2025-09-30
30 ก.ย. 2025 - ราคาทองคำ (XAU/USD) เปิดสัปดาห์ในฝั่งเอเชียด้วยการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เหนือกรอบจิตวิทยา 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังตลาดเผชิญความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องปิดทำการบางส่วนหากสภาคองเกรสยังไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณได้ทันก่อนเริ่มปีงบประมาณ 2026 ในวันพุธนี้
แรงซื้อทองคำยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ตามดัชนี PCE (Personal Consumption Expenditures) เดือนสิงหาคม ซึ่งออกมาตรงกับคาดการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ Core PCE ที่ตัดราคาพลังงานและอาหารผันผวนออก คงระดับ 2.9% การเคลื่อนไหวนี้ทำให้นักลงทุนประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อในเดือนตุลาคมและธันวาคม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำที่ไม่มีผลตอบแทน
อย่างไรก็ดี ฝั่งเทคนิคชี้ว่า RSI ระดับ 14 วันอยู่ที่ 75.90 บ่งชี้สภาวะ Overbought และอาจเปิดทางให้ทองคำพักฐานก่อนขยับขึ้นต่อ โดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 3,800–3,810 ดอลลาร์ หากผ่านได้อาจมีโอกาสแตะ 3,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับเบื้องต้นอยู่ที่ 3,722 ดอลลาร์ และหากหลุดลงไปอาจถอยลึกถึง 3,632 ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดที่ 32.22 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า แต่การเคลื่อนไหวโดยรวมยังอยู่ในกรอบแคบ สอดคล้องกับการอ่อนตัวเล็กน้อยของดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นักวิเคราะห์มองว่า แม้เงินบาทมีแรงหนุนจากการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น แต่โมเมนตัมระยะกลางยังอยู่ในฝั่งอ่อนค่า โดยระดับแนวต้านสำคัญที่ 32.50 และ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ อาจถูกทดสอบหากแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศยังดำเนินต่อไป
สิ่งที่น่าจับตาคือความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ทองคำจะพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ แต่เงินบาทกลับไม่ได้แข็งค่าตามอย่างที่เคยในอดีต ทำให้ตลาดกังวลว่าหากทองคำพักฐานในระยะสั้น ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงอ่อนค่าต่อเนื่อง
ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะธีม AI/เซมิคอนดักเตอร์ยังเป็นแรงหนุนสำคัญ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงแรง -2.3% กดดันหุ้นพลังงานให้ปรับตัวลง บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.15% โดยนักลงทุนยังรอติดตามข้อมูลแรงงานและถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่จะส่งสัญญาณต่อทิศทางดอกเบี้ย
ในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับขึ้นเล็กน้อยตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเหมืองแร่ ขณะที่หุ้นพลังงานเคลื่อนไหวสวนทางลงตามราคาน้ำมัน ส่วนเอเชีย นักลงทุนยังรอประเมินนโยบายการเงินของ RBA และตัวเลข PMI ของจีน รวมถึงผลสำรวจ BOJ Tankan ที่จะออกในช่วงกลางสัปดาห์
ราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางบวกและทำจุดสูงสุดใหม่จากแรงกดดันความเสี่ยงชัตดาวน์สหรัฐฯ ผนวกกับโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ภาวะ Overbought อาจทำให้ราคาต้องเผชิญการพักฐานในไม่ช้า ขณะที่ค่าเงินบาทแม้แข็งค่าเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมยังเสี่ยงอ่อนค่าต่อหากตลาดเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม โดยเฉพาะหากทองคำปรับฐานลง นักลงทุนยังคงต้องจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและความเคลื่อนไหวด้านนโยบายการเงินทั่วโลกอย่างใกล้ชิด
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ