ทองขึ้นเพราะอะไร? เข้าใจ 3 เทคนิคเทรด XAUUSD ให้ได้กำไร

2025-08-08
สรุป

เจาะลึกปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำพุ่ง ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสัญญาณเทคนิค พร้อมเทคนิคเก็งกำไร XAUUSD ในจังหวะทองขึ้น

ราคาทองคำไม่เคยนิ่งอยู่กับที่ และหนึ่งในคำถามสำคัญที่นักลงทุนต้องรู้คำตอบคือ ทองขึ้นเพราะอะไร ปัจจัยที่ผลักดันราคาทองมีตั้งแต่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย ไปจนถึงวิกฤตการเมืองระหว่างประเทศ บทความนี้จะพาไปรู้จักกลไกเบื้องหลังการขึ้นของทอง พร้อมเทคนิคเก็งกำไรในจังหวะที่ตลาดทองพุ่งแรง


ทองขึ้นเพราะอะไร? เจาะลึกเบื้องหลังราคาทองผันผวน


ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าทองคำถูกมองว่าเป็น Safe-Haven Asset หรือสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนจะหันเข้าหาในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ดังนั้นเมื่อเกิดวิกฤตทางการเงิน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หรือมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession)


ทำให้นักลงทุนจะพากันเข้าซื้อทองคำในในตลาดโลกจนดันราคาทองคำ (Gold Spot) ตามหลักอุปสงค์และอุปทาน เนื่องจากทองคำเป็นแร่ที่มีปริมาณจำกัด แม้จะมีความพยายามในการขุดทองคำและรีไซเคิลก็ตาม แต่สุดท้ายปริมาณทองคำที่ขุดได้ใหม่ก็มีจำกัด และความต้องการทองคำก็ยังคงมีอยู่ ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและราคาสูง


ปัจจัยทางเทคนิคอลสามารถดันราคาทองขึ้นได้ไหม?


นอกจากปัจจัยพื้นฐานที่จะสามารถดันราคาทองขึ้นแล้วนั้น ยังมีสัญญาณทางเทคนิคเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนเหมือนกัน โดยเฉพาะกราฟทางเทคนิค ที่จะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองระยะสั้นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อราคาทะลุแนวต้านสำคัญ หรือเกิดแพทเทิร์นเชิงบวก เช่น Breakout หรือ Cup & Handle


โดยเทรดเดอร์สายเทคนิคมักจับตาระดับแนวรับ แนวต้าน และอินดิเคเตอร์อย่าง RSI, MACD, EMA เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อ เมื่อกราฟส่งสัญญาณขาขึ้นแบบชัดเจน ก็อาจเกิดแรงซื้อตาม (Follow Buy) จากกลุ่มนักลงทุนจำนวนมากในเวลาไล่เลี่ยกัน


สรุปปัจจัยหนุนราคาทองคำ


  • ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset)

  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง

  • อุปสงค์สูง แต่อุปทานจำกัด

  • แรงซื้อในตลาดโลก (Gold Spot Market)

  • สัญญาณทางเทคนิค (Technical Signals) - ราคาทะลุแนวต้านสำคัญ,เทรนด์ขาขึ้น


ทองขึ้นเพราะอะไร - EBC


เปิด 3 เทคนิคการทำกำไรจังหวะทองขึ้นด้วย XAUUSD


ต่อมาหลังจาก ราคาทองเริ่มขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ แล้วเหล่านักลงทุนที่หูตาไวจะเริ่มเล็งหาจังหวะทำกำไรในตอนนี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ตั้งแต่ซื้องแท่งมาเก็บไว้ หรือลงทุนใน ETF ทองแบบระยะยาว แต่สำหรับเทรดเดอร์ Forex นั้น จะพุ่งเป้าไปที่ XAUUSD เพื่อเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา ซึ่งจะมีเทคนิคหลัก ๆ ที่ใช้กันตามดังนี้


1. วิเคราะห์แนวโน้มด้วยกราฟเทคนิค


ก่อนจะเปิดออเดอร์ซื้อทอง ลองเช็กกราฟดูก่อนครับ ว่าราคากำลังขึ้นจริงไหม โดยดูจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ว่ากำลังชี้ขึ้น หรือใช้ RSI ดูว่าราคายังไม่ถึงจุดที่ซื้อมากเกินไป และ MACD ก็ช่วยบอกว่าราคาเริ่มมีแรงซื้อหรือเปล่า พวกนี้จะช่วยให้เรามั่นใจขึ้นว่าไม่เข้าออเดอร์ผิดจังหวะ



  • Moving Average (EMA/SMA)
    เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะช่วยให้เห็นแนวโน้มหลัก เช่น ถ้า EMA ระยะสั้น (เช่น 20 วัน) ตัดขึ้นเหนือ EMA ระยะยาว (เช่น 50 วัน) จะถือเป็นสัญญาณขาขึ้น (Golden Cross) ซึ่งบ่งบอกว่าราคากำลังเริ่มแรงขึ้น นักลงทุนจะมองหาโอกาสซื้อในจังหวะนี้


  • RSI (Relative Strength Index)
    RSI เป็นตัวชี้วัดว่าราคาอยู่ในโซนซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ถ้า RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่าราคาถูกขายมาก อาจเป็นจังหวะดีในการซื้อ แต่ถ้า RSI สูงกว่า 70 หมายถึงราคาซื้อเกินไปและอาจปรับตัวลง ช่วงที่ RSI เคลื่อนตัวจากโซน Oversold ขึ้นมา จะช่วยยืนยันแนวโน้มขาขึ้น



  • MACD (Moving Average Convergence Divergence)
    MACD จะบอกสัญญาณการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ได้ดี เมื่อเส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal เป็นสัญญาณเริ่มขาขึ้น นักลงทุนเทคนิคจะใช้เป็นจุดเข้าเทรด


2. รอจังหวะ “Breakout” แนวต้านสำคัญ


แนวต้านคือระดับราคาที่ราคาทองเคยขึ้นไปแต่ถูกขายทำกำไร ทำให้ราคายากจะผ่านจุดนั้นไปได้ แต่เมื่อแรงซื้อเข้มแข็งมากพอ ราคาทองจะทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ เรียกว่าการ “Breakout” ซึ่งมักตามมาด้วยแรงซื้อต่อเนื่องและราคาพุ่งขึ้นเร็ว


เทรดเดอร์จึงนิยมรอราคาทองทำ Breakout ที่แนวต้านสำคัญก่อนเข้าซื้อ เพราะเป็นการยืนยันว่าตลาดกำลังเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้นจริง การเข้าเทรดหลัง Breakout มักมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ต้องระวัง Fakeout (การหลอก Breakout) ซึ่งราคาหลอกให้ทะลุแนวต้านแล้วกลับตัวลงเร็ว


3. อย่าลืมใช้ Stop Loss - ตั้ง Take Profit ให้ชัดเจน


การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และเป้าหมายกำไร (Take Profit) อย่างชัดเจนช่วยบริหารความเสี่ยงและรักษากำไรได้ดี ควรวาง Stop Loss ในจุดที่แสดงว่าแนวโน้มเริ่มเปลี่ยน เพื่อจำกัดขาดทุนส่วนเกิน ส่วน Take Profit ควรกำหนดระดับราคาที่เหมาะสมตามแนวต้านหรือเป้าราคาที่คำนวณไว้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทำกำไรในช่วงราคาทองขึ้น ทั้งสองอย่างนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เทรดอย่างมีวินัยและไม่ปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวควบคุมการตัดสินใจ


ปัจจัยดันราคราคาทอง - EBC


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


Q: XAUUSD คืออะไร และแตกต่างจากทองคำจริงอย่างไร?

A: XAUUSD คือรหัสแทนราคาทองคำเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในตลาด Forex ซึ่งเป็นรูปแบบการเทรดทองคำผ่านตลาดเงิน ไม่มีทองคำจริงส่งมอบทันทีแต่เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะสั้น


Q:ทำไมราคาทองคำถึงผันผวนตลอดเวลา?

A: ราคาทองผันผวนเนื่องจากถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก พร้อมกับได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และนโยบายทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา


Q: ลงทุนทองคำมีความเสี่ยงอย่างไร?

A: แม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ก็มีความผันผวนของราคาในระยะสั้น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทองกายภาพ และจะไม่มีดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเหมือนสินทรัพย์ประเภทหุ้นหรือพันธบัตร


สรุป


ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนทั่วโลกมักหันมาถือครองในช่วงที่ตลาดเกิดความผันผวนสูง เช่น วิกฤตทางการเงิน หรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งทำให้เกิดแรงซื้อทองคำในตลาดโลกจนดันราคาทองขึ้นตามหลักอุปสงค์และอุปทาน


ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองสูงขึ้น คือ ความต้องการทองคำที่ยังคงมีอยู่มาก ในขณะที่ปริมาณทองคำที่ขุดขึ้นใหม่มีจำกัด อีกทั้งทองคำยังเป็นทรัพยากรที่หาได้ยากและมีปริมาณจำกัดในธรรมชาติ


นอกจากปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ สัญญาณทางเทคนิค เช่น การทะลุแนวต้านสำคัญ หรือเกิดแพทเทิร์นกราฟเชิงบวกอย่าง Breakout หรือ Cup & Handle ก็มีอิทธิพลสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะสั้น โดยเทรดเดอร์มักใช้เครื่องมืออย่าง RSI, MACD และ EMA เพื่อจับจังหวะเข้าซื้อ เมื่อกราฟส่งสัญญาณขาขึ้นชัดเจน มักจะเกิดแรงซื้อในตลาดตามมา


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

รู้จัก S&P 500 คืออะไร ดัชนีที่ครองใจนักลงทุนทั่วโลก

รู้จัก S&P 500 คืออะไร ดัชนีที่ครองใจนักลงทุนทั่วโลก

ดัชนี S&P 500 คือกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทชั้นนำสหรัฐฯ ที่สะท้อนเศรษฐกิจอเมริกา เจาะลึกโครงสร้างเกณฑ์คัดเลือก พร้อมแนะนำกองทุน ETF S&P 500

2025-08-08
เปิดลิสต์ 5 ดัชนีหุ้นทั่วโลกน่าสนใจ พร้อมเจาะลึกตลาดเกิดใหม่ที่ต้องจับตามอง

เปิดลิสต์ 5 ดัชนีหุ้นทั่วโลกน่าสนใจ พร้อมเจาะลึกตลาดเกิดใหม่ที่ต้องจับตามอง

ดัชนีหุ้นทั่วโลกคือเครื่องมือสำคัญที่สะท้อนภาพรวมราคาหุ้นจากหลากหลายประเทศ ช่วยบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ความเชื่อมั่นนักลงทุน และทิศทางตลาดทุนในแต่ละภูมิภาค

2025-08-08
ตลาดหลักทรัพย์คืออะไร และทำงานอย่างไร?

ตลาดหลักทรัพย์คืออะไร และทำงานอย่างไร?

เรียนรู้ว่าตลาดหลักทรัพย์ทำงานอย่างไรในฐานะตลาดที่มีการควบคุมสำหรับหลักทรัพย์ ส่งเสริมสภาพคล่อง ความโปร่งใส และราคาที่ยุติธรรม

2025-08-08