ราคาทองคำและโลหะเงินทุบสถิติใหม่! เจาะลึกแนวโน้มปี 2026 และโอกาสทำกำไรที่คุณไม่ควรพลาด
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ราคาทองคำและโลหะเงินทุบสถิติใหม่! เจาะลึกแนวโน้มปี 2026 และโอกาสทำกำไรที่คุณไม่ควรพลาด

ผู้เขียน: Blair Cornelia

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-22

ตลาดการเงินโลกกำลังจับตามองปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อ ราคาทองคำและโลหะเงิน ปรับตัวสูงขึ้นทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระดับโลกและความคาดหวังต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ล่าสุด Bloomberg รายงานว่าราคาโลหะเงินได้พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ทองคำก็ขยับขึ้นจ่อจุดสูงสุดตลอดกาลเช่นกัน คำถามสำคัญคือนักลงทุนจะใช้ประโยชน์จากจังหวะนี้อย่างไร และทิศทางตลาดในปีหน้าจะเป็นไปในทิศทางไหน?

ปัจจัยอะไรที่ดันให้ราคาโลหะมีค่าพุ่งแรงขนาดนี้

สถานการณ์ล่าสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค. 68 ชี้ให้เห็นว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะ "กระทิง" อย่างสมบูรณ์ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจาก 3 ปัจจัยสำคัญ:

ภาวะ Short Squeeze และแรงเก็งกำไร:

โลหะเงิน (Silver) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 67.5519 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สาเหตุหลักมาจากการเกิด "ชอร์ตสควีซ" (Short Squeeze) ครั้งประวัติศาสตร์เมื่อเดือนตุลาคม ทำให้นักลงทุนขาลงต้องเร่งซื้อคืนในราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดเซี่ยงไฮ้พุ่งสูงใกล้เคียงวิกฤตครั้งก่อน

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics):

ทองคำและเงินยังคงทำหน้าที่เป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" ได้อย่างดีเยี่ยม ท่ามกลางข่าวสหรัฐฯ ปิดล้อมการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา และความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สถานการณ์เหล่านี้กระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลกหันมาถือครองโลหะมีค่ามากขึ้น

ความหวังเรื่องดอกเบี้ยขาลง:

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังไม่ชัดเจน แต่นักลงทุนต่างเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปี 2026 ซึ่งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายนี้ เป็นผลดีต่อราคาทองคำโดยตรง


Goldman Sachs ฟันธง! ราคาทองคำมีโอกาสแตะ 4,900 ดอลลาร์

ไม่ได้มีเพียงแค่นักเก็งกำไรรายย่อยเท่านั้นที่ตื่นตัว แต่สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Goldman Sachs Group Inc. โดยทีมนักวิเคราะห์ชั้นนำ ได้ออกบันทึกระบุว่า "ความเสี่ยงของราคาทองคำยังเอนไปทางขาขึ้น"

Expert Forecast: Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนในกองทุน ETF เริ่มเข้ามาแย่งซื้อทองคำแข่งกับธนาคารกลาง ท่ามกลางภาวะทองคำจริง (Physical Gold) ที่เริ่มมีจำกัด

ข้อมูลจาก World Gold Council และ Bloomberg ยังยืนยันตรงกันว่า มีกระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำต่อเนื่องถึง 5 สัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนสถาบัน


อัปเดตราคาตลาดล่าสุด (22 ธ.ค. 68)

โลหะเงิน (Spot Silver): ปรับขึ้น 0.5% สู่ระดับ 67.46 ดอลลาร์

ทองคำ (Spot Gold): บวก 0.5% แตะ 4,363.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ห่างจุดสูงสุดตลอดกาลเพียงเล็กน้อย)

กลุ่มโลหะมีค่าอื่นๆ: แพลทินัมและแพลเลเดียมต่างปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง


Expert Insight: เตรียมพอร์ตให้พร้อมรับปีแห่งประวัติศาสตร์

ปีนี้นับเป็นปีที่ทองคำและเงินทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 หากคุณยังไม่มีสินทรัพย์เหล่านี้ในพอร์ต หรือกำลังมองหาช่องทางเก็งกำไรระยะสั้นจากความผันผวน นี่คือช่วงเวลาที่ไม่ควรละเลยสายตา


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ



บทความแนะนำ
ดอลลาร์สหรัฐวันนี้เผชิญแรงขาย หลังเฟดลดดอกเบี้ย ดัน DXY ร่วงต่อเนื่อง
ราคาซิลเวอร์ทำสถิติสูงสุด: ควรซื้อ เพิ่มถือ หรือถึงเวลาทำกำไร?
การเติบโตของ Gold ETF ทำไม AUM ทั่วโลกถึงทำสถิติสูงสุด?
XAUUSD คืออะไร? เจาะลึกการ "เทรด ทอง" ยุคใหม่
ค่าเงินบาทแข็ง! เจาะลึกโอกาสและความเสี่ยงในตลาดโลก