สินค้าโภคภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในการผลิตพลังงานและอุตสาหกรรม การซื้อขายในตลาดสินค้ามีมูลค่าสูง ช่วยกระจายความเสี่ยงและหากำไร
สินค้าโภคภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับอุตสาหกรรม การผลิตพลังงาน และการจัดหาสินค้าอาหาร นักเทรดทำการซื้อขายสินค้าเหล่านี้ในตลาดการเงิน ด้วยมูลค่าการทำธุรกรรมที่สูงถึงพันล้านดอลลาร์ในแต่ละวัน
ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน โลหะ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ช่วยขับเคลื่อนการผลิตในอุตสาหกรรม การขนส่ง และการผลิตอาหารให้กับผู้คนนับพันล้าน นักลงทุนและนักเทรดจึงมีส่วนร่วมในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อหากำไร จัดการความเสี่ยงและกระจายพอร์ตการลงทุน
ปัจจัยใดบ้างที่กำหนดว่าสินค้าโภคภัณฑ์มีการซื้อขายมากที่สุด?
ปัจจัยหลักที่กำหนดความสำคัญของสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกคือ ปริมาณการซื้อขาย (จำนวนสัญญาหรือหน่วยสินค้าที่ถูกแลกเปลี่ยน) และมูลค่าการซื้อขาย (มูลค่าทางการเงินรวมของสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทำการซื้อขาย)
สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดมักเป็นสินค้าที่มีสภาพคล่องสูง มีความต้องการในตลาดที่แข็งแกร่ง และมีความผันผวนของราคาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้เป็นที่สนใจของทั้งผู้ใช้ในเชิงพาณิชย์และนักเทรดทางการเงิน
10 สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดตามปริมาณและมูลค่า
1.น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยครอบงำตลาดการค้าทั่วโลกทั้งในแง่ของปริมาณและมูลค่า น้ำมันดิบเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ใช้ในการขนส่ง การผลิตอุตสาหกรรม และการผลิตไฟฟ้า ทำให้เป็นทรัพยากรที่มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันดิบถูกกำหนดโดยสองเกณฑ์สำคัญ ได้แก่ Brent Crude ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล และ West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งเป็นมาตรฐานของสหรัฐฯ ความต้องการใช้น้ำมันดิบถูกขับเคลื่อนโดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การผลิตในอุตสาหกรรม และความต้องการในการขนส่ง ขณะเดียวกัน นโยบายการผลิตของ OPEC ความตึงเครียดทางการเมือง และความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการสกัดก็มีผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบเช่นกัน
โดยซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และแคนาดาคือผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ผู้บริโภคน้ำมันหลัก ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อต้นทุนการผลิตและมูลค่าของสกุลเงิน
2. ทองคำ
ทองคำเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่เก่าแก่และมีค่ามากที่สุดในฐานะสินทรัพย์ที่เก็บมูลค่า ป้องกันเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ทองคำถูกซื้อขายอย่างกว้างขวางทั้งในรูปแบบทางกายภาพและผ่านเครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญาฟิวเจอร์ส และกองทุน ETF
นักลงทุนมักหันมาซื้อทองคำในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ หรือการลดค่าของสกุลเงิน ทำให้ทองคำกลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุดในโลก ความต้องการทองคำมีทั้งจากธนาคารกลางผู้ผลิตเครื่องประดับ และการใช้งานในอุตสาหกรรม ขณะที่อุปทานทองคำขึ้นอยู่กับการผลิตจากเหมืองและการรีไซเคิล
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ นโยบายของธนาคารกลาง และความไม่มั่นคงทางการเมือง ผู้ผลิตทองคำหลัก ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยลอนดอนและนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำที่สำคัญ
3. ก๊าซธรรมชาติ
ก๊าซธรรมชาติเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุด เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า การผลิตอุตสาหกรรมและการทำความร้อนในบ้าน โดยก๊าซธรรมชาติจะถูกซื้อขายในสองรูปแบบหลัก คือ ก๊าซธรรมชาติที่ขนส่งผ่านท่อและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และกาตาร์เป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ ขณะที่ยุโรปและเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความต้องการนำเข้าในปริมาณมาก
ราคาก๊าซธรรมชาติจะผันผวนตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการที่สูงในฤดูหนาว ระดับการผลิต เหตุการณ์ทางการเมือง และการแข่งขันจากแหล่งพลังงานทางเลือก ด้วยความพยายามทั่วโลกในการใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดขึ้น ก๊าซธรรมชาติยังคงเป็นเชื้อเพลิงที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืน
4. ทองแดง
ทองแดงเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าสูง จึงมีความสำคัญในการผลิตสายไฟ การก่อสร้าง และการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โดยความต้องการทองแดงจะเชื่อมโยงกับการเติบโตทางอุตสาหกรรมทั่วโลก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน เช่น การผลิตแผงโซลาร์เซลล์ กังหันลม และยานยนต์ไฟฟ้า
จีน ชิลี และเปรูเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุด ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น การเติบโตของ GDP ความต้องการที่อยู่อาศัย และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมมีผลกระทบต่อราคาทองแดง นอกจากนี้ ทองแดงยังได้รับการขนานนามว่า "Dr.ทองแดง" เพราะราคาของมันมักจะสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจโลก
5. เงิน
เงินเป็นทั้งโลหะมีค่าและโลหะอุตสาหกรรม ทำให้มันโดดเด่นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดโดยถูกนำไปใช้ในหลายด้าน เช่น เครื่องประดับ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
ราคาของเงินได้รับอิทธิพลจากความต้องการในการลงทุน การผลิตทางอุตสาหกรรม อัตราเงินเฟ้อ และอุปทานจากการขุดแร่ โดยเม็กซิโก ชิลี และจีนเป็นผู้ผลิตเงินรายใหญ่ ขณะที่การซื้อขายเงินในตลาดการเงินโลกมักเกิดขึ้นผ่านสัญญาฟิวเจอร์สและกองทุน ETF
ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน เงินมักทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่นเดียวกับทองคำ แต่มีความผันผวนมากกว่า เนื่องจากขนาดตลาดที่เล็กกว่า
6. ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองอาจดูเหมือนเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่คาดไม่ถึง แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสินค้าที่มีความหลากหลายสูง ซึ่งใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ น้ำมันพืช และผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช โดยสหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินาคือผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ ขณะที่จีนเป็นผู้บริโภคถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดเนื่องจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่มีขนาดใหญ่
ราคาของถั่วเหลืองผันผวนตามสภาพอากาศ ความต้องการส่งออก นโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพ และข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภครายใหญ่ การเติบโตของการรับประทานอาหารจากพืชและความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซลยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดถั่วเหลืองทั่วโลก
7. ข้าวสาลี
ข้าวสาลีถือเป็นพืชอาหารหลักและเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก เนื่องจากการผลิตที่มีปริมาณสูง และความสำคัญต่อการผลิตขนมปัง พาสต้า และอาหารสัตว์ จึงทำให้ข้าวสาลีมีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงด้านอาหาร ผู้ผลิตข้าวสาลีหลักได้แก่ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย ขณะที่ผู้บริโภคหลักคือจีน อินเดีย และสหภาพยุโรป
ราคาข้าวสาลีได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ การอุดหนุนจากรัฐบาล ข้อจำกัดในการส่งออก และปัจจัยทางการเมืองในพื้นที่ผลิตหลัก เมื่อเกิดความแห้งแล้ง น้ำท่วม หรือความขัดแย้งในประเทศผู้ผลิตใหญ่ ราคาข้าวสาลีก็อาจผันผวนอย่างรุนแรง ข้าวสาลีฟิวเจอร์สสามารถซื้อขายได้ที่ Chicago Board of Trade(CBOT)
8. กาแฟ
กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก และยังเป็นสินค้าเกษตรที่มีการซื้อขายคึกคักอีกด้วยราคากาแฟพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันราคากาแฟเพิ่มขึ้นถึง 72% ตั้งแต่ต้นปี และในช่วง 47 ปีที่ผ่านมากาแฟได้สร้างสถิติราคาสูงสุด
กาแฟที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ คือ อาราบิก้าและโรบัสต้า ซึ่งมีลักษณะรสชาติและความต้องการที่แตกต่างกัน การค้ากาแฟทั่วโลกมีการผลิตหลักจากประเทศบราซิล เวียดนาม โคลอมเบีย และเอธิโอเปีย ส่วนสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นผู้บริโภคหลักที่ขับเคลื่อนความต้องการกาแฟคุณภาพสูง
ราคากาแฟมีความผันผวนสูงและได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพอากาศ โรคพืช ต้นทุนแรงงาน และปัจจัยทางการเมืองในประเทศผู้ผลิต นอกจากนี้ กระแสการเติบโตของกาแฟพิเศษและการเกษตรที่ยั่งยืนยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคากาแฟ
9. ข้าวโพด
ข้าวโพดเป็นสินค้าเกษตรที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก เนื่องจากการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตอาหาร อาหารสัตว์ และการผลิตเอทานอล โดยสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตข้าวโพดหลัก ขณะที่บราซิล อาร์เจนตินา และจีนก็เป็นผู้ผลิตสำคัญเช่นกัน
ราคาข้าวโพดจะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศรอบการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวน โยบายพลังงานชีวภาพ และความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและความต้องการทั่วโลก โดยเฉพาะความต้องการเอทานอลที่เพิ่มขึ้นในฐานะเชื้อเพลิงทางเลือก ทำให้ข้าวโพดมีบทบาทสำคัญในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
การหยุดชะงักของอุปทาน เช่น ความแห้งแล้งในพื้นที่มิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกา อาจทำให้ราคาข้าวโพดผันผวนอย่างรุนแรง ข้าวโพดฟิวเจอร์สมีการซื้อขายที่ Chicago Mercantile Exchange(CME)
10. อลูมิเนียม
อลูมิเนียมเป็นหนึ่งในโลหะอุตสาหกรรมที่มีการซื้อขายสูงที่สุด เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมและการนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเทศจีนเป็นผู้นำในการผลิตอลูมิเนียมทั่วโลก โดยมีการผลิตจากอินเดีย รัสเซีย และแคนาดาเป็นส่วนสำคัญ ราคาของอลูมิเนียมจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงาน ภาษีการค้า ความต้องการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการริเริ่มด้านความยั่งยืน
เมื่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ เริ่มหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน คาดว่าอุปสงค์ในอลูมิเนียมจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
แนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2025 สำหรับ 4 กลุ่มหลัก
การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2025 ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนและความซับซ้อนตามประวัติศาสตร์ โดยหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2025 คือความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ในตลาดพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์คือเศรษฐกิจของจีน ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ การปรับเปลี่ยนนโยบายอุตสาหกรรม และการตัดสินใจสะสมสินค้าเชิงกลยุทธ์ ซึ่งทำให้การคาดการณ์ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญ เช่น ทองแดง น้ำมันดิบ และเหล็กกล้า กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปยังคงไม่แน่นอน และปัญหาด้านความมั่นคงพลังงานยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2025 โดยเฉพาะการจัดหาก๊าซจากรัสเซียที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและยุโรปยังคงแสวงหาทางเลือกพลังงานใหม่ ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพในการผลิตอุตสาหกรรม
สรุป
สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดทั้งในด้านปริมาณและมูลค่ามีบทบาทสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่สินค้าโภคภัณฑ์พลังงาน เช่น น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ ไปจนถึงโลหะมีค่า เช่น ทองคำและเงิน รวมถึงพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าวโพดและถั่วเหลือง สินค้าเหล่านี้มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรม รัฐบาล และผู้บริโภคในทุกมุมโลก
ในขณะที่ปี 2025 เป็นปีที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนสูง โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบความต้องการทั่วโลก เราขอแนะนำให้เทรดเดอร์หมั่นใช้ข้อมูลที่ทันสมัยติดตามความเสี่ยงทางการเมืองอย่างใกล้ชิด และทำการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสินทรัพย์อย่างรอบคอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ติดตามราคาทองคำและเงินในปัจจุบัน สำรวจแนวโน้ม 10 ปี ปัจจัยสำคัญ อัตราส่วนราคา และเรียนรู้ว่าเวลาใดอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อหรือลงทุน
2025-06-13เรียนรู้ว่าญี่ปุ่นใช้สกุลเงินอะไร บทบาทของญี่ปุ่นในฐานะสกุลเงินอย่างเป็นทางการ และเหตุใดจึงเป็นสกุลเงินที่ผู้ค้าสกุลเงินทั่วโลกชื่นชอบ
2025-06-13ค้นพบว่า SWPPX ของ Schwab มอบการเข้าถึง S&P 500 ต้นทุนต่ำได้อย่างไร พร้อมมอบประสิทธิภาพที่มั่นคงและความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอในระยะยาว
2025-06-13