ราคาน้ำมันยังคงทรงตัว แม้ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ จะแสดงความแข็งแกร่ง สนับสนุนแนวทางของ Fed โดยตลาดยังจับตาแผนการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ต่อหลายประเทศ
ราคาน้ำมันแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันศุกร์ เนื่องจากตลาดงานที่แข็งแกร่งสนับสนุนให้ Fed คงอัตราดอกเบี้ยไว้ เนื่องจากตลาดมุ่งเน้นไปที่แผนของทรัมป์ในการเก็บภาษีกับประเทศต่าง ๆ
ช่วงพักการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระยะเวลา 90 วันกำลังจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า ขณะที่ประเทศคู่ค้ารายใหญ่หลายรายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการส่งออกต่อจีนในบางด้าน เช่น ซอฟต์แวร์ออกแบบชิปและเอเทน (Ethane)
Morgan Stanley ระบุในบันทึกเมื่อวันจันทร์ว่า ราคาน้ำมันเบรนท์อาจปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงต้นปีหน้า โดยตลาดยังมีปริมาณน้ำมันเพียงพอ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ลดลง ภายหลังจากสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเริ่มคลี่คลาย
นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันเล็กน้อยหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในตะวันออกกลาง แต่ผลสำรวจของ Reuters แสดงให้เห็นว่าอุปทานของกลุ่ม OPEC+ ที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มอุปสงค์ที่ลดลงยังคงส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่า ปริมาณน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลงประมาณ 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินในคลังเพิ่มขึ้นประมาณ 4.2 ล้านบาร์เรล
การนำเข้าน้ำมันของจีนจากอิหร่านพุ่งสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นอิสระ ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr News
ราคาน้ำมันเบรนท์ดีดตัวกลับจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (50 SMA) แต่แรงส่งฝั่งขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงลง เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้า ราคาน้ำมันอาจอ่อนตัวลงก่อนที่สถานการณ์จะมีความชัดเจนมากขึ้น
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เงินบาทอ่อนค่า นักลงทุนจับตา 5 ปัจจัยสำคัญ ทั้ง GDP ไทย Q2/68, การส่งออก, เฟด, ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ และราคาทองคำโลก
2025-08-18ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 10% ในปีนี้ เนื่องจากการเจรจาสันติภาพ ความเสี่ยงด้านอุปทาน และความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในตลาดโลก และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น
2025-08-18ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงในวันจันทร์ก่อนการประชุมระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี โดยนักลงทุนยังจับตาการประชุมเชิงปฏิบัติการแจ็กสันโฮลของเฟดเพื่อหาเบาะแสด้านนโยบาย
2025-08-18