ญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวสเตเบิลคอยน์เยนครั้งแรก JPYC หนุนตลาดพันธบัตร ด้าน USD/JPY เยนแข็งค่ากดดอลลาร์ นักลงทุนจับตานโยบาย BoJ-Fed
17 ส.ค. 2025 - สำนักงานบริการการเงินญี่ปุ่น (FSA) เตรียมอนุมัติการออก สเตเบิลคอยน์ที่ตรึงค่าเงินเยน ภายในช่วงกันยายน-ตุลาคมปีนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเปิดทางให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่อิงกับค่าเงินท้องถิ่น
โดยมีบริษัทฟินเทค JPYC จากโตเกียวจะเป็นผู้ดำเนินการ โดยจะจดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการโอนเงินภายในเดือนนี้ ตัวเหรียญถูกออกแบบให้มีมูลค่า 1 JPY = 1 เยน หนุนหลังด้วยเงินฝากธนาคารและพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ผู้ใช้งานทั้งบุคคลและองค์กรสามารถยื่นคำสั่งซื้อและรับเหรียญผ่านการโอนเงินเข้ากระเป๋าดิจิทัล
โอกาเบะ ผู้แทนจากบริษัทผู้ออก JPYC ระบุว่า การเปิดตัวสเตเบิลคอยน์เยนสามารถสร้างแรงกระทบต่อตลาด พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGBs) โดยเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ ที่ผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ถือพันธบัตรรัฐบาลในปริมาณมากเพื่อหนุนหลังเหรียญ หาก JPYC ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ความต้องการซื้อ JGBs จะเพิ่มขึ้น และอาจช่วยพยุงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไม่ให้ปรับสูงเกินไป
เขาเตือนว่าประเทศที่ล่าช้าในการพัฒนาสเตเบิลคอยน์อาจเผชิญแรงกดดันด้านดอกเบี้ยพันธบัตร เพราะสูญเสียแหล่งอุปสงค์ใหม่จากนักลงทุนสถาบัน พร้อมย้ำว่าการสร้างกรอบกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ไม่ใช่เพียงเรื่องนวัตกรรมทางการเงิน แต่เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ นโยบายการเงินและความเสถียรของตลาดทุน
ค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยคู่เงิน USD/JPY อ่อนลงใกล้ 147.00 จากระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 147.87 ลดลงเกือบ 0.50% แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยและการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหลัก
เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นสนับสนุนการแข็งค่าของเยน โดย GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 0.3% QoQ สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.1% และโต 1.0% ในรูปแบบ Annualized เทียบกับที่คาด 0.4% การลงทุนภาคธุรกิจและการส่งออกเป็นแรงหนุนสำคัญ แม้การบริโภคภาคเอกชนยังอ่อนแรง ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อาจแสดงท่าทีเชิงรุกมากขึ้น
ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาในทิศทางผสม ยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.5% MoM ตามคาด แต่ชะลอจากเดือนมิถุนายนที่ 0.9% การผลิตอุตสาหกรรมหดตัว -0.1% ขัดกับที่คาดว่าจะขยายตัว ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกนเดือนสิงหาคมเบื้องต้นลดลงเหลือ 58.6 จาก 61.7
อย่างไรก็ดี แม้ตัวเลขสะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อยังไม่หมดไป โดยการคาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปีข้างหน้าพุ่งสู่ 4.9% และระยะ 5 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% สูงกว่ากรอบที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต้องการ แต่ความเสี่ยงด้านการชะลอตัวทางเศรษฐกิจก็กดดันดอลลาร์ ตลาดปรับลดความมั่นใจในการลดดอกเบี้ย โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุความน่าจะเป็นที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายน อยู่ที่ 92% จากก่อนหน้านี้ที่เคยอยู่ระดับเต็ม 100%
แนวรับ–แนวต้าน: แนวรับสำคัญอยู่ที่ 147.00 หากหลุดอาจเห็นการทดสอบ 146.30–146.00 ขณะที่แนวต้านยังคงอยู่ที่ 148.00
ปัจจัยจากนโยบายการเงิน: หาก BoJ ส่งสัญญาณเข้มงวดขึ้นหลังเงินเฟ้อในประเทศสูงกว่าคาด ค่าเงินเยนมีแนวโน้มแข็งต่อ ขณะที่ Fed แม้มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย แต่ถูกจำกัดด้วยแรงกดดันเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตา รายงานการประชุม FOMC, ดัชนี PMI สหรัฐ, และ CPI ญี่ปุ่น ความชัดเจนเรื่องการผ่อนคลายนโยบายจาก Fed และเงินเฟ้อญี่ปุ่นที่เกินคาด อาจเป็นตัวแปรหลักของทิศทางค่าเงิน
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงในวันจันทร์ก่อนการประชุมระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี โดยนักลงทุนยังจับตาการประชุมเชิงปฏิบัติการแจ็กสันโฮลของเฟดเพื่อหาเบาะแสด้านนโยบาย
2025-08-18ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง เงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง และความต้องการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์สำคัญใดที่จะกำหนดทิศทางตลาดในสัปดาห์นี้?
2025-08-18WTI ร่วงต่ำกว่า $62 เทรดเดอร์ผลหารือ ทรัมป์-เซเลนสกี และท่าที Fed ลดดอกเบี้ย วิเคราะห์ WIT ราคาน้ำมัน ทองคำ และค่าเงิน USD
2025-08-18