เปิดรายชื่อหุ้นต่างประเทศน่าสนใจ ช่วยกระจายความเสี่ยง เข้าถึงโอกาสทั่วโลก พร้อมเปิดข้อดี ข้อเสีย และภาษีที่นักลงทุนไทยต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุน
การลงทุนใน หุ้นต่างประเทศ เปิดการประตูสู่โอกาสและตลาดที่หลากหลายทั่วโลก เพราะแต่ละกลุ่มหุ้นจะมีศักยภาพและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การเข้าใจภาพรวมอุตสาหกรรมหลักจะช่วยให้นักลงทุนวางแผนและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จึงจะพาทุกท่านไปสรุปกลุ่มหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจ พร้อมข้อดีข้อเสียและไขคำตอบว่าลงทุนหุ้นต่างประเทศต้องเสียภาษีไหม?
การลงทุนในหุ้นต่างประเทศเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเติบโตสูงทั่วโลก โดบแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมก็มีจุดเด่นและแนวโน้มที่แตกต่างกันไปแล้วแต่เทรนด์ที่ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสในอนาคต ซึ่งมีกลุ่มหุ้นต่างประเทศสนใจดังนี้
เทคโนโลยีเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เพราะหุ้นในกลุ่มนี้มักมีการเติบโตที่โดดเด่นจากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ และความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ซอฟต์แวร์ คลาวด์ คอมพิวติ้ง และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
ตัวอย่างหุ้นน่าสนใจ : Apple (AAPL), Microsoft (MSFT), Alphabet (GOOGL), NVIDIA (NVDA)
ในปี 2025 ที่เทรนด์พลังงานสะอาดกำลังมาแรง ทำให้กลุ่มหุ้นพลังงานและวัสดุก่อสร้างกำลังเริ่มมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาพลังงานและวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น หุ้นในกลุ่มนี้มักได้รับอานิสงส์จากความต้องการพลังงานและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงไฟฟ้า เหมืองแร่ และบริษัทน้ำมันรายใหญ่
ตัวอย่างหุ้นน่าสนใจ : ExxonMobil (XOM), Chevron (CVX), BHP Group (BHP), Rio Tinto (RIO)
หุ้นกลุ่มสุขภาพและเทคโนโลยีชีวิภาพเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะในยุคที่ความก้าวหน้าทางการแพทย์และนวัตกรรมทางชีวภาพกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว หุ้นในกลุ่มนี้มีโอกาสเติบโตสูงจากการค้นพบและพัฒนายารักษาโรคใหม่ ๆ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย โดยเฉพาะวิกฤติโควิด-19 ที่ดันราคาหุ้นกลุ่มนี้สูงขึ้นมามาก
ตัวอย่างหุ้นน่าสนใจ : Johnson & Johnson (JNJ), Pfizer (PFE), Moderna (MRNA), Thermo Fisher Scientific (TMO)
กลุ่มหุ้นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ก็เป็นอีกกลุ่มที่นักลงทุนหลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มหุ้นซึ่งอยู่ในประเทศที่กำลังมีการเติบโตและศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง แม้ว่าจะมีความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงกว่าตลาดพัฒนาแล้ว แต่ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวและอาจพบนวัตกรรมเปลี่ยนโลกครั้งใหม่ก็เป็นได้
ตัวอย่างหุ้นน่าสนใจ : Alibaba (BABA), Taiwan Semiconductor (TSM), Vale (VALE), Tata Consultancy Services (TCS)
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดต่างประเทศก็มีความซับซ้อนและความเสี่ยงที่แตกต่างจากการลงทุนในประเทศ ดังนั้นการทำความเข้าใจภาพรวมในกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ รวมถึงข้อดีข้อเสียจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนทุกคนก่อนเริ่มต้นวางแผนลงทุน
ข้อดีของการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
กระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น : ลงทุนในตลาดและอุตสาหกรรมหลากหลายประเทศ ช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดประเทศเดียว
เข้าถึงธุรกิจชั้นนำระดับโลก : นักลงทุนสามารถลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นำตลาด เทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตสูง เช่น หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ หรือหุ้นสุขภาพยุโรป
โอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า : ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่มีโอกาสเติบโตสูงกว่าตลาดพัฒนาแล้ว ทำให้นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
สภาพคล่องและความโปร่งใสสูง : ตลาดหุ้นในประเทศใหญ่ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น มีระบบกำกับดูแลและสภาพคล่องที่ดี ทำให้สามารถซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็ว
ข้อเสียและความเสี่ยงของการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) : ความผันผวนของค่าเงินอาจทำให้ผลตอบแทนจริงของนักลงทุนเปลี่ยนแปลงตามค่าเงินระหว่างประเทศ
ค่าธรรมเนียมและภาษีสูงกว่า : การซื้อขายหุ้นต่างประเทศอาจมีค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์สูงขึ้น รวมถึงภาษีที่เกี่ยวข้องกับเงินปันผลหรือกำไรจากการขายหุ้นต่างประเทศ
ข้อมูลและกฎหมายซับซ้อนกว่า: นักลงทุนต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูล ข่าวสาร และกฎหมายของแต่ละประเทศซึ่งแตกต่างกัน อาจเป็นอุปสรรคสำหรับมือใหม่
ความล่าช้าในการซื้อขายและการถอนเงิน : บางตลาดอาจมีเวลาซื้อขายไม่ตรงกับเวลาทำการของนักลงทุน หรือขั้นตอนการโอนเงินและถอนเงินอาจใช้เวลานานกว่าปกติ
ก่อนอื่นต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ทางกรมสรรพากรได้ออกประกาศใหม่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้จากรายได้ที่เกิดจากการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงรายได้จากส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gain) เงินปันผล และดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ต่างประเทศ
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะโอนเงินกลับประเทศไทยในปีใดก็ตาม เงินได้เหล่านี้จะต้องถูกนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า สูงสุดไม่เกิน 35%
ลิสต์ “เงินได้” ที่ต้องนำมาเสียภาษี
กำไรจากการขายหุ้นต่างประเทศ (Capital Gain) : กำไรส่วนนี้จะต้องถูกนำมารวมเป็นเงินได้เพื่อคำนวณภาษี ตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่เรียกเก็บภาษี Capital Gain แต่หากนักลงทุนโอนเงินกลับไทย ต้องนำไปรวมเป็นเงินได้และเสียภาษีในอัตราก้าวหน้า (สูงสุด 35%)
เงินปันผลจากหุ้นต่างประเทศ (Dividend) : หากได้รับเงินปันผลจากหุ้นต่างประเทศ ต้องเสียภาษีทันทีที่ได้รับ ตามกฎหมายของประเทศที่ลงทุน และเมื่อนำเงินกลับไทย ต้องรวมเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีอีกครั้ง
ดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ต่างประเทศ : หากคุณลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศและได้รับดอกเบี้ย รายได้ส่วนนี้ก็ต้องเสียภาษีด้วย
อย่างไรก็ดี นักลงทุนไทยสามารถลดหย่อนภาษีหุ้นต่างประเทศด้วยการใช้เครดิตภาษีจากภาษีที่จ่ายในต่างประเทศมาหักลดกับภาษีที่ต้องจ่ายในไทยได้ โดยต้องตรวจสอบอนุสัญญาภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่ลงทุน การเทรดหุ้นต่างประเทศมีผลต่อการคำนวณภาษีทั้งจากกำไรขายหุ้นและเงินปันผล โดยต้องเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นภาษี และมีวิธีลดหย่อนภาษีผ่านเครดิตภาษีจากต่างประเทศได้
Q: เริ่มต้นเปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศต้องทำอย่างไร?
A: สามารถเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่รองรับการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ และฝากเงินตามขั้นตอน จากนั้นเลือกซื้อหุ้นผ่านแพลตฟอร์มที่โบรกเกอร์ให้บริการ
Q: หุ้นต่างประเทศเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน?
A: เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายพอร์ตไปยังตลาดที่หลากหลาย พร้อมรับความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
Q: ควรติดตามข่าวสารอะไรบ้างเมื่อลงทุนหุ้นต่างประเทศ?
A: ควรติดตามข่าวเศรษฐกิจโลก นโยบายการเงินในแต่ละประเทศ ผลประกอบการบริษัท และสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ
การลงทุนใน หุ้นต่างประเทศ เป็นโอกาสที่เปิดให้กับนักลงทุนได้กระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากตลาดที่หลากหลายทั่วโลก โดยมีหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี พลังงาน สุขภาพ และตลาดเกิดใหม่เป็นกลุ่มที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผู้ลงทุนไทยในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นต่างประเทศต้องระวังความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ภาษี และค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าในประเทศ ซึ่งนักลงทุนต้องเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ รวมถึงศึกษาข้อมูลของแต่ละตลาดเพื่อบริหารจัดการพอร์ตลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยที่ EBC Financial Group เรามีแพลตฟอร์มการลงทุนหุ้นต่างประเทศที่หลากหลายจากกลุ่มอุตสาหกรรมน่าสนใจ ทั้ง หุ้นรายตัว กองทุน ETF และดัชนีดังระดับโลก ที่มาพร้อมกับใบอนุญาตถูกต้องระดับสากล เช่น FCA, CIMA และ ASIC ที่มีฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทยให้บริการ 24/7 จนเป็นแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ทั่วโลกเลือกใช้ โดยหากคุณสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมสามารถคลิกอ่านข้อมูลได้ที่ลิงก์นี้
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เปิดข้อมูล Dow Theory คืออะไร แนวคิดวิเคราะห์กราฟตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เผยหลักการทำงาน อินดิเตอร์ที่เทรดเดอร์ชอบใช้ และเทคนิคเทรดในตลาด Forex
2025-08-11สำรวจ 10 สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดและค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญที่ผู้ซื้อขายต้องการเพื่อนำทางในตลาดฟอเร็กซ์อย่างมั่นใจและสร้างกำไร
2025-08-11ค้นพบว่ามีการซื้อขายกี่ประเภท ทั้งหุ้น ฟอเร็กซ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำความเข้าใจแต่ละประเภทเพื่อเลือกตลาดที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณ
2025-08-11