หุ้น Tesla ดิ่งหนัก หลังผลประกอบการ Q2/2025 ต่ำกว่าขาด ยอดขายรถซบเซากว่าเดิม 16% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มัสก์รับ ปีนี้และหน้าจะเป็นช่วงยากลำบาก
บริษัท เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 40 เซนต์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 43 เซนต์ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 22,500 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าประมาณการที่ 22,740 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลระบุว่า รายได้จากธุรกิจยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักอยู่ที่ 16,700 ล้านดอลลาร์ ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 19,900 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง และรายได้จากการขายเครดิตคาร์บอน (Carbon Credit) ลดฮวบกว่า 50% เหลือ 439 ล้านดอลลาร์ จาก 890 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน
หุ้นเทสลาร่วงลงกว่า 4% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลัง อีลอน มัสก์ ซีอีโอ และ ไวภาฟ ทาเนจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน เตือนว่า บริษัทอาจต้องเจอกับต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้นในไตรมาสถัด ๆ จากมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ และสิทธิประโยชน์ภาษีรถ EV ที่กำลังจะหมดอายุ
สถานการณ์ของ Tesla ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อแบรนด์เผชิญแรงต้านจากทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป หลังมัสก์ออกตัวสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี และแสดงจุดยืนหนุนพรรคขวาจัดทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) จนทำให้ผู้บริโภคในบางกลุ่มเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจ
อีกทั้ง มัสก์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบายลดจำนวนพนักงานรัฐและตัดงบประมาณหน่วยงานพัฒนา ทำให้ Tesla ต้องเผชิญแรงกดดันทางการเมืองและสังคมเพิ่มขึ้น
ระหว่างการประชุมแถลงผลประกอบการ มัสก์ยอมรับว่า ปีนี้และปีหน้าอาจเป็น “ช่วงเวลายากลำบาก” โดยชี้ถึงสองปัจจัยสำคัญ ได้แก่ สิทธิประโยชน์ภาษีสำหรับรถ EV ที่จะหมดลง และการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ล่าช้ากว่าที่คาด ทำให้บริษัทอาจต้องรอถึงปลายปี 2026 กว่าจะกลับมามีกำไรที่มั่นคงอีกครั้ง
“นั่นหมายความว่า เราอาจต้องเผชิญกับไตรมาสที่หนักหนาอีกหลายไตรมาส” มัสก์กล่าว พร้อมเผยว่ากำลังเร่งลงทุนในเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบขับขี่อัตโนมัติ เพื่อเป็นเครื่องยนต์ใหม่ของการเติบโต
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรอข้อมูลที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับแผนขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ (RoboTaxi) และระบบช่วยขับอัตโนมัติ ซึ่งยังอยู่ในระยะวิจัยพัฒนา
จีน มันสเตอร์ หุ้นส่วนผู้จัดการของ Deepwater Asset Management ระบุว่า แม้เทสลาจะส่งสัญญาณบวกเรื่องเทคโนโลยีใหม่ แต่ตลาดต้องการความชัดเจนมากกว่านี้ เพราะยอดขายหลักยังคงถูกกดดันจากราคาขายเฉลี่ยรถที่ลดลง และมาตรการภาษีนำเข้าที่เพิ่มต้นทุนไปแล้วกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด
ปีนี้ หุ้นเทสลาร่วงไปแล้วกว่า 18% นับตั้งแต่ต้นปี แม้จะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมและเมษายน แต่แนวโน้มระยะสั้นยังเปราะบาง ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง เศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ราคาหุ้นของ Google พุ่งขึ้นจากผลประกอบการ Q2 ที่แข็งแกร่ง โดยรายได้จากคลาวด์เพิ่มขึ้น 32% กำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และวอลล์สตรีทปรับเพิ่มเป้าหมายราคา
2025-07-25มูลค่าของ Tesla ลดลงต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากกำไรและยอดขายลดลง นี่เป็นสัญญาณของปัญหาหรือเป็นเพียงการเริ่มต้นใหม่สำหรับการเติบโตในอนาคต?
2025-07-25ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในวันศุกร์ โดยดัชนี Hang Seng ร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนล็อกกำไรไว้ก่อนกำหนดเส้นตายภาษีของทรัมป์ในสัปดาห์หน้า
2025-07-25