2025-09-12
12 ก.ย. 2025 - ราคาทองคำโลก (XAU/USD) ยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบเมื่อวันพฤหัสบดี โดยปรับตัวลงราว 0.14% มาอยู่ที่ 3,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 3,649 ดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากแรงขายทำกำไร แม้ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐจะหนุนความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน เพิ่มขึ้นสู่ 263,000 ราย สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นตามคาด โดย CPI ทั่วไปขยับจาก 2.7% เป็น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ส่วน Core CPI คงที่ที่ 3.1% สอดคล้องกับการประเมินของตลาด
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายนนี้ โดยความน่าจะเป็นอยู่ที่ 90% ส่วนการลด 0.50% มีเพียง 10%
อย่างไรก็ตาม แม้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปี ร่วง 2.5 จุดเบสิส สู่ระดับ 4.019% แต่ทองคำยังไม่สามารถยืนบวกได้ สะท้อนแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง 0.22% สู่ดัชนี 97.59
ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ โดยเหตุการณ์โปแลนด์สกัดโดรนรัสเซียที่ล้ำเข้ามาในน่านฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการปะทะโดยตรงในเขตประเทศสมาชิกนาโต้หลังการรุกรานยูเครน
ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ 3,674 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร ก่อนจะเข้าสู่การพักฐานติดต่อกันเป็นวันที่สาม ดัชนี RSI เริ่มส่งสัญญาณภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งอาจจำกัดการปรับขึ้นในระยะสั้น หากราคาสามารถทะลุแนวต้าน 3,650 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสทดสอบแนวสูงสุดเดิมที่ 3,674 และไต่ขึ้นสู่ 3,700-3,800 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับแรกอยู่ที่ 3,600 ดอลลาร์ หากหลุดลงไป อาจถอยต่อถึง 3,550 และ 3,500 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี MSCI Asia Pacific พุ่งใกล้ระดับสูงสุดใหม่ หลังข้อมูลเงินเฟ้อและแรงงานสหรัฐตอกย้ำความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย นักวิเคราะห์ระบุว่า บรรยากาศการลงทุนในหุ้นเอเชียกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยแรงบวกที่แข็งแกร่ง โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และจีน ล้วนปิดบวก
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะผู้ผลิตชิปอย่าง SK Hynix, Samsung Electronics และ TSMC เป็นแรงหนุนหลัก ขณะที่ดัชนี Nasdaq 100 และ S&P 500 ในสหรัฐเพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่เช่นเดียวกัน
ดัชนี MSCI Asia Pacific ปรับขึ้นมากกว่า 20% ตั้งแต่ต้นปี และกำลังจะปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 ถือเป็นการกลับมาของแนวโน้มกระทิง Bull Market หลังจากช่วงก่อนหน้านี้ถูกกดดันจากตลาดหุ้นจีน
หุ้น Alibaba ที่ฮ่องกงดีดขึ้นกว่า 6% หลังจากหุ้นฝากในสหรัฐพุ่ง 8% จากความคาดหวังการลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI
หุ้น Microsoft และ Adobe ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายนอกเวลาตลาด หลังประกาศข้อตกลงและแนวโน้มรายได้ที่แข็งแกร่ง
ทองคำแม้พักฐาน แต่ยังทรงตัวเหนือระดับสูงสุดปรับตามเงินเฟ้อที่เคยทำไว้ในปี 1980 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวต่อเนื่องเป็นวันที่สองจากแนวโน้มตลาดโลกที่ชะลอ
บอนด์ยีลด์สหรัฐแม้ขยับเล็กน้อยในเอเชีย แต่ภาพรวมยังลดลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับการคาดการณ์นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ตลาดการเงินกำลังตีความว่าการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้นักลงทุนคาดการณ์การลดดอกเบี้ยมากกว่าหนึ่งครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยราคาในตลาดสว็อปบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการปรับลดดอกเบี้ยรวมราว 2-3 ครั้ง (0.25% ต่อครั้ง) ภายในสิ้นปี
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า แม้เงินเฟ้อจะยังเป็นประเด็นสำคัญ แต่แรงกดดันจากตลาดแรงงานที่อ่อนแอเป็นสัญญาณหลักที่ทำให้เฟดต้องเร่งผ่อนคลาย ซึ่งแปลว่า “การลดดอกเบี้ยครั้งนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรอบใหม่”
ราคาทองคำปิดที่ 3,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 0.14% จากแรงขายทำกำไร แม้ดอลลาร์อ่อนและยีลด์สหรัฐร่วง ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายน โดยมีโอกาสถึง 90% ส่วนการลด 0.50% มีโอกาสเพียง 10%
ด้านตลาดหุ้นเอเชีย MSCI Asia Pacific Index พุ่งใกล้ระดับสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี เพิ่มขึ้นกว่า 20% ตั้งแต่ต้นปี รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซ ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานสหรัฐที่อ่อนแรงยังเป็นแรงกดดันหลักต่อเฟด ซึ่งอาจเปิดทางให้เกิดรอบการผ่อนคลายต่อเนื่องจนสิ้นปี
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ