2025-09-16
16 ก.ย. 2025 - ราคาทองคำในวันจันทร์ปรับตัวแรงทะลุระดับสูงสุดเดิมที่ $3,674 ขึ้นไปแตะ $3,682 ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นกว่า 1% และยังมีโอกาสทดสอบระดับ $3,700 ในระยะสั้น ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) วันที่ 16–17 กันยายน ซึ่งถูกคาดการณ์สูงว่าจะมีการลดดอกเบี้ย
โดยการคาดการณ์ดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการปรับแก้ตัวเลขการจ้างงานเผยว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีการจ้างงานเกินจริงกว่า 911,000 ตำแหน่งในช่วงเมษายน 2024 ถึงมีนาคม 2025 สะท้อนภาวะอ่อนแอที่ชัดขึ้น ประกอบกับการส่งสัญญาณเปลี่ยนน้ำเสียงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในงาน Jackson Hole Symposium เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 25 จุดเบส แม้ยังมีเสียงส่วนน้อยที่เห็นความเป็นไปได้ของการลด 50 จุดเบส ขณะที่ Deutsche Bank คาดว่าเฟดจะทยอยลดดอกเบี้ย 25 จุดเบสในอีก 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเฟดฟันด์ลงมาอยู่ในช่วง 3.50%–3.75%
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ร่วง 0.33% สู่ระดับ 97.29 ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้น 3.5 จุดเบส สู่ 4.034% และอัตราผลตอบแทนแท้จริงขยับขึ้นเกือบ 4 จุดเบส แตะ 1.674%
ด้านเทคนิค ราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น แม้ RSI ชี้ว่าอยู่ในเขตซื้อมากเกินไป ทำให้มีความเสี่ยงของการย่อตัว หากราคาหลุดต่ำกว่า $3,674 จุดต่อไปจะอยู่ที่ $3,650 และ $3,613 ตามลำดับ แต่หากทะลุ $3,682 ได้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ $3,700
ราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ล่าสุดซื้อขายราว $63.20 ต่อบาร์เรลในช่วงการซื้อขายเอเช้าวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันรัสเซียที่อาจหยุดชะงัก หลังยูเครนเดินหน้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
เมื่อสัปดาห์ก่อน ยูเครนโจมตีท่าเรือน้ำมัน Primorsk ซึ่งเป็นศูนย์กลางการส่งออกที่สามารถจัดการได้ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงโจมตีหน่วยประมวลผลหลักที่โรงกลั่น Kirishi ของรัสเซียซึ่งมีกำลังการผลิตราว 355,000 บาร์เรลต่อวัน การโจมตีดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการยกระดับยุทธศาสตร์ของเคียฟเพื่อตัดกำลังการรบของมอสโก ท่ามกลางการเจรจาสันติภาพที่ยังไม่คืบหน้า
นักวิเคราะห์จาก IG ชี้ว่า ความกังวลต่ออุปทานรัสเซีย ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 10% ของการผลิตน้ำมันโลก เป็นตัวเร่งสำคัญให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรบริษัทในอินเดียและจีนที่เอื้อประโยชน์ต่อการค้าน้ำมันรัสเซีย ส่วนสหรัฐเองก็แสดงท่าทีจะไม่เก็บภาษีเพิ่มเติมต่อจีนเพื่อกดดันการซื้อน้ำมันรัสเซีย เว้นแต่ยุโรปจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
ในอีกด้าน ตลาดยังจับตาการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าจะลดดอกเบี้ย 25 จุดเบส และบางส่วนยังคาดถึง 50 จุดเบส ซึ่งหากเฟดลดดอกเบี้ยจริง จะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น
ราคาทองคำพุ่งทำสถิติใหม่ที่ $3,682 ต่อออนซ์ จากแรงหนุนความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16–17 กันยายน หลังตัวเลขตลาดแรงงานอ่อนแอและพาวเวลล์ส่งสัญญาณผ่อนคลายเพิ่มเติม ด้านเทคนิคทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน $3,700 แม้มีความเสี่ยงการย่อตัวระยะสั้น
ขณะเดียวกัน น้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเหนือ $63 ต่อบาร์เรล ติดต่อกันเป็นวันที่สาม ท่ามกลางความกังวลว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของรัสเซียโดยยูเครนอาจกระทบอุปทานโลก บวกกับแรงคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดที่จะช่วยหนุนความต้องการพลังงาน
โดยรวม ตลาดการเงินสะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากทิศทางนโยบายเฟด ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนด้านอุปทานพลังงาน ซึ่งยังเป็นปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางราคาสินทรัพย์ทั่วโลกในช่วงถัดไป
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ