อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว (Floating Exchange Rate) คืออะไร?
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว (Floating Exchange Rate) คืออะไร?

ผู้เขียน: Charon N.

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-26   
อัปเดตเมื่อ: 2025-12-29

ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Floating Exchange Rate) คือราคาของสกุลเงินที่เคลื่อนไหวอย่างเสรีตามกลไกอุปสงค์และอุปทานในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ


รัฐบาลและธนาคารกลางจะไม่กำหนดค่าเงินให้อยู่ในระดับตายตัว แต่ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน ตามการซื้อขายของนักเทรด บริษัท นักลงทุน และสถาบันการเงินต่าง ๆ


ในปัจจุบัน สกุลเงินหลักของโลกส่วนใหญ่ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว ระบบนี้เริ่มแพร่หลายหลังจากการล่มสลายของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ Bretton Woods ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ซึ่งการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศอย่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF)


คำนิยาม

อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว คือราคาของสกุลเงินที่ถูกกำหนดโดยตลาด ไม่ใช่โดยรัฐบาลหรือธนาคารกลาง ค่าเงินจะปรับขึ้นหรือลงตามอุปสงค์และอุปทานในตลาดเงินตราต่างประเทศ


เมื่อความต้องการถือครองสกุลเงินของประเทศใดเพิ่มขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินนั้นก็จะปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากความต้องการลดลง ค่าเงินก็จะอ่อนค่าลง


การปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามการค้า การลงทุน และข่าวสารทางเศรษฐกิจนี้เอง ที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนถูกเรียกว่า “ลอยตัว”


ประเภทของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว

ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวไม่ได้มีรูปแบบเดียวทั้งหมด ในตลาดจริงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก

1. การลอยตัวเสรี (Free Float)

ในระบบลอยตัวเสรี ค่าเงินจะถูกกำหนดเกือบทั้งหมดโดยกลไกตลาด ราคาจะปรับขึ้นหรือลงตามอุปสงค์และอุปทาน ข่าวสาร และพฤติกรรมของนักลงทุน รัฐบาลและธนาคารกลางจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเป็นประจำ


2. การลอยตัวแบบมีการจัดการ (Managed Float)

ในระบบลอยตัวแบบมีการจัดการ ค่าเงินยังคงเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดเป็นหลัก แต่ภาครัฐหรือธนาคารกลางอาจเข้ามาแทรกแซงเป็นครั้งคราว หากการเคลื่อนไหวของราคาเกิดความผันผวนรุนแรงหรือไม่เสถียร เป้าหมายของการแทรกแซงคือเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ไม่ใช่การตรึงค่าเงินให้อยู่ในระดับใดระดับหนึ่ง


ความแตกต่างนี้ช่วยอธิบายได้ว่า เหตุใดสกุลเงินลอยตัวบางสกุลจึงเคลื่อนไหวอย่างเสรีในแต่ละวัน ขณะที่บางสกุลอาจแสดงสัญญาณของการดูแลหรือควบคุมจากภาครัฐในช่วงที่ตลาดเผชิญแรงกดดันสูง


ผลกระทบของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวต่อผู้เทรด

ผลกระทบของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวต่อผู้เทรด

สำหรับนักเทรด ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวสร้างทั้งโอกาส และความเสี่ยงไปพร้อมกัน


ผลกระทบที่สำคัญ ได้แก่:

  • ราคาเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แม้ในช่วงที่ไม่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ

  • รายงานข้อมูลเศรษฐกิจ คำแถลงของธนาคารกลาง และข่าวการเมืองระหว่างประเทศ สามารถทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

  • ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหรือในภาวะวิกฤต


ด้วยเหตุนี้ นักเทรดจึงต้องติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ ข่าวสาร และบรรยากาศของตลาด (Market Sentiment) อย่างใกล้ชิด เมื่อทำการซื้อขายสกุลเงินที่อยู่ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว


อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่

คุณสมบัติ อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว อัตราแลกเปลี่ยนคงที่
ผู้กำหนดราคา กลไกอุปสงค์และอุปทานของตลาด รัฐบาลหรือธนาคารกลาง
การเคลื่อนไหวรายวัน เคลื่อนไหวตลอดเวลา จำกัดหรือแทบไม่เคลื่อนไหว
บทบาทของธนาคารกลาง อิทธิพลทางอ้อม การควบคุมโดยตรง
ตัวอย่าง USD, EUR, JPY สกุลเงินที่ตรึงหรือผูกค่าเงินบางประเทศ


ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว

หนึ่งในลักษณะเด่นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวคือ การตอบสนองต่อข้อมูลใหม่อย่างรวดเร็ว ราคาในตลาดจะปรับเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ เมื่อผู้เทรดรับรู้ข่าวสารและปรับความคาดหวังของตน


1. ข้อมูลเศรษฐกิจ : เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแตกต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ ค่าเงินมักจะเคลื่อนไหวภายในไม่กี่วินาที ตัวอย่างเช่น หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด นักเทรดอาจคาดว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ความต้องการสกุลเงินนั้นเพิ่มขึ้น และค่าเงินแข็งค่าขึ้น


2. เหตุการณ์ทางการเมือง : เหตุการณ์ทางการเมืองก็มีผลอย่างมาก การเลือกตั้ง การเปลี่ยนนโยบาย หรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สามารถเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาดได้ เมื่อความเชื่อมั่นลดลง นักลงทุนอาจย้ายเงินออกจากสกุลเงินหนึ่งไปยังสกุลเงินที่มองว่าปลอดภัยกว่า การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์นี้ทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว


3. วิกฤตการณ์ระดับโลก : เหตุการณ์ระดับโลก เช่น วิกฤตการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงราคาพลังงานอย่างฉับพลัน สามารถขยายความผันผวนของค่าเงินได้ ในระบบลอยตัว ค่าเงินทำหน้าที่เสมือน “วาล์วระบายแรงกดดัน” แทนที่รัฐบาลจะต้องปกป้องราคาคงที่ ค่าเงินจะปรับตัวขึ้นหรือลงเพื่อดูดซับแรงกระแทกจากภายนอก


สำหรับนักเทรด สิ่งนี้หมายความว่าอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวสะท้อนสภาพความเป็นจริงของตลาดในปัจจุบันอยู่เสมอ แม้ราคาจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว แต่ก็ให้สัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับมุมมองของตลาดต่อความเสี่ยง การเติบโต และเสถียรภาพในขณะนั้น


ตัวอย่างที่ชัดเจนของอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว

ตัวอย่างที่ 1: ดอลลาร์สหรัฐกับข้อมูลเศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว เมื่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นักเทรดมักคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการถือครองดอลลาร์เพิ่มขึ้น และดันค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่นาที


ตัวอย่างที่ 2: เงินเยนญี่ปุ่นกับภาวะความเสี่ยงของตลาด

เงินเยนญี่ปุ่นก็เป็นสกุลเงินลอยตัวเช่นกัน ในช่วงที่ตลาดการเงินโลกเผชิญความตึงเครียด นักลงทุนมักเข้าซื้อเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นและทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ


ตัวอย่างที่ 3: ดอลลาร์ออสเตรเลียกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ออสเตรเลียเป็นประเทศผู้ส่งออกแร่เหล็กและถ่านหินในปริมาณมาก เมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ความต้องการสินค้าส่งออกของออสเตรเลียก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ความต้องการดอลลาร์ออสเตรเลียสูงขึ้น และทำให้ค่าเงินแข็งค่าภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • อุปสงค์และอุปทาน: แรงขับเคลื่อนหลักที่กำหนดราคาของสกุลเงินลอยตัว โดยขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อและขายของผู้เข้าร่วมตลาด

  • ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) : ตลาดการเงินระดับโลกที่อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวถูกกำหนดผ่านการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง

  • การแข็งค่าของสกุลเงิน: ภาวะที่สกุลเงินลอยตัวมีมูลค่าสูงขึ้น จากความต้องการที่แข็งแกร่งมากขึ้น

  • การอ่อนค่าของสกุลเงิน : ภาวะที่สกุลเงินลอยตัวมีมูลค่าลดลง เนื่องจากความต้องการในตลาดลดลง

  • ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน : ความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินในระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ทำไมสกุลเงินหลักส่วนใหญ่จึงใช้อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว?

ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวช่วยให้เศรษฐกิจสามารถปรับตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติต่อการเปลี่ยนแปลงด้านการค้า กระแสเงินทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ หากความต้องการสินค้าส่งออกลดลง ค่าเงินสามารถอ่อนค่าลงเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของการส่งออก ความยืดหยุ่นนี้ช่วยลดความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเข้าแทรกแซงตลาดอยู่ตลอดเวลา


2. ธนาคารกลางสามารถมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวได้หรือไม่?

ได้ แต่เป็นอิทธิพลทางอ้อม ธนาคารกลางสามารถปรับอัตราดอกเบี้ย ให้แนวทางนโยบาย หรือซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน การดำเนินการเหล่านี้ส่งผลต่อพฤติกรรมของนักลงทุน และท้ายที่สุดก็ส่งผลต่อความต้องการสกุลเงิน อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจะไม่รับประกันระดับค่าเงินที่ตายตัวในระบบลอยตัว


3. อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวมีความผันผวนมากกว่าระบบคงที่หรือไม่?

ในแง่ของการซื้อขายรายวัน ใช่ ระบบลอยตัวมีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระบบคงที่มักเคลื่อนไหวใกล้ระดับเป้าหมาย แต่ระบบคงที่อาจเผชิญการปรับตัวรุนแรงในครั้งเดียว หากการตรึงค่าเงินถูกยกเลิก ระบบลอยตัวจะกระจายการปรับตัวออกไปตามเวลา แทนที่จะเลื่อนการปรับตัวไปเกิดขึ้นในจุดเดียว


4. อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออกอย่างไร?

เมื่อค่าเงินแข็งค่า สินค้านำเข้าจะมีราคาถูกลง แต่สินค้าส่งออกอาจมีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ ในทางกลับกัน เมื่อค่าเงินอ่อนค่า สินค้าส่งออกมักมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่สินค้านำเข้าจะมีต้นทุนสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลต่อเงินเฟ้อ ดุลการค้า และผลกำไรของภาคธุรกิจ


5. อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวดีหรือไม่ดีสำหรับนักเทรด?

ขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยงและจังหวะการเทรด ระบบลอยตัวสร้างการเคลื่อนไหวของราคาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนักเทรดสามารถนำไปใช้เป็นโอกาสได้ ในขณะเดียวกัน ข่าวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็อาจทำให้เกิดการขาดทุนอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ดังนั้น การเข้าใจสาเหตุของการเคลื่อนไหวของราคาจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง


6. อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวเคยหยุด “ลอยตัว” หรือไม่?

ในกรณีรุนแรง รัฐบาลอาจเข้ามาแทรกแซงตลาดเป็นการชั่วคราวในช่วงวิกฤต อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงมักเกิดขึ้นในระยะสั้น โครงสร้างระยะยาวยังคงเป็นระบบลอยตัว โดยให้กลไกตลาดทำหน้าที่หลัก


สรุป

อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวเป็นระบบที่ค่าเงินถูกกำหนดโดยตลาด ไม่ใช่โดยคำสั่งจากภาครัฐ ค่าเงินจะปรับขึ้นหรือลงตามข้อมูลเศรษฐกิจ ความคาดหวังด้านอัตราดอกเบี้ย การค้าโลก และความเชื่อมั่นของนักลงทุน


สำหรับนักเทรด ระบบนี้สร้างทั้งการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและโอกาสในการทำกำไร แต่ขณะเดียวกันก็ต้องอาศัยวินัย การเตรียมพร้อม และความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับปัจจัยที่ขับเคลื่อนความต้องการของสกุลเงิน


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ