Spread Betting vs CFD ต่างกันอย่างไร? เข้าใจเรื่องภาษี เลเวอเรจ ต้นทุน และอื่น ๆ ในแบบเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นลงทุนในตลาดการเงิน
หากคุณกำลังมองหาวิธีเทรดที่ไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง เช่น หุ้น ดัชนี หรือสกุลเงินการเก็งกำไรผ่าน Spread Betting และการซื้อขายผ่าน CFD คือสองตัวเลือกที่มักถูกพูดถึง โดยทั้งสองแบบเปิดโอกาสให้คุณทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา ถึงแม้จะดูคล้ายกัน แต่รายละเอียดบางอย่างกลับแตกต่างกันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษี ต้นทุน หรือกฎระเบียบ การเข้าใจข้อแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับสไตล์การเทรดและเป้าหมายของคุณได้ดียิ่งขึ้น
ในสหราชอาณาจักร จุดเด่นสำคัญของ Spread Betting คือไม่ต้องเสียภาษี กำไรที่ได้จากการเก็งกำไรแบบนี้ไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gains Tax) และยังไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ด้วย เพราะตามกฎหมายถือว่าเป็น “การพนัน” มากกว่าการลงทุน
ในทางกลับกัน การซื้อขายผ่าน CFD ไม่ได้รับสิทธิพิเศษเช่นนั้น กำไรที่เกิดจาก CFD ต้องเสียภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ แต่ข้อดีคือหากขาดทุนสามารถนำไปหักลดยอดกำไรที่ต้องเสียภาษีได้เช่นกัน ดังนั้นแม้ต้องเสียภาษี แต่ก็ยังมีทางเลือกในการบริหารภาระภาษีได้หากการเทรดไม่เป็นไปตามคาด
ทั้ง Spread Betting และ CFD ต่างก็ใช้ระบบเลเวอเรจ ซึ่งหมายถึงการเปิดสถานะซื้อขายที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนที่คุณวางจริง โดยจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร (แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วยเช่นกัน)
ข้อกำหนดด้านมาร์จิ้นขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ แต่โดยทั่วไป CFD มักมีข้อกำหนดมาร์จิ้นที่ต่ำกว่า Spread Betting เล็กน้อย ซึ่งทำให้ CFD มีความยืดหยุ่นมากกว่าในบางกรณี โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีบัญชีแบบมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของเลเวอเรจก็คือ Margin Call หรือการที่โบรกเกอร์อาจปิดสถานะของคุณหรือเรียกเงินเพิ่มหากบัญชีคุณมีเงินไม่พอตามที่กำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในการเทรด CFD
ในแง่ของสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ CFD ให้การเข้าถึงตลาดที่กว้างกว่า แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มักเสนอการเทรดหุ้น Forex ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุน ETF ไปจนถึงคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดทั่วโลกหรืออยากกระจายพอร์ตการลงทุน
สำหรับ Spread Betting แม้จะสามารถเทรดหุ้น ดัชนี และสกุลเงินได้เช่นกัน แต่ช่วงของสินทรัพย์ที่ให้บริการอาจแคบกว่าขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ สำหรับนักลงทุนทั่วไปอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่หากคุณต้องการเทรดหุ้นต่างประเทศหรือสินทรัพย์เฉพาะทาง CFD อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า
เรื่องต้นทุนก็เป็นอีกจุดที่สองผลิตภัณฑ์นี้แตกต่างกัน โดยเฉพาะหากคุณถือสถานะค้างคืน
สำหรับ CFD โดยทั่วไปจะมีค่าธรรมเนียมการถือสถานะค้างคืนรายวัน ซึ่งคล้ายกับการเสียดอกเบี้ย เพราะถือว่าเป็นการยืมเงินมาเปิดสถานะ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้สามารถสะสมจนเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะหากถือสถานะระยะยาว
ส่วน Spread Betting ค่าธรรมเนียมค้างคืนมักจะถูก "แฝงอยู่ในสเปรด" หรือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย แม้คุณอาจไม่เห็นค่าธรรมเนียมแยกชัดเจน แต่สเปรดที่กว้างขึ้นก็ยังถือเป็นต้นทุนที่ส่งผลต่อกำไรเช่นกันเพียงแต่แสดงออกมาในรูปแบบที่ต่างออกไป
ทั้ง Spread Betting และการเทรด CFD อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในสหราชอาณาจักรโดยสำนักงานกำกับดูแลการเงิน (FCA) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและวางกฎเกณฑ์เพื่อคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ในยุโรปยังมีกฎระเบียบจาก ESMA (European Securities and Markets Authority) ที่มีผลบังคับใช้ร่วมด้วย เช่น การจำกัดเลเวอเรจ และการบังคับให้มีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection) ซึ่งช่วยให้ผู้เทรดไม่สามารถขาดทุนเกินจำนวนเงินที่ฝากไว้ได้
แม้ทั้งสองผลิตภัณฑ์จะได้รับการกำกับดูแล แต่ก็มีความแตกต่างในเชิงลักษณะการจัดประเภท: Spread Betting ถือว่าเป็น “การพนัน” ตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลต่อวิธีการจัดเก็บภาษี และอาจรวมถึงแนวทางในการโฆษณา ส่วน CFD ถูกจัดเป็น “เครื่องมือทางการเงิน” อย่างเป็นทางการ จึงมักมีข้อกำหนดด้านความโปร่งใสและมาตรการคุ้มครองลูกค้าที่เข้มงวดมากกว่า
ไม่ว่าคุณจะเลือกเทรดด้วยวิธีใด สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้บริการจากโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าเงินทุนของคุณจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย และการซื้อขายเป็นไปตามเงื่อนไขที่ยุติธรรม
ด้าน | Spread Betting | CFD |
ภาษี (ในสหราชอาณาจักร) | ไม่ต้องเสียภาษี | ต้องเสียภาษีกำไรจากการลงทุน (Capital Gains Tax) |
การถือครองสินทรัพย์ | ไม่ถือครองสินทรัพย์จริง | ไม่ถือครองสินทรัพย์จริง |
เลเวอเรจ | มี (อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของ FCA/ESMA) | มี (อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของ FCA/ESMA) |
มาร์จิ้น | โดยทั่วไปต้องใช้มาร์จิ้นมากกว่า | โดยทั่วไปต้องใช้มาร์จิ้นน้อยกว่า |
การเข้าถึงตลาด | เข้าถึงสินทรัพย์จำนวนน้อยกว่า | เข้าถึงตลาดได้กว้างกว่า (หุ้น, Forex, ดัชนี ฯลฯ) |
ค่าธรรมเนียม | สเปรดกว้าง ไม่มีค่าธรรมเนียมข้ามคืนที่ระบุชัดเจน | สเปรดแคบ มีค่าธรรมเนียมข้ามคืน |
ข้อบังคับ | ถูกกำกับโดย FCA จัดเป็นการพนันตามกฎหมาย | ถูกกำกับโดย FCA จัดเป็นตราสารทางการเงิน |
การหักล้างขาดทุน | ไม่สามารถหักล้างขาดทุนกับกำไรที่ต้องเสียภาษีได้ | สามารถใช้ขาดทุนหักล้างกำไรที่ต้องเสียภาษีได้ |
การคุ้มครอง | มีการป้องกันยอดติดลบ สำหรับนักลงทุนรายย่อย | มีการป้องกันยอดติดลบเช่นกัน |
เหมาะกับใคร | นักเทรดที่เน้นระยะสั้น | นักเทรดที่ต้องการเข้าถึงตลาดที่หลากหลายมากขึ้น |
ไม่ว่าคุณจะชอบข้อได้เปรียบเรื่องปลอดภาษีของการเก็งกำไรแบบ Spread Betting หรือชอบความหลากหลายและการเข้าถึงตลาดทั่วโลกของ CFD ทั้งสองแบบมีข้อดีในแบบของตัวเอง การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน เช่น เรื่องต้นทุน ภาษี การเข้าถึงตลาด หรือสไตล์การเทรด สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น ควรใจเย็น ๆ ทดลองใช้บัญชีทดลอง ฝึกฝนทำความเข้าใจความเสี่ยง และเรียนรู้วิธีใช้งานแต่ละแบบให้ชำนาญก่อนจะลงทุนด้วยเงินจริง เพราะในโลกของการเทรด ความรู้และความเข้าใจสำคัญกว่าการรีบเร่งเสมอ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ต้องการทราบหรือไม่ว่า Quad Witching จะเกิดขึ้นเมื่อใดในปี 2025? รับปฏิทินฉบับสมบูรณ์และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบต่อหุ้นและอนุพันธ์
2025-05-29สนใจ NYSE: GOLD หรือไม่? ค้นพบว่า Barrick Gold คืออะไร มีมูลค่าเท่าไร สร้างรายได้อย่างไร และเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดในปี 2025 หรือไม่
2025-05-29ค้นพบว่า ATH (All-Time High) หมายความว่าอย่างไรในการซื้อขาย และเหตุใดจึงเป็นแนวคิดสำคัญสำหรับผู้ลงทุนในหุ้น ฟอเร็กซ์ ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์
2025-05-29