เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-12

Risk Reward Ratio คือค่าตัวเลขที่ใช้เปรียบเทียบ “ความเสี่ยงที่อาจขาดทุน” กับ “กำไรที่คาดหวัง” ของการเทรดหรือการลงทุน โดยจะแสดงในรูป X:Y ซึ่ง X คือความเสี่ยงที่ต้องรับ และ Y คือผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ เทรดเดอร์และนักลงทุนใช้ตัวเลขนี้เพื่อประเมินว่าโอกาสนั้นคุ้มค่าพอจะเข้าเทรดหรือไม่
ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์ยอมเสี่ยง £100 เพื่อมีโอกาสทำกำไร £300 จะได้ Risk Reward Ratio เท่ากับ 1:3 ซึ่งอัตรา 1:2 ขึ้นไป มักถือว่าเป็นอัตราที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพจำนวนมาก
อัตราส่วนนี้มุ่งเน้นให้เห็นภาพว่า:
จำนวนเงินที่คุณอาจขาดทุน หากราคาวิ่งสวนทางกับคุณ
จำนวนเงินที่คุณตั้งเป้าจะได้กำไร หากราคาวิ่งถึงเป้าหมายของคุณ
การเปรียบเทียบแบบนี้ช่วยให้เทรดเดอร์คัดเลือกดีลที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับความเสี่ยงมากกว่า
Risk Reward Ratio เป็นมากกว่าสูตรคำนวณ มันเป็นกรอบการตัดสินใจที่ใช้ได้จริง นักลงทุนใช้มันด้วยเหตุผลหลายประการ:
การวางแผนกำไรอย่างสม่ำเสมอ:
ช่วยให้คุณสามารถพิจารณาได้ว่าผลกำไรที่คาดว่าจะได้รับนั้นคุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่ ก่อนที่จะทำการซื้อขาย
ระเบียบวินัยและความเป็นกลาง:
เป็นการเสริมสร้างกฎเกณฑ์การเข้าและออกที่เข้มงวด ป้องกันการซื้อขายตามอารมณ์
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น:
เมื่อนำมาประกอบกับการวิเคราะห์อัตราการชนะและความคาดหวัง จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในระยะยาว
เทรดเดอร์มืออาชีพมักตั้งเป้าหมายอัตราส่วนขั้นต่ำที่ 1:2 หรือ 1:3 ซึ่งหมายความว่าผลตอบแทนที่อาจได้รับจะมากกว่าความเสี่ยงสองหรือสามเท่า นั่นหมายความว่าแม้ว่าพวกเขาจะขาดทุนมากกว่าได้กำไร แต่ก็ยังสามารถบรรลุผลกำไรได้
การคำนวณ Risk Reward Ratio ต้องใช้พารามิเตอร์สำคัญ 3 ตัวของการเทรด:
Entry Price: ราคาที่คุณเข้าเทรด
Stop‑Loss Price: ระดับที่คุณจะออกเพื่อลดการขาดทุน หากราคาวิ่งสวนทาง
Take‑Profit Price: ระดับที่คุณจะออกเพื่อทำกำไร หากราคาวิ่งตามเป้าหมาย
| ส่วนประกอบการเทรด | มูลค่า |
|---|---|
| Entry Price | 100 ปอนด์ |
| Stop‑Loss | 95 ปอนด์ |
| Take‑Profit | 115 ปอนด์ |
| Risk (Loss) | 5 ปอนด์ |
| Reward (Profit) | 15 ปอนด์ |
| Risk Reward Ratio | 1:3 |
ในตัวอย่างนี้:
ความเสี่ยงคำนวณจาก Entry Price ลบ Stop‑Loss (£100 − £95 = £5)
ผลตอบแทนคำนวณจาก Take‑Profit ลบ Entry Price (£115 − £100 = £15)
อัตราส่วน Reward ต่อ Risk คือ 15/5 = 3 หรือ 1:3

ด้านล่างนี้เป็นรูปแบบการตั้งค่า risk reward ที่นิยมใช้ตามสไตล์การเทรดต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนเป้าหมายที่เป็นไปได้จริงตามพฤติกรรมตลาดและความชอบของเทรดเดอร์
| สไตล์การเทรด | Risk Reward Ratio โดยทั่วไป |
|---|---|
| Scalping | 1:1 ถึง 1:2 |
| Day Trading | 1:2 ถึง 1:3 |
| Swing Trading | 1:3 ถึง 1:5 |
| Position Trading | 1:5 ขึ้นไป |
สรุปนี้แสดงให้เห็นว่า ระยะเวลาถือครองที่คาดหวังและพฤติกรรมของตลาดมีผลต่อเป้าหมาย risk reward
เพื่อเข้าใจ Risk Reward Ratio ในการใช้งานจริง นี่คือตัวอย่างสไตล์การเทรดจริงที่แสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์มืออาชีพใช้มันอย่างไร:
สมมติว่าเทรดเดอร์ศึกษากราฟเทคนิคัลและพบการเบรกเอาต์ของหุ้นขนาดใหญ่:
| รายละเอียดการซื้อขาย | มูลค่า |
|---|---|
| Entry Price | 202 ดอลลาร์สหรัฐ |
| Entry Price | 199 ดอลลาร์สหรัฐ |
| Target Price | 211 ดอลลาร์สหรัฐ |
| Risk | 3 ดอลลาร์ |
| Reward | 9 ดอลลาร์ |
| Ratio | 1:3 |
ในสถานการณ์นี้ เทรดเดอร์ตั้ง stop‑loss ไว้ต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญ และตั้ง take profit ไว้ที่โซนแนวต้าน อัตรา 1:3 หมายความว่าเทรดเดอร์ตั้งเป้าหมายทำกำไรสามเท่าของความเสี่ยง งานวิจัยของเพื่อนร่วมวงการชี้ว่า อัตราส่วนแบบนี้มักถูกแนะนำสำหรับการเทรดสวิงและเบรกเอาต์
ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) หน่วย pips ใช้ในการวัดการเคลื่อนไหวของราคา ลองพิจารณาการตั้งค่านี้:
| ส่วนประกอบการเทรด | มูลค่า |
|---|---|
| คู่สกุลเงิน | EUR/USD |
| Entry Price | 1.0850 |
| Stop‑Loss | 1.0800 |
| Take‑Profit | 1.0950 |
| Risk | 50 pip |
| Reward | 100 pip |
| Ratio | 1:2 |
Risk Reward Ratio 1:2 แบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับการเทรด pullback ที่เทรดเดอร์ออกจากตลาดที่แนวรับหรือแนวต้านที่เหมาะสม อัตราส่วนสูงกว่านี้มักเป็นที่นิยมเมื่อความผันผวนของตลาดสนับสนุนการเคลื่อนไหวระยะยาว
เทรดเดอร์มืออาชีพไม่ใช้แค่อัตราส่วนนี้เพียงอย่างเดียว แต่จะรวมเข้ากับองค์ประกอบอื่น ๆ ของการเทรดที่มีประสิทธิภาพ:
เทรดเดอร์ใช้ระดับแนวรับแนวต้าน รูปแบบแท่งเทียน Fibonacci retracements และตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อเลือกจุดเข้าและออกที่สนับสนุนการตั้งค่า risk reward ที่ได้เปรียบ
Risk Reward Ratio มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Expectancy ของกลยุทธ์ แม้จะมีอัตราชนะต่ำ แต่หากอัตราส่วน risk reward ดี ก็สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว
เทรดเดอร์มักไม่ปรับ stop‑loss หรือ take‑profit หลังจากเข้าเทรดแล้ว เว้นแต่สภาพตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ วินัยนี้ช่วยรักษาความถูกต้องของแผนการจัดการ risk reward
เทรดเดอร์มักทำผิดพลาดบางอย่างที่ทำให้อัตราส่วนนี้มีประสิทธิภาพลดลง:
การเพิกเฉยต่อโครงสร้างตลาด:
การตั้งเป้าหมายโดยพลการโดยไม่ใช้ระดับสำคัญ
การตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปสำหรับเป้าหมายที่ไม่สามารถบรรลุได้:
การไล่ตามอัตราส่วนที่สูงมาก เช่น 1:10 โดยไม่คำนึงถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่สมจริง
การละเลยความน่าจะเป็นและความผันผวน:
โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าสภาวะตลาดจะเอื้ออำนวยให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่

ตารางคำนวณที่มีโครงสร้างที่ดีจะช่วยให้คุณติดตาม คำนวณ และวิเคราะห์ผลตอบแทนและความเสี่ยงในการซื้อขายต่างๆ ได้
| คอลัมน์ | คำอธิบาย |
|---|---|
| วันที่ซื้อขาย | วันที่ทำการซื้อขาย |
| สินทรัพย์ | หลักทรัพย์หรือคู่หลักทรัพย์ที่ซื้อขาย |
| Entry Price | ราคาที่ทำการซื้อขาย |
| Stop‑Loss | ปรับระดับเพื่อจำกัดการสูญเสีย |
| Take‑Profit | ระดับเป้าหมายสำหรับกำไร |
| Risk | ความเสี่ยงที่คำนวณได้ต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง |
| Reward | ผลตอบแทนที่คำนวณได้ต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง |
| Risk Reward Ratio | ผลตอบแทน ÷ ความเสี่ยง |
| ผลลัพธ์ | ผลการแข่งขัน (ชนะหรือแพ้) |
| วันที่ซื้อขาย | สินทรัพย์ | รายการ | หยุด | เป้า | เสี่ยง | รางวัล | อัตราส่วน | ผลลัพธ์ |
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2025-10-01 | AAPL | 202 | 199 | 211 | 3 | 9 | 3 | Win |
| 2025‑10‑05 | EUR/USD | 1.0850 | 1.0800 | 1.0950 | 50 | 100 | 2 | Loss |
สเปรดชีตจะคำนวณค่าความเสี่ยงและผลตอบแทนโดยอัตโนมัติด้วยสูตร เช่น:
โครงสร้างนี้ช่วยให้คุณเห็นรูปแบบการเทรดของตัวเองและระบุได้ว่าการตั้งค่าแบบไหนสร้างผลลัพธ์ที่ได้เปรียบอย่างสม่ำเสมอ
การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) คือการทดสอบกฎ risk reward ของคุณกับราคาย้อนหลัง:
คำนวณค่าเฉลี่ยอัตราส่วนผลลัพธ์จากหลายการเทรด
เปรียบเทียบอัตราชนะกับอัตรา risk reward
แสดงผลลัพธ์ด้วยกราฟประสิทธิภาพเพื่อประเมิน drawdown และกำไรรวม
Risk Reward Ratio ที่ดีมักอยู่ที่อย่างน้อย 1:2 หมายความว่ากำไรที่คาดหวังมากกว่าการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นสองเท่า ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์มีกำไรแม้อัตราชนะปานกลาง
นำราคา Stop-loss ไปลบออกจากราคา Entry เพื่อหาค่าความเสี่ยง และนำราคา Entry ไปลบออกจากราคา Take-profit เพื่อหาค่าผลตอบแทน จากนั้นนำผลตอบแทนหารด้วยความเสี่ยงเพื่อหาอัตราส่วน
ใช่แล้ว การวางแผนการซื้อขายโดยอิงจากพารามิเตอร์ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ชัดเจน จะช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นและคัดกรองโอกาสที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ
ไม่เสมอไป อัตราส่วนที่สูงมากอาจไม่สมจริงในบางตลาดและลดโอกาสในการซื้อขายลง ควรพิจารณาความสมดุลระหว่างความน่าจะเป็นและบริบทของตลาดด้วย
Risk Reward Ratio คือตัวชี้วัดสำคัญสำหรับการเทรดและการตัดสินใจลงทุนอย่างมีวินัย เมื่อนำมารวมกับการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ การวางแผนทางเทคนิค และการจดบันทึกการเทรด มันจะกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้คุณประเมินโอกาสอย่างเป็นกลางและจัดการความเสี่ยงล่วงหน้า การใช้การวิเคราะห์ risk reward อย่างต่อเนื่องช่วยสนับสนุนผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งในระยะยาว และช่วยให้เทรดเดอร์มืออาชีพรักษากำไรได้อย่างยั่งยืน
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ