เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-10 อัปเดตเมื่อ: 2025-10-14
กราฟแท่งเทียน (Candlestick) หรือ K-Line เป็นเครื่องมือทางภาพที่ใช้แสดงข้อมูลราคา 4 จุดในช่วงเวลาหนึ่ง ได้แก่ ราคาเปิด (Open) ราคาปิด (Close) ราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) โดยส่วนลำตัว (Body) คือสี่เหลี่ยมทึบที่อยู่ระหว่างราคาเปิดและราคาปิด
ขนาดของลำตัวกราฟแท่งเทียนสามารถบ่งบอกความแข็งแกร่งของโมเมนตัมได้ ลำตัวยาวหมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนและมีแรงซื้อหรือแรงขายสูง ขณะที่ลำตัวสั้นมักสะท้อนถึงความลังเลหรือแรงส่งที่อ่อนแอ
ยิ่งลำตัวมีขนาดใหญ่เท่าไร ยิ่งแสดงถึงโมเมนตัมและความมั่นใจของนักลงทุนมากเท่านั้น ส่วนไส้เทียน (Wick หรือ Shadow) คือเส้นบาง ๆ ที่ยื่นออกจากลำตัว แสดงถึงระดับราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น
กราฟแท่งเทียน ให้ข้อมูลมากกว่ากราฟเส้นทั่วไป เพราะแสดงให้เห็น “การต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขาย” ภายในแต่ละช่วงเวลา ขนาดของลำตัว (Body) ช่วยให้นักเทรดประเมินความมั่นใจของตลาดได้ ลำตัวยาวสีเขียวต่อเนื่อง มักบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ลำตัวยาวสีแดงแสดงถึงแนวโน้มขาลงที่ทรงพลัง
ลำตัวขนาดเล็กใกล้แนวรับหรือแนวต้าน อาจเป็นสัญญาณของ “ความลังเล” ก่อนการเบรกเอาท์ (Breakout) หรือกลับตัว (Reversal) ซึ่งช่วยให้นักเทรดปรับสถานะได้ล่วงหน้า กราฟแท่งเทียนสามารถใช้ได้กับทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น Forex หรือคริปโต จึงถือเป็น “ทักษะหลัก” ที่นักเทรดทุกคนควรเข้าใจ
ลำตัวยาว: แสดงถึงโมเมนตัมและแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง โดยในแนวโน้มขาขึ้น แท่งสีเขียวยาว หมายถึงแรงซื้อครองตลาด ส่วนในแนวโน้มขาลง แท่งสีแดงยาว หมายถึงแรงขายมีอำนาจเหนือ
ลำตัวสั้น: ส่งสัญญาณโมเมนตัมอ่อนแรง ลังเล หรือกำลังพักตัว ราคาเคลื่อนไหวน้อยมากระหว่างเปิดและปิด หมายความว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้เปรียบ
สี: ตัวสีเขียวหรือสีขาว หมายถึง ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น ตัวสีแดงหรือสีดำ หมายถึง ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แสดงถึงแนวโน้มขาลง
ไส้เทียนยาวแสดงถึงการปฏิเสธ: ไส้เทียนด้านบนยาวหมายความว่าผู้ซื้อพยายามดันราคาขึ้น แต่ผู้ขายดันราคากลับ ไส้เทียนด้านล่างยาวแสดงให้เห็นว่าผู้ขายดันราคาลง แต่ผู้ซื้อฟื้นตัว
เปรียบเทียบความยาวของลำตัวกับค่าเฉลี่ยของกราฟแท่งเทียน 10–20 แท่งล่าสุดในกรอบเวลาเดียวกัน
ใช้ค่า Average True Range (ATR) เป็นเกณฑ์อ้างอิง: ลำตัวที่มีค่า ATR มากกว่า 80% แสดงถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง ลำตัวที่มีค่า ATR ต่ำกว่า 30% แสดงถึงโมเมนตัมที่อ่อนแอ
การเปรียบเทียบเชิงสัมพัทธ์: หากแท่งเฉลี่ยก่อนหน้าเคลื่อนไหว $1.00 แต่แท่งปัจจุบันยาว $3.00 → ถือเป็นสัญญาณสำคัญของการเบรกเอาท์หรือจุดสิ้นสุดแนวโน้ม
บริบทมีความสำคัญ: ลำตัวใหญ่แท่งแรกหลังการพักตัวมีน้ำหนักมากกว่าแท่งใหญ่ลำดับที่สิบในแนวโน้มเดียวกัน
หุ้นตัวหนึ่งเปิดที่ $50.00 และปิดที่ $52.00 โดยมีราคาสูงสุด $52.20 และราคาต่ำสุด $49.80 กราฟแท่งเทียนแสดงลำตัวสีเขียว จาก $50.00 ถึง $52.00 พร้อม ไส้บนสั้นถึง $52.20 และ ไส้ล่าง ถึง $49.80
ขนาดลำตัว $2.00 ยืนยันโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง เนื่องจากราคาขยับขึ้นอย่างชัดเจนและสามารถรักษากำไรส่วนใหญ่ไว้ได้
หากแท่งถัดมาเปิดที่ $52.20 ลดลงถึง $51.50 และปิดที่ $51.60 จะเกิดลำตัวสีแดงเล็กเพียง $0.10 ร่วมกับ ไส้ล่างยาวจาก $51.50 ซึ่งบ่งบอกว่าแรงขายพยายามกดราคาให้ต่ำลง แต่แรงซื้อยังคงป้องกันไว้ได้
ลำตัวขนาดเล็กหลังจากแท่งเขียวยาว $2.00 เป็นสัญญาณเตือนของการพักตัว (Consolidation) หรือการกลับทิศ (Reversal) โดยเฉพาะเมื่อมี ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ต่ำ
ขนาดของลำตัวจะมีความหมายมากขึ้นเมื่อถูกนำมาเปรียบเทียบกับกราฟแท่งเทียนก่อนหน้า และใช้ร่วมกับสัญญาณทางเทคนิคอื่น ๆ
ลำตัวยาวหลังจากชุดของแท่งสั้น ๆ มักเป็นสัญญาณของการ เบรกเอาท์ (Breakout) หรือการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่
นอกจากนี้ อัตราส่วนระหว่างขนาดลำตัวกับช่วงราคาโดยรวม (High–Low) ก็มีความสำคัญเช่นกัน หากเป็นลำตัวยาวแต่ไส้เทียนสั้น หมายถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งควบคุมตลาดได้ชัดเจน แต่ถ้าเป็นลำตัวยาวแต่ไส้เทียนยาวทั้งสองด้าน แสดงถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างแรงซื้อและแรงขายในช่วงเวลานั้น
ขนาดลำตัว | ปริมาณการซื้อขาย | การตีความ |
---|---|---|
ยาว | สูง | ความมั่นใจแรง สัญญาณเชื่อถือได้ แนวโน้มอาจต่อเนื่อง |
ยาว | ต่ำ | การเคลื่อนไหวไม่น่าเชื่อถือ อาจเป็น “กับดักราคา” ควรรอดูยืนยัน |
สั้น | สูง | การสะสมหรือกระจายตัวของแรงซื้อขาย ควรจับตาแท่งถัดไป |
สั้น | ต่ำ | ภาวะพักตัวของตลาด ยังไม่มีสัญญาณชัดเจน |
โดจิ:ราคาเปิดและราคาปิดเท่ากันหรือใกล้เคียง ทำให้เกิดลำตัวเล็กมากหรือแทบไม่มีลำตัวเลย สื่อถึง “ความลังเลของตลาด” และมักปรากฏก่อนการกลับทิศ (Reversal)
ค้อน:ลำตัวเล็กอยู่ด้านบนของแท่ง มีไส้ล่างยาว เป็นสัญญาณ กลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal) โดยเฉพาะเมื่อพบหลังจากแนวโน้มขาลง
Engulfing: ลำตัวขนาดใหญ่ของแท่งใหม่ครอบคลุมลำตัวของแท่งก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ เป็นสัญญาณกลับทิศที่แข็งแกร่ง เมื่อเกิดในจุดสุดขั้วของแนวโน้ม
ลูกข่าง (Spinning Top): ลำตัวเล็กแต่มีไส้เทียนยาวทั้งด้านบนและล่าง แสดงถึง ภาวะไม่แน่นอนของตลาด และมักเกิดก่อนการเปลี่ยนแนวโน้ม
ตรวจสอบกราฟรายวันแม้จะเทรดในช่วงสั้น (Intraday): ลำตัวขนาดใหญ่ในกราฟ 5 นาทีภายในแท่งรายวันที่เล็ก อาจเป็นเพียง “สัญญาณรบกวน” ที่ไม่สำคัญ
จัดแนวกรอบเวลาให้สอดคล้องกัน: หากกราฟรายวันและกราฟ 1 ชั่วโมงต่างแสดงลำตัวสีเขียวยาว (ขาขึ้น) จะเพิ่มความมั่นใจในแนวโน้ม
ใช้กรอบเวลาที่สูงกว่าเพื่อ “กำหนดบริบทของตลาด” และกรอบเวลาที่ต่ำกว่าเพื่อ “หาจังหวะเข้าเทรดที่เหมาะสม”
หากลำตัวในแต่ละกรอบเวลาให้สัญญาณไม่สอดคล้องกัน (เช่น รายวันขาขึ้น แต่ระยะสั้นขาลง) แสดงถึงภาวะพักตัวหรือความลังเลของตลาด ควรรอจนกว่าสัญญาณทั้งสองกรอบเวลาจะสอดคล้องกันก่อนตัดสินใจเทรด
ลักษณะของลำตัว | สัญญาณ | การกระทำ |
---|---|---|
ลำตัวยาว ไส้เทียนสั้น ปริมาณสูง | โมเมนตัมแข็งแกร่ง มั่นใจในทิศทาง | เทรดตามแนวโน้ม และเลื่อนจุดตัดขาดทุนตามราคา (Trail Stop) |
ลำตัวยาว ไส้เทียนยาว ปริมาณไม่แน่นอน | การต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขาย อาจใกล้หมดแรง | รอดูการยืนยันจากแท่งถัดไปก่อนตัดสินใจ |
ลำตัวสั้น ไม่ว่าจะมีไส้หรือไม่ | ตลาดลังเล หรืออยู่ในช่วงพักตัว | หลีกเลี่ยงการเปิดสถานะใหม่ จับตาดูจังหวะเบรกเอาท์ |
ลำตัวหดเล็กลงต่อเนื่อง | โมเมนตัมอ่อนแรงลง | เตรียมรับมือกับการกลับตัวหรือการเบรกเอาท์ |
แท่งยาวเดี่ยวหลังจากหลายแท่งเล็ก | สัญญาณเบรกเอาท์หรือกับดักราคา | ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายและแท่งถัดไปก่อนเข้าเทรด |
นักเทรดมืออาชีพจะไม่ดูเพียงลำตัวเทียนอย่างเดียว แต่จะวิเคราะห์ร่วมกับ ปริมาณการซื้อขาย (Volume), แนวรับ–แนวต้าน (Support & Resistance) และ การจัดแนวหลายกรอบเวลา (Multi-Timeframe Alignment) เพื่อให้การตัดสินใจแม่นยำยิ่งขึ้น
พวกเขาจะสังเกตขนาดลำตัวเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วงจริง (Average True Range - ATR) เพื่อปรับให้เหมาะกับสภาวะความผันผวนของตลาด เช่น แท่งยาวในตลาดนิ่งอาจมีนัยสำคัญมากกว่าแท่งยาวในตลาดผันผวน
ก่อนเข้าเทรด นักเทรดระดับมืออาชีพจะรอการยืนยัน (Confirmation) เสมอ เช่น การเบรกเอาท์ที่มีแท่งยาวต่อเนื่อง 2 แท่ง หรือรูปแบบกลับตัวที่มาพร้อมกับ ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงผิดปกติ
สุดท้าย พวกเขาใช้ไส้เทียน (Wicks) เพื่อกำหนดจุดตัดขาดทุนให้ชิดกับ “โซนปฏิเสธราคา (Rejection Zone)” เพื่อลดความเสี่ยง แต่ยังคงอยู่ในสถานะเทรดได้หากโมเมนตัมยังดำเนินต่อไป
K-Line: อีกชื่อหนึ่งของกราฟแท่งเทียน ใช้แสดงราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในรูปแบบภาพ
ลำตัว (Body): สี่เหลี่ยมทึบระหว่างราคาเปิดและราคาปิด ใช้วัดความแข็งแกร่งของโมเมนตัม
ไส้เทียน หรือ เงา (Wick / Shadow): เส้นบาง ๆ ด้านบนและด้านล่างของลำตัว แสดงราคาสูงสุดและต่ำสุด รวมถึงการ “ปฏิเสธราคา”
โดจิ (Doji): แท่งเทียนที่ไม่มีลำตัวหรือมีลำตัวเล็กมาก แสดงถึงความลังเลของตลาดและมักปรากฏก่อนการกลับทิศ
ขนาดลำตัวของกราฟแท่งเทียนสามารถใช้ยืนยันความแข็งแกร่งของโมเมนตัมได้โดยตรง เพราะมันแสดงระยะทางของการเคลื่อนไหวระหว่างราคาเปิดและราคาปิด
ควรใช้การวิเคราะห์ขนาดลำตัวร่วมกับข้อมูลจากแท่งเทียนก่อนหน้า ไส้เทียน ปริมาณการซื้อขาย (Volume) และระดับแนวรับ–แนวต้าน เพื่อช่วยปรับจังหวะเข้าออกและลดสัญญาณหลอก
ลำตัวยาวบ่งบอกถึงความมั่นใจของตลาด ส่วนลำตัวสั้นเตือนถึงความลังเล และการผสมผสานทั้งสองลักษณะเข้ากับการอ่านรูปแบบแท่งเทียนและการตรวจสอบหลายกรอบเวลา จะช่วยให้นักเทรด “เข้าออกตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ