2025-10-01
1 ต.ค. 2025 - สหรัฐฯ กำลังเผชิญภาวะชัตดาวน์รัฐบาลอีกครั้ง หลังวุฒิสภาลงมติไม่ผ่านร่างขยายงบประมาณด้วยคะแนน 55 ต่อ 45 เสียง ไม่ถึงเกณฑ์ 60 เสียงที่ต้องการ ส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลกลางต้องหยุดปฏิบัติภารกิจ “ไม่จำเป็น” ตั้งแต่วันพุธนี้ กิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่งานวิจัย การบริการประชาชน ไปจนถึงการรายงานตัวเลขการจ้างงาน มีแนวโน้มถูกระงับ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยิ่งทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้น โดยขู่ตัดงบโครงการที่เดโมแครตสนับสนุนและเตรียมเลิกจ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลจำนวนมาก หากการชัตดาวน์เกิดขึ้นจริง ขณะเดียวกัน หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานประกันสังคมได้ส่งบันทึกภายในไปยังพนักงานที่อาจถูกพักงาน พร้อมโยนความผิดให้ฝ่ายเดโมแครต
สภาวะการเมืองที่ไร้เสถียรภาพยังสะท้อนผ่านการอพยพของบุคลากรภาครัฐกว่า 150,000 คนในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการออกจากระบบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปี
แม้ความเสี่ยงชัตดาวน์ในวอชิงตันจะกดดันบรรยากาศ แต่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานตามแรงหนุนจากวอลล์สตรีทที่ยังปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.41% ปิดที่ 6,688.46 จุด, Nasdaq +0.31% ปิดที่ 22,660.01 จุด และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.18% ปิดที่ 46,397.89 จุด ซึ่งถือเป็นจุดปิดสูงสุดใหม่
ในญี่ปุ่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยผลสำรวจ Tankan ไตรมาส 3 ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ผลิตรายใหญ่ขยับขึ้นจาก +13 เป็น +14 แต่ยังต่ำกว่าคาดการณ์ที่ +15 ขณะที่ดัชนีภาคบริการทรงตัวที่ +34 ด้านตลาดหุ้น Nikkei 225 ร่วง 1.11% และ Topix ลดลง 1.69%
เกาหลีใต้กลับฟื้นตัว โดย Kospi บวก 0.87% และ Kosdaq เพิ่มขึ้น 0.56% ส่วนไต้หวันโดดเด่นที่สุด ดัชนี Taiwan Weighted Index พุ่ง 1.51% จากแรงหนุนหุ้นเทคโนโลยีและเฮลท์แคร์ โดย TSMC และ Hon Hai (Foxconn) พุ่ง 3.07% และ 2.55% ตามลำดับ หลัง Nvidia ทะลุมูลค่าตลาด 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ออสเตรเลีย S&P/ASX 200 ลดลง 0.4% ส่วนตลาดจีนและฮ่องกงปิดทำการเนื่องในวันหยุด
นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ซึ่งจะประกาศอัตราดอกเบี้ยในวันนี้
ราคาทองคำ (XAU/USD) เดินหน้าพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3,871 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันอังคาร และยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับดังกล่าวในเช้าวันพุธ นับเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง 5 วันติด แรงหนุนหลักมาจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาด โดยจำนวนตำแหน่งงานว่าง (JOLTS) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 7.21 ล้านเป็น 7.23 ล้าน แต่สัดส่วนการจ้างงานลดลงเหลือ 3.2% ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยเครื่องมือ CME FedWatch ชี้โอกาส 97% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม และอีก 76% ที่จะลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม
วิกฤตชัตดาวน์ของสหรัฐฯ กลายเป็นความเสี่ยงหลักที่นักลงทุนทั่วโลกจับตา แม้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังทรงตัวบวกและบางตลาดเอเชียได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ กดดันภาพรวมบรรยากาศลงทุน ขณะเดียวกัน ราคาทองคำกลับพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือ 3,850 ดอลลาร์ จากทั้งการอ่อนค่าของดอลลาร์และความคาดหวังว่าเฟดจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยในเดือนถัดไป
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ