ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในปี 2025 ขณะที่แพลทินัมมีศักยภาพการเติบโตจากภาวะขาดแคลนอุปทานและความต้องการในอุตสาหกรรม การเลือกลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุน
ณ เดือนเมษายนปี 2025 นักลงทุนต่างจับตาเปรียบเทียบจุดแข็งของแพลทินัม (Platinum) และทองคำในฐานะทางเลือกในการลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ขณะที่แพลทินัมกลับกลายเป็นโอกาสที่น่าสนใจจากภาวะขาดแคลนอุปทาน
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแพลทินัมจะดีกว่าทองคำหรือไม่? บทวิเคราะห์นี้จะพาไปสำรวจสภาพตลาดในปัจจุบัน แนวโน้มราคา และปัจจัยที่ควรพิจารณาในการลงทุนของโลหะมีค่าทั้งสองชนิด เพื่อหาคำตอบว่าสิ่งใดคุ้มค่าน่าลงทุนที่สุดในปีนี้
แนวโน้มและผลการดำเนินงานของทองคำ
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ในปี 2025 ราคาทองคำได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยทำสถิติสูงสุดที่ 3,391.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์เมื่อวันที่ 21 เมษายน เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นสู่ช่วง 3,650–3,950 ดอลลาร์ และอาจพุ่งถึงระดับ 4,500 ดอลลาร์ หากความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นจริง
ปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำให้แข็งแกร่ง ได้แก่:
การซื้อของธนาคารกลาง: ธนาคารกลางของประเทศเกิดใหม่ยังคงเพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผ่านตลาด OTC (ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์) ในลอนดอน
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งทางการค้าและความไม่แน่นอนในระดับโลก ทำให้ทองคำเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ: ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ให้ความมั่นคง
พลวัตของตลาดแพลทินัม
แม้แพลทินัมจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงเช่นเดียวกับทองคำ แต่กลับเผชิญกับภาวะขาดแคลนอุปทานอย่างมีนัยสำคัญ สภาการลงทุนแพลทินัมโลก (World Platinum Investment Council) คาดการณ์ว่าตลาดจะมีภาวะขาดแคลนปริมาณ 848,000 ออนซ์ในปี 2025 ซึ่งนับเป็นปีที่สามติดต่อกันที่มีภาวะขาดแคลน อย่างไรก็ตาม ราคาของแพลทินัมยังคงเคลื่อนไหวค่อนข้างนิ่ง โดยซื้อขายอยู่ราว 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
นักวิเคราะห์จาก UBS คาดว่าปัจจัยท้าทายต่าง ๆ จะผลักดันราคาแพลทินัมให้สูงขึ้นในช่วงกลางถึงระยะยาว แม้ว่าอุปสงค์จากอุตสาหกรรมยานยนต์จะลดลงราว 2% เมื่อเทียบรายปี
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อสภาพตลาดแพลทินัม ได้แก่:
อุปสงค์จากอุตสาหกรรม: แพลทินัมถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะในตัวเร่งปฏิกิริยา (catalytic converters) อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งไม่ใช้ชิ้นส่วนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการ
ข้อจำกัดด้านอุปทาน: ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และการลงทุนในเหมืองที่มีจำกัด ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านอุปทาน ซึ่งอาจสนับสนุนให้ราคาสูงขึ้น
แนวโน้มการทดแทน: ในบางช่วง แพลทินัมถูกนำมาใช้แทนแพลเลเดียม (Palladium) โดยขึ้นอยู่กับโครงสร้างราคา ซึ่งปัจจัยนี้สามารถส่งผลต่อระดับความต้องการได้
การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบและแนวโน้มในอนาคต
บทบาทของทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งในปี 2025 ส่งผลให้ทองคำเป็นทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากการซื้อสะสมของธนาคารกลางและความต้องการของนักลงทุนท่ามกลางความผันผวนของตลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้บริษัทประกันสามารถจัดสรรเงินลงทุนในทองคำได้สูงสุดถึง 1% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งอาจเพิ่มแรงซื้อในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ปรับประมาณการราคาทองคำใหม่:
Goldman Sachs คาดว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 3,650–3,950 ดอลลาร์ และอาจพุ่งได้ถึง 4,500 ดอลลาร์ หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
Citi Research ปรับเป้าหมายราคาทองคำระยะเวลา 3 เดือนขึ้นเป็น 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้เหตุผลจากความต้องการที่แข็งแกร่งของบริษัทประกันจีนและความไม่แน่นอนของตลาด
ในทางกลับกัน แพลทินัมมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวจากข้อจำกัดด้านอุปทานและความต้องการในภาคอุตสาหกรรม แม้ว่าในระยะสั้นราคายังอยู่ในระดับต่ำก็ตาม
สำหรับบริบทในเดือนเมษายน 2025 ราคาของแพลทินัมอยู่ที่ประมาณ 1,094 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแนวโน้มคาดว่าจะค่อย ๆ อ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี และอาจปิดปีที่ระดับประมาณ 1,013.93 ดอลลาร์
ข้อควรพิจารณาในการลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงและสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ในระยะยาว ทองคำถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เนื่องจากผลการดำเนินงานในอดีตของทองคำในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน ช่วยสนับสนุนสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ในทางกลับกัน แพลทินัมอาจเหมาะกับนักลงทุนที่มองหาโอกาสจากสินทรัพย์ที่ยังไม่ถูกประเมินมูลค่าสูงเกินไปและมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะหากอุปสงค์จากภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นและภาวะขาดแคลนอุปทานยังคงดำเนินต่อไป
สรุป
ทองคำยังคงโดดเด่นในฐานะตัวเลือกการลงทุนที่น่าจับตาในปี 2025 ด้วยผลการดำเนินงานที่ทำสถิติสูงสุดและบทบาทในการป้องกันความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ส่วนแพลทินัมแม้จะยังไม่เปล่งประกายในระยะสั้น แต่ก็ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนแบบเก็งกำไรในอนาคต หากปัจจัยตลาดเอื้ออำนวย
ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกลงทุนระหว่างทองคำกับแพลทินัมควรพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่รับได้ มุมมองต่อตลาด และเป้าหมายการลงทุนเฉพาะบุคคลเป็นสำคัญ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ติดตามราคาทองคำและเงินในปัจจุบัน สำรวจแนวโน้ม 10 ปี ปัจจัยสำคัญ อัตราส่วนราคา และเรียนรู้ว่าเวลาใดอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อหรือลงทุน
2025-06-13เรียนรู้ว่าญี่ปุ่นใช้สกุลเงินอะไร บทบาทของญี่ปุ่นในฐานะสกุลเงินอย่างเป็นทางการ และเหตุใดจึงเป็นสกุลเงินที่ผู้ค้าสกุลเงินทั่วโลกชื่นชอบ
2025-06-13ค้นพบว่า SWPPX ของ Schwab มอบการเข้าถึง S&P 500 ต้นทุนต่ำได้อย่างไร พร้อมมอบประสิทธิภาพที่มั่นคงและความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอในระยะยาว
2025-06-13