เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-17
เมื่อพูดถึง "ทองคำ" หลายคนยังติดภาพจำเดิมๆ ว่าต้องเดินไปร้านทอง ซื้อทองแท่งหรือรูปพรรณมาเก็บไว้ใต้หมอนหรือในตู้เซฟ แม้วิธีนี้จะคลาสสิก แต่ก็มาพร้อมกับ ต้นทุนส่วนต่างราคาที่สูง (Spread), ค่ากำเหน็จ, ปัญหาสภาพคล่อง (เปลี่ยนเป็นเงินสดยาก) และที่สำคัญคือ ความเสี่ยงในการจัดเก็บ
ในโลกการเงินยุคใหม่ เทคโนโลยีช่วยให้คุณเข้าถึง "กำไร" จากตลาดทองคำได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และใช้ต้นทุนต่ำลง โดยที่คุณอาจไม่ต้องถือครองทองคำจริงๆ เลยด้วยซ้ำ บทความนี้ EBC Financial Group ของเราได้สรุป 3 ทางเลือกการลงทุนทองคำที่เหมาะกับนักลงทุนยุคใหม่มาให้แล้วค่ะ


นี่คือวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักเทรดทั่วโลก CFD (Contract for Difference) หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง คือการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยไม่ต้องครอบครองทองจริง
ทำกำไรได้ 2 ทาง: ไม่ว่าราคาทองจะ "ขึ้น" หรือ "ลง" คุณก็สามารถทำกำไรได้ (สามารถเปิดคำสั่ง Short Sell ได้เมื่อมองว่าราคาจะตก)
ใช้เงินทุนน้อย: ด้วยระบบ Leverage (อัตราทด) คุณสามารถวางเงินประกันเพียงเล็กน้อยเพื่อเริ่มเทรดสัญญาที่มีมูลค่าสูงได้
ค่าธรรมเนียมต่ำ: เมื่อเทียบกับค่ากำเหน็จร้านทอง การเทรด CFD มีต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่ามาก
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชอบการเทรดระยะสั้น (Day Trade) หรือผู้ที่ต้องการเก็งกำไรตามข่าวเศรษฐกิจรายวัน
หลายคนมักสับสนระหว่าง CFD ทองคำ กับ Forex ความจริงแล้ว Forex คือการแลกเปลี่ยนเงินตรา แต่แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ชั้นนำส่วนใหญ่จะรวมสินค้าทั้งสองอย่างไว้ในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อให้คุณบริหารพอร์ตได้สะดวกที่สุด

หากคุณมองหาความมั่นคงและอยากถือครองทองคำในระยะยาวเหมือนหุ้นตัวหนึ่ง Gold ETF คือคำตอบ กองทุนเหล่านี้จะนำเงินไปซื้อทองคำแท่งจริงๆ เก็บไว้ตามนโยบายกองทุน
ราคาอ้างอิงตลาดโลก: ราคาหน่วยลงทุนจะขึ้นลงตามราคาทองคำโลกจริงๆ
ซื้อขายง่ายเหมือนหุ้น: สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้เลย
เหมาะกับใคร: มือใหม่ที่เน้นการออมระยะยาว หรือต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ต
แทนที่จะซื้อทองโดยตรง คุณสามารถเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจขุดเจาะทองคำได้
เติบโตไปพร้อมบริษัท: หากราคาทองขึ้น รายได้ของบริษัทเหมืองมักจะสูงขึ้นตาม ส่งผลให้ราคาหุ้นดีดตัวขึ้น
รับเงินปันผล: ข้อดีที่เหนือกว่าการซื้อทองคำแท่งคือ "เงินปันผล" ที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น
เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ชอบวิเคราะห์พื้นฐานบริษัท และมองหาผลตอบแทนทั้งจากส่วนต่างราคาและเงินปันผล
ในฐานะ Financial Group ที่ดูแลนักลงทุนมาอย่างยาวนาน เราขอมอบเคล็ดลับเรื่อง "จังหวะเวลา" ที่สำคัญต่อการทำกำไร:
ช่วงวิกฤตและเงินเฟ้อ: ทองคำคือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) เมื่อโลกเกิดความไม่แน่นอน สงคราม หรือเงินเฟ้อพุ่งสูง ราคาทองมักจะเป็นขาขึ้น
จับตาช่วงตลาดคาบเกี่ยว (Overlap): สำหรับสายเทรด CFD ช่วงเวลาที่กราฟวิ่งแรงที่สุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน เวลาไทยประมาณ 20:00 น. – 23:00 น. (13:00 – 16:00 GMT) นี่คือช่วงที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด และมีโอกาสทำกำไรได้มากที่สุดในระหว่างวัน
การเลือกโบรกเกอร์ที่ดี เปรียบเสมือนการมีพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจ เราคือ EBC Financial Group ที่พร้อมสนับสนุนทุกก้าวการลงทุนของคุณ:
แพลตฟอร์มระดับโลก: ใช้งานง่าย เสถียร รองรับทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์
ความรู้จัดเต็ม: มีบทวิเคราะห์และคลาสเรียนสำหรับมือใหม่
ดูแลคุณอย่างใกล้ชิด: ด้วยทีมซัพพอร์ตมืออาชีพ
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ