อยากปกป้องเงินลงทุนในช่วงเศรษฐกิจผันผวนไหม? มาทำความรู้จักว่า Defensive Stocks คืออะไร ทำไมจึงเป็นที่ปลอดภัยในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน และหุ้นกลุ่มใดที่น่าจับตามองในปี 2025
ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือสภาพตลาดผันผวน นักลงทุนจำนวนมากมักมองหาความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน หนึ่งในกลยุทธ์ยอดนิยมคือการลงทุนในหุ้น Defensive Stocks หรือหุ้นกลุ่มที่มักมีผลการดำเนินงานดีกว่าตลาดในช่วงที่ตลาดตกต่ำ
แล้ว Defensive Stocks คืออะไร? ทำงานอย่างไร? และทำไมจึงมักถูกเรียกว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ?
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Defensive Stocks อย่างละเอียด ทั้งตัวอย่าง ลักษณะเฉพาะ ข้อดี ความเสี่ยง รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนในปี 2025
Defensive stocks คือหุ้นของบริษัทที่ให้สินค้าหรือบริการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้คนยังคงซื้อแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน หุ้นกลุ่มนี้มักจะมีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่า ทำให้มีความมั่นคงมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอยหรือภาวะตลาดขาลง
ลักษณะสำคัญของ Defensive Stocks:
ความผันผวนน้อย
จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
กำไรคงที่
ความต้องการสินค้าหรือบริการไม่เปลี่ยนแปลงตามราคา (inelastic demand)
หุ้นกลุ่มนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงขาดทุน แต่โดยทั่วไปจะลดลงน้อยกว่าตลาดโดยรวมในช่วงที่ตลาดตกต่ำ
ทำความเข้าใจ Defensive Stocks ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม
1. กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
สินค้าในชีวิตประจำวันที่จำเป็น เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ส่วนตัว และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผู้บริโภคยังคงซื้อไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีหรือไม่
ตัวอย่าง : Procter & Gamble, Coca-Cola, Nestlé, Unilever
2. กลุ่มการดูแลสุขภาพ
บริการทางการแพทย์ ยา และประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นความต้องการที่ไม่ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจ
ตัวอย่าง : Johnson & Johnson, Pfizer, UnitedHealth Group, GSK
3. กลุ่มสาธารณูปโภค
น้ำ แก๊ส และไฟฟ้าเป็นความต้องการพื้นฐาน บริษัทในกลุ่มนี้มีรายได้ค่อนข้างมั่นคงเนื่องจากราคาถูกควบคุม
ตัวอย่าง : Duke Energy, Dominion Energy, NextEra Energy
4. กลุ่มโทรคมนาคม
ในปัจจุบันโทรศัพท์และบริการอินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งจำเป็นทั้งสำหรับการใช้งานส่วนตัวและธุรกิจ
ตัวอย่าง : Verizon, AT&T, Vodafone
1. ความแข็งแกร่งในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
ในช่วงที่เศรษฐกิจหดตัว การใช้จ่ายของผู้บริโภคมักลดลง ยกเว้นสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร ยา และไฟฟ้า บริษัทในกลุ่ม Defensive Stocks ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
2. รายได้จากเงินปันผลที่มั่นคง
หลายบริษัทในกลุ่มนี้มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ยาวนาน ทำให้มีรายได้ที่น่าเชื่อถือ
3. ค่าเบต้า (Beta) ต่ำ
Defensive stocks ส่วนใหญ่มีค่าเบต้าต่ำกว่า 1 หมายความว่าราคาหุ้นเคลื่อนไหวน้อยกว่าตลาดโดยรวม จึงมีความผันผวนน้อยกว่าและน่าสนใจในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
4. การรักษาทุน (Preservation of Capital)
นักลงทุนมักเลือก Defensive Stocks เพื่อปกป้องเงินลงทุนในช่วงตลาดผันผวน โดยเฉพาะเมื่อสินทรัพย์ประเภทอื่นมีความเสี่ยงสูงเกินไป
ตัวอย่างในอดีต
ในช่วงที่ตลาดหุ้นตกหนัก Defensive Stocks มักมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าดัชนีตลาดโดยรวม
Case 1: วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 200
S&P 500 ลดลงมากกว่า 38%
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงมากกว่า 15%
กลุ่มสุขภาพลดลงมากกว่า 23%
Case 2: ตลาดหุ้นถล่มช่วงโควิด-19 ปี 2020
ดัชนี S&P 500 ร่วงประมาณ 34% ในช่วงต้นปี 2020
กลุ่มสุขภาพและสาธารณูปโภคลดลงน้อยกว่า 20%
กองทุน ETF กลุ่ม Defensive ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ตัวเลขเหล่านี้ช่วยยืนยันชื่อเสียงของ Defensive Stocks ในฐานะที่เป็นที่หลบภัยในช่วงเวลาที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
บริษัท | กลุ่มอุตสาหกรรม | อัตราเงินปันผล | คะแนนความมั่นคง |
---|---|---|---|
Procter & Gamble (PG) | สินค้าอุปโภคบริโภค | ประมาณ 2.5% | สูง |
Johnson & Johnson (JNJ) | สุขภาพ | ประมาณ 3.0% | สูง |
NextEra Energy (NEE) | สาธารณูปโภค | ประมาณ 2.4% | ปานกลาง |
Coca-Cola (KO) | เครื่องดื่ม | ประมาณ 3.1% | สูง |
Verizon (VZ) | โทรคมนาคม | ประมาณ 6.5% | ปานกลาง |
ถ้าคุณชอบวิธีการลงทุนแบบ Passive Investing ลองพิจารณาลงทุนในกองทุน ETF ที่ติดตามกลุ่ม Defensive Stocks
กองทุน Defensive ETF ยอดนิยม :
XLP – Consumer Staples Select Sector SPDR Fund
XLV – Health Care Select Sector SPDR Fund
XLU – Utilities Select Sector SPDR Fund
VDC – Vanguard Consumer Staples ETF
IDU – iShares U.S.Utilities ETF
กองทุนเหล่านี้ช่วยให้คุณกระจายการลงทุนได้ทันที ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีรายได้จากเงินปันผล
ความเสี่ยงในการลงทุน
แม้ Defensive stocks จะถือว่าปลอดภัยกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยง
1. ศักยภาพการเติบโตที่ลดลง
บริษัทในกลุ่มนี้มักดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่โตเต็มที่แล้ว ทำให้โอกาสขยายตัวจำกัด
2. ความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หุ้นที่จ่ายเงินปันผลอาจมีผลการดำเนินงานต่ำกว่าพันธบัตรหรือเงินฝาก
3. ความเสี่ยงเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม
การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ โดยเฉพาะในกลุ่มสุขภาพและสาธารณูปโภค
เทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มโทรคมนาคม
แรงกดดันด้านราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
เมื่อไหร่ที่ Defensive Stocks ทำผลงานได้ต่ำกว่า?
การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่จ่ายเงินปันผล)
นักลงทุนมีความต้องการเสี่ยงสูงขึ้น
Defensive stocks ไม่ได้เหมาะแค่ในช่วงตลาขาลงเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของพอร์ตลงทุนที่สมดุล เพราะช่วยเพิ่มความมั่นคงปกป้องเงินลงทุนและสร้างรายได้แม้ตลาดจะผันผวน
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่ชอบความปลอดภัย ผู้เกษียณที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ หรือนักเทรดที่อยากรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาดในปี 2025 Defensive stocks คือเครื่องมือที่ไว้ใจได้ในการช่วยผ่านช่วงเวลายากลำบากเหล่านี้อย่างมั่นใจ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้การซื้อขาย CFD สำหรับผู้เริ่มต้นในคู่มือที่ครอบคลุมนี้ ค้นพบพื้นฐาน กลยุทธ์ และเคล็ดลับในการเริ่มซื้อขายสัญญาส่วนต่างในวันนี้
2025-06-06เรียนรู้วิธีการซื้อขายรายวันเพื่อหาเลี้ยงชีพ ตั้งแต่การสร้างกลยุทธ์และจัดการความเสี่ยงไปจนถึงการสร้างกิจวัตรประจำวัน และการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปที่ผู้เริ่มต้นมักทำ
2025-06-06ค้นพบว่าสกุลเงิน CHF คืออะไร รากฐานทางประวัติศาสตร์ เหตุใดจึงมีเสถียรภาพ และเคล็ดลับสำคัญสำหรับผู้ค้าที่ต้องการสำรวจฟรังก์สวิสในตลาดโลก
2025-06-06