดการณ์รายได้ครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การดิ่งลงของราคาหุ้นอย่างรุนแรง แล้วภายใต้ซากปรักหักพังของราคานี้ยังมีมูลค่าซ่อนอยู่หรือไม่? หรือสัญญาณใหม่กำลังบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ยังไม่จบ?

บทความนี้จะวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารล่าสุด สัญญาณทางเทคนิค และความเชื่อมั่นของตลาด เพื่อช่วยให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มของหุ้น RXST ในช่วงที่เหลือของปี 2025 อย่างรอบด้าน

หุ้น RXST: เกิดอะไรขึ้นในปี 2025?

ไทม์ไลน์ของการร่วงหนัก

• มกราคม 2025: หุ้น RXST เปิดปีด้วยราคามากกว่า 35 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากแรงหนุนของการเติบโตแข็งแกร่งในปี 2024 ในกลุ่มเลนส์แก้ต้อกระจกระดับพรีเมียม

• 9 กรกฎาคม 2025: ราคาหุ้นร่วงลงเกือบ 50% ในช่วงระหว่างวัน และปิดตลาดที่ 7.95 ดอลลาร์ลดลงถึง 37.8% หลังจากบริษัทประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปี และผลประกอบการไตรมาส2ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้

• 16 กรกฎาคม 2025: ราคาหุ้นล่าสุดปิดที่ 7.74 ดอลลาร์ ทำให้ขาดทุนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่เกือบ 80% ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีการแพทย์ที่ร่วงแรงที่สุดในตลาดสหรัฐฯ ปีนี้

สาเหตุหลักที่ฉุดหุ้นร่วง:

• รายได้เบื้องต้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 33.6 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% จากปีก่อนหน้า และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ซึ่งอยู่ที่ 41.7 ล้านดอลลาร์

• บริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปีลงมาอยู่ที่ 120–130 ล้านดอลลาร์ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 160–175 ล้านดอลลาร์

• ยอดขายอุปกรณ์ใหม่ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะอุปกรณ์ Light Delivery Devices (LDD) ที่มียอดขายลดลงถึง 49% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ภาพรวมธุรกิจหลัก

RxSight,Inc. เป็นผู้พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายเลนส์แก้ไขแสง (Light Adjustable Lens–LAL) ซึ่งเป็นเลนส์แก้ต้อกระจกเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองจาก FDA และสามารถปรับค่าเลนส์ได้หลังการผ่าตัด จุดขายหลักของบริษัทอยู่ที่ความสามารถในการปรับแต่งเลนส์หลังผ่าตัดโดยมุ่งเน้นตลาดเลนส์พรีเมียมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ

2024-2025 ในภาพรวม:

• อุปกรณ์ที่ติดตั้งแล้ว: ณ กลางปี 2025 มีการติดตั้งอุปกรณ์ Light Delivery Devices (LDDs) แล้วกว่า 1,040 เครื่องในคลินิกต่าง ๆ

• ส่วนแบ่งการใช้งาน: เลนส์ LAL ถูกนำมาใช้ในประมาณ 15% ของกรณีที่ศัลยแพทย์ในสหรัฐฯ เลือกใช้เลนส์แก้ต้อกระจกระดับพรีเมียม

เหตุใดหุ้น RXST ถึงร่วงหนัก?

ยอดรายได้ที่พลาดเป้าและการปรับลดคาดการณ์

• ยอดขาย LDD ที่ลดลง (ลดลง 49% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025) ส่งผลกระทบต่อทั้งรายได้และความเชื่อมั่นของตลาด

  
  

• การที่ฝ่ายบริหารปรับลดคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีอย่างมาก ทำให้โมเดลการเติบโตเดิมหมดความน่าเชื่อถือ

  
  

• สำนักงานกฎหมายหลายแห่งเปิดการสอบสวนต่อการเปิดเผยข้อมูลของ RXST ในอดีตเพิ่มความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย

ปัจจัยด้านเทคนิคและความเชื่อมั่นในตลาด

• ราคาหุ้นที่หลุดระดับแนวรับสำคัญที่ 9 ดอลลาร์ ทำให้เกิดสัญญาณขายทางเทคนิค กระตุ้นให้เกิดแรงขายจาก stop loss และนักลงทุนที่เทรดตามโมเมนตัม

• ความสนใจในการขายชอร์ตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ก็เริ่มปรับลดคำแนะนำ ส่งผลให้บรรยากาศในตลาดยิ่งเป็นลบ

ภาพทางเทคนิคปัจจุบัน: การวิเคราะห์กราฟและแนวโน้ม

• ช่วงราคา (YTD ปี 2025) : 6.32 – 39.88 ดอลลาร์

  
  

• โมเมนตัม : อินดิเคเตอร์หลายตัว (เช่น RSI และ MACD) บ่งชี้ว่าหุ้นอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) แม้มีการทรงตัวระยะสั้นแต่ยังไม่พบสัญญาณซื้อที่ชัดเจน

  
  

• แนวรับ : ระดับจิตวิทยาที่ 7 ดอลลาร์ โซนแนวรับแข็งแกร่งที่ 6.30–6.50 ดอลลาร์

  
  

• แนวต้าน : 9.50 ดอลลาร์ จากนั้น 12–13 ดอลลาร์ ซึ่งการจะทะลุแนวต้านต้องอาศัยข่าวเชิงบวกสนับสนุน

ประเด็นสำหรับนักเทรด: ตอนนี้ควรซื้อหุ้น RXST หรือไม่?

มุมมองเชิงบวก

• ภาวะ Oversold อย่างรุนแรง: หุ้นที่ร่วงหนักระดับ “Crash” มักมีแรงดีดกลับทางเทคนิคที่รุนแรง โดยเฉพาะหลังจากเกิดแรงขายจำนวนมากในช่วงปริมาณซื้อขายสูง

• ตลาดเลนส์แก้ต้อกระจกระดับพรีเมียมกำลังเติบโต: ตลาดเลนส์ต้อกระจกพรีเมียมยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องและ LAL ของ RXST เป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่ได้รับการรับรองจาก FDA

• เงินสดในมือ: ณ สิ้นปี 2024 บริษัทถือเงินสดประมาณ 237 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาสภาพคล่องในระยะสั้นและมีเวลาในการฟื้นตัว

• โอกาสการถูกซื้อกิจการ: มูลค่าตลาดที่ต่ำมาก (เพียง 2 เท่าของยอดขายย้อนหลัง) อาจดึงดูดความสนใจจากบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ขนาดใหญ่ให้เข้ามาซื้อกิจการ

มุมมองเชิงลบ

• ความไม่แน่นอนของรายได้: ขนาดและความถี่ของการพลาดเป้ารายได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อความสามารถในการบริหารและการคาดการณ์ของผู้บริหาร

• ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน: ยอดขาย LDD ที่ร่วงเกิน 49% อาจสะท้อนถึงความต้องการที่ลดลง ความเหนื่อยล้าของตลาดต่ออุปกรณ์หรือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

• ความเสี่ยงด้านกฎหมายและกำกับดูแล: การดำเนินการฟ้องร้องและการสอบสวนของ SEC ที่ยังดำเนินอยู่ อาจทำให้ฝ่ายบริหารเสียสมาธิและสร้างภาระทั้งด้านการเงินและชื่อเสียง

• โมเมนตัมด้านลบ: ความเชื่อมั่นของตลาดยังไม่ฟื้นตัว หากผลประกอบการไตรมาสถัดไปยังผิดหวังอีก ก็อาจนำไปสู่การร่วงลงอีกระลอก

มุมมองจากนักวิเคราะห์และชุมชนนักเทรด

• นักวิเคราะห์หลายรายแนะนำให้รอดูสัญญาณความมั่นคงที่ชัดเจนก่อนเข้าลงทุน

• เทรดเดอร์แนวโมเมนตัมเน้นความผันผวนภายในวันสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น แต่เตือนว่าข่าวร้ายอาจทำให้หุ้นดิ่งแรงอีกครั้ง

• นักลงทุนแนวเน้นมูลค่ากำลังประเมินอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับอัตราการเผาเงินสด และเส้นทางกลับสู่การเติบโต ก่อนตัดสินใจใส่เงิน

คำแนะนำด้านการบริหารความเสี่ยงสำหรับการเทรด RXST

• กำหนดขนาดตำแหน่งให้เหมาะสม : ลงทุนเฉพาะในระดับที่คุณสามารถยอมรับการขาดทุนได้ เนื่องจากความผันผวนสูง

  
  

• กำหนดจุดตัดขาดทุน : เมื่อมีการลดลงอย่างมาก ควรพิจารณาจุดตัดขาดทุนทั้งแบบเปอร์เซ็นต์และแบบทางเทคนิค เพื่อลดความเสี่ยง

  
  

• ติดตามข่าวสารใกล้ชิด : โดยเฉพาะวันประกาศผลประกอบการ Q2 ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อแนวโน้มของหุ้น

  
  

• เทรดความผันผวน : สำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง การใช้กลยุทธ์ options เช่น spread หรือ hedge อาจเหมาะสมกว่าการซื้อ call หรือ put โดยตรง

  
  

• กระจายความเสี่ยง : อย่าปล่อยให้ RXST กลายเป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตในขณะที่ยังไม่ฟื้นตัว จัดสมดุลด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า

สิ่งที่ควรจับตาต่อไป

• การประชุมผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2025 : กำหนดไว้ในวันที่ 7 สิงหาคม โดยเฉพาะคำแนะนำของผู้บริหารและข้อมูลการนำไปใช้งานของ LDD/LAL จะเป็นกุญแจสำคัญ

  
  

• กิจกรรมควบรวมในอุตสาหกรรม : หากมีข่าวว่าบริษัทอื่นสนใจซื้อกิจการในกลุ่มเทคโนโลยีต้อ กระจกอาจช่วยหนุนราคาหุ้น

  
  

• ความคืบหน้าทางกฎหมาย : ควรติดตามว่าคดีความหรือการสอบสวนจาก SEC มีความคืบหน้าหรือข้อยุติอย่างไร

สรุป

หุ้น RXST สูญเสียมูลค่าเกือบ 80% ในปี 2025 สะท้อนถึงการผิดหวังต่อการเติบโตและความกังวลเรื่องรายได้ที่ลึกขึ้น แม้ภาวะ oversold ที่รุนแรงอาจนำไปสู่การดีดกลับทางเทคนิค แต่การไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าสถานการณ์พื้นฐานเริ่มฟื้นตัวย่อมหมายถึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและแผนการเทรดที่ชัดเจน อาจมีโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว จำเป็นต้องรอให้เห็นความชัดเจนในด้านอุปสงค์ การดำเนินงานของผู้บริหาร และความเสี่ยงด้านกฎหมายก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ