简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

MT4 กับ MT5 ต่างกันอย่างไร อะไรเหมาะกับคุณ?

2025-06-26

การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เป็นหนึ่งในขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดสำหรับนักเทรดทุกคน เมื่อต้องเทียบว่า MT4 กับ MT5 ต่างกันอย่างไร ไม่ใช่แค่เรื่องของซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่คือการเลือกเครื่องมือที่สอดคล้องกับสไตล์การเทรดของคุณ


MetaTrader 4 (MT4) เป็นมาตรฐานทองคำสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์มาช้านาน ด้วยความเรียบง่าย น้ำหนักเบา และการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง ขณะที่ MetaTrader 5 (MT5) มาพร้อมฟีเจอร์ที่ทันสมัยกว่า รองรับสินทรัพย์หลายประเภท และประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น


ณ ปี 2025 แพลตฟอร์มทั้งสองนี้ถูกใช้งานโดยผู้คนนับล้าน แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเทรดของคุณ


MT4 และ MT5 คืออะไร?

MT4 vs MT5


MetaTrader 4 เปิดตัวในปี 2005 ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ มีชื่อเสียงด้านความเรียบง่าย ความน่าเชื่อถือ และมีคลังอินดิเคเตอร์กับ Expert Advisors (EAs) ขนาดใหญ่ ปัจจุบัน MT4 ครองส่วนแบ่งตลาดฟอเร็กซ์ประมาณ 80%


MetaTrader 5 เปิดตัวตามมาในปี 2010 แตกต่างจากเวอร์ชันก่อนหน้า เพราะ MT5 ถูกออกแบบให้รองรับตลาดการเงินที่กว้างขึ้น ครอบคลุมหุ้น ฟิวเจอร์ส สินค้าโภคภัณฑ์ และพันธบัตร


MT4 เหมาะกับนักเทรดที่เน้นคู่เงินฟอเร็กซ์อย่าง GBP/USD หรือ USD/JPY เป็นหลัก ส่วน MT5 เหมาะสำหรับผู้ที่บริหารพอร์ตสินทรัพย์หลากหลาย การเข้าใจจุดประสงค์ของแต่ละแพลตฟอร์มจะช่วยให้เลือกได้ว่าตัวไหนเหมาะกับกลยุทธ์ของคุณมากที่สุด


เทรดเดอร์ควรรู้ MT4 กับ MT5 ต่างกันอย่างไร?

MT4 vs MT5 Comparison

1) การเข้าถึงตลาด

หนึ่งในความแตกต่างหลักระหว่าง MT4 และ MT5 คือการเข้าถึงตลาด


  • MT4 เน้นการเทรดฟอเร็กซ์เป็นหลัก รองรับการเทรดคู่สกุลเงินและ CFD พร้อมเครื่องมือที่ช่วยบริหารกลยุทธ์ฟอเร็กซ์ที่ซับซ้อน

  • ส่วน MT5 ขยายขอบเขตโดยให้เข้าถึงสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีพันธบัตร และสินทรัพย์อื่นๆ เพิ่มเติม


ในปี 2023 ผู้ใช้ MT5 รวมกันมีมูลค่าการเทรดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในหลายประเภทสินทรัพย์ ดังนั้น หากกลยุทธ์ของคุณเกี่ยวข้องกับมากกว่าคู่เงิน MT5 คือทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณเทรดฟอเร็กซ์อย่างเดียว MT4 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ


2) ตัวชี้วัดและช่วงเวลา: การวิเคราะห์ของคุณลึกแค่ไหน?

ทั้งสองแพลตฟอร์มมีตัวชี้วัดทางเทคนิคและเครื่องมือวิเคราะห์กราฟ แต่ MT5 ให้ความลึกในการวิเคราะห์มากกว่า


  • MT4 มีตัวชี้วัดในตัว 30 รายการ และช่วงเวลา 9 แบบ ซึ่งเพียงพอสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่ รวมถึงกลยุทธ์อย่างสวิงเทรดหรือเดย์เทรด

  • MT5 เพิ่มความสามารถด้วยตัวชี้วัด 38 รายการ และช่วงเวลา 21 แบบ ช่วยให้วิเคราะห์ได้ละเอียดขึ้น เหมาะสำหรับการทำสแคปปิ้งหรือกลยุทธ์ความถี่สูง


เช่น หากคุณเทรดทองและต้องการจับจังหวะเข้าซื้อที่แม่นยำ ช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นของ MT5 อาจให้ข้อได้เปรียบ แต่สำหรับการวิเคราะห์ปกติของคู่เงินหลัก เช่น USD/JPY ฟีเจอร์ของ MT4 ก็เพียงพอแล้ว


3) การเขียนโปรแกรมและระบบอัตโนมัติ

ทั้งสองแพลตฟอร์มรองรับการเทรดอัตโนมัติ แต่ใช้ภาษาการเขียนโค้ดที่แตกต่างกัน:


  • MT4 ใช้ MQL4 ซึ่งเป็นภาษาสคริปต์ที่ง่าย เหมาะสำหรับการพัฒนา Expert Advisors (EAs) ขั้นพื้นฐาน

  • MT5 ใช้ MQL5 ซึ่งเป็นภาษาเชิงวัตถุ (object-oriented) และมีความแข็งแกร่งมากกว่า ทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อนกว่าได้


MQL5 ทำงานได้รวดเร็วกว่าและมีฟังก์ชันขั้นสูง เช่น การทดสอบกลยุทธ์แบบมัลติเทรด (multi-threaded) แต่การเรียนรู้ MQL5 ต้องใช้เวลามากขึ้นสำหรับผู้เริ่มต้น


ถ้าคุณเพิ่งเริ่มใช้งาน EA, MT4 เป็นจุดเริ่มต้นที่ง่ายกว่า แต่ถ้าคุณเป็นนักพัฒนาหรือมุ่งหวังจะสร้างบอทที่แข็งแกร่ง MT5 จะให้ความยืดหยุ่นและความสามารถมากกว่า


4) ความต้องการระบบและความเร็ว

เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการทำงาน:


  • MT4 มีขนาดเล็กและเบา รองรับการทำงานบนระบบ 32-bit เก่าที่ใช้ RAM น้อย

  • MT5 ได้รับการปรับแต่งสำหรับระบบ 64-bit ทำงานได้เร็วขึ้น และรองรับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดีขึ้น


ในปี 2024 ประมาณ 25% ของเทรดเดอร์ยังคงใช้ MT4 บนอุปกรณ์สเปกต่ำ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ แต่สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การทดสอบย้อนหลังหลายคู่สกุลเงิน หรือการรันอัลกอริทึมซับซ้อน MT5 ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ดีกว่า


5) การทดสอบกลยุทธ์

การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด


  • MT4 มีฟังก์ชันทดสอบกลยุทธ์พื้นฐาน โดยทดสอบได้ทีละคู่สกุลเงิน

  • MT5 มีฟังก์ชันทดสอบกลยุทธ์แบบมัลติ-สกุลเงินและมัลติ-เธรด ทำให้สามารถทำการจำลองได้เร็วขึ้นและสมจริงกว่า


ในปี 2023 ผู้ใช้ MT5 ทำการทดสอบกลยุทธ์มากกว่าผู้ใช้ MT4 ถึง 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยคลาวด์และความเร็วในการประมวลผลที่ดีกว่า หากคุณต้องการรันกลยุทธ์กับสินทรัพย์หลายประเภท หรืออยากได้สภาพแวดล้อมทดสอบที่มีประสิทธิภาพ MT5 คือคำตอบที่เหมาะสมกว่า


6) ชุมชนผู้ใช้และทรัพยากรตลาด

Download MT4

MT4 มีชุมชนขนาดใหญ่และระบบนิเวศที่เติบโตอย่างมั่นคง มีตัวชี้วัด (Indicators), โปรแกรมช่วยเทรดอัตโนมัติ (EAs) และเทมเพลตฟรีและเสียเงินจำนวนมากที่สามารถหาได้จากตลาดและฟอรัมยอดนิยม


  • MT4 ให้เครื่องมือที่หลากหลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ที่ต้องการปรับแต่งการตั้งค่าให้เหมาะสม

  • ขณะที่ตลาดของ MT5 กำลังขยายตัว แต่ยังมีขนาดเล็กกว่า MT4 โดย MT5 มีฟีเจอร์เทรดขั้นสูง เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจในตัว, การแสดงระดับความลึกของตลาด (DOM) และการส่งคำสั่งแบบแบ่งส่วน


ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการเข้าถึงทรัพยากรที่ได้รับการทดสอบและใช้กันอย่างแพร่หลาย MT4 คือที่สุด แต่ถ้าคุณมองหาเครื่องมือทันสมัยและครบวงจรสำหรับการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท MT5 ก็คุ้มค่าที่จะพิจารณา


คุณสมบัติเพิ่มเติมของ MT5 ที่โดดเด่น


MT5 ไม่ใช่แค่เวอร์ชันอัพเกรดของ MT4 เท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์พิเศษหลายอย่าง ได้แก่:

  • ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar): ให้ข่าวสารและข้อมูลเศรษฐกิจแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม

  • ความลึกของตลาด (Depth of Market - DOM): แสดงสภาพคล่องและช่วยวางแผนคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่

  • โหมดเฮดจ์และน็อตติ้ง (Hedging & Netting Modes): เหมาะสำหรับการจัดการตำแหน่งที่หลากหลาย

  • ระบบโอนเงินและรายงานในตัว (Integrated Fund Transfers and Reports): ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพอร์ตการลงทุน


ในปี 2023 ผู้ใช้ MT5 ราว 30% ใช้ปฏิทินเศรษฐกิจในแพลตฟอร์มเป็นประจำ เพื่อวางแผนการเทรดตามเหตุการณ์สำคัญ เช่น การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ RBA หรือข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ


แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับคุณ?

MT4 vs MT5

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ MT4 มักเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีกว่า


ด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่าย ความต้องการระบบที่เบา และระบบนิเวศน์การเรียนรู้ที่กว้างขวาง ทำให้เริ่มต้นได้ง่าย ในปี 2022 มีเทรดเดอร์หน้าใหม่ถึง 75% เลือกใช้ MT4 เป็นแพลตฟอร์มเริ่มต้น ซึ่งเหมาะสำหรับการเรียนรู้พื้นฐานการเทรดฟอเร็กซ์โดยเฉพาะ


ส่วนเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากขึ้น หรือผู้ที่บริหารพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ มักจะชอบใช้ MT5


เนื่องจาก MT5 รองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ การดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น และเครื่องมือทดสอบกลยุทธ์ที่ล้ำสมัย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับมืออาชีพ ในปี 2024 ราว 40% ของเทรดเดอร์สถาบันและฟิวเจอร์สเลือกใช้ MT5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำ น้ำมัน หรือดัชนีหุ้น


MT5 เหมาะกับการเทรดเชิงปริมาณ อัลกอริทึมที่ซับซ้อน และความเร็วในการดำเนินการที่สูงกว่า


บทสรุป


สุดท้ายแล้ว การเลือกใช้ระหว่าง MT4 และ MT5 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เรื่องเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของกลยุทธ์การเทรด MT4 เหมาะกับความเรียบง่ายในการเทรดฟอเร็กซ์ ใช้ทรัพยากรระบบน้อย และมีชุมชนผู้ใช้ที่เข้มแข็ง


ในขณะที่ MT5 มอบประสิทธิภาพที่ดีกว่า การเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเทรดเดอร์หลายสินทรัพย์ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นควรทดลองใช้งานฟรี ศึกษาทั้งสองแพลตฟอร์มให้ดี และมั่นใจก่อนตัดสินใจเลือกใช้จริง


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
CFD กับ Forex ต่างกันอย่างไร เลือกเทรดแบบไหนดี?
MT4 vs MT5 ต่างกันยังไง? รู้ก่อนเลือกแพลตฟอร์มเทรด Forex
XAUUSD คืออะไร? เข้าใจบทบาททองคำในโลกการเทรด
รู้ให้ลึกกับโบรกเกอร์เทรดทอง ตัวแปรสำคัญที่ห้ามมองข้าม
XMaster Formula Indicator คืออะไร และเริ่มต้นใช้อย่างไร?x