ลงทุนใน ETF ทองคำ ดีกว่าถือทองจริงอย่างไร?

2025-07-28

ในช่วงที่ตลาดไม่แน่นอน อัตราเงินเฟ้อสูง หรือความตึงเครียดทางโลก นักลงทุนมักมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในยุคการเงินดิจิทัลเช่นนี้ การถือทองคำจริงหรือเหรียญทองเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ทางเลือกเดียวอีกต่อไป


ETF ทองคำ (Gold ETF) หรือกองทุนรวมทองคำซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ คือวิธีสมัยใหม่ที่เข้าถึงทองคำได้ง่ายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาหรือความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่จะมีความแตกต่างอย่างไรเมื่อเทียบกับการถือทองจริง?


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ETF ทองคำ วิธีการทำงาน และวิเคราะห์ว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและชาญฉลาดกว่าการถือทองจริงหรือไม่


ETF ทองคำ (Gold ETF) คืออะไร?

ETF ทองคำ (Gold ETF) คืออะไร

ETF ทองคำ (Gold ETF) คือเครื่องมือทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาทองคำแบบใกล้ชิด เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในทองคำได้โดยไม่จำเป็นต้องถือทองคำจริง ตัวอย่าง ETF ทองคำที่ได้รับความนิยม เช่น SPDR Gold Shares (GLD) และ iShares Gold Trust (IAU) ซึ่งกองทุนเหล่านี้ถือทองคำจริงไว้ในตู้นิรภัย และออกหน่วยลงทุนให้ผู้ถือมีสิทธิเป็นเจ้าของทองคำในสัดส่วนที่เท่ากับหน่วยที่ถืออยู่


เมื่อคุณซื้อหน่วยลงทุนใน ETF ทองคำนั่นเท่ากับว่าคุณกำลังซื้อ “สิทธิความเป็นเจ้าของ” ในทองคำของกองทุนส่วนนั้น ซึ่งราคาหน่วยลงทุนจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลก แม้จะมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยที่เรียกว่า “Tracking Error”


ETF ทองคำซื้อขายได้เหมือนหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์ หมายความว่าคุณสามารถซื้อหรือขายได้ทุกเวลาที่ตลาดเปิด แม้จะไม่มีเงินปันผล (เนื่องจากทองคำไม่ก่อให้เกิดรายได้) แต่ก็มีสภาพคล่องสูง และไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บหรือดูแลทองคำทางกายภาพ


ทำไมนักลงทุนจึงเลือก ETF ทองคำ?


1) การเข้าถึงและสภาพคล่องสูง

ETF ทองคำสามารถซื้อขายได้ผ่านบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไปโดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ อีกทั้งไม่ต้องจัดเก็บทองคำจริง ไม่ต้องตรวจสอบความบริสุทธิ์ และไม่ต้องต่อรองราคาเหมือนทองคำจริง


2) ความสะดวกสบาย

ไม่ต้องมีตู้เซฟหรือห้องนิรภัย ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน หน่วยลงทุนของ ETF เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีขั้นตอนการจัดการสินทรัพย์จริงให้ยุ่งยาก


3) ประสิทธิภาพด้านต้นทุน

การถือทองคำจริงมักมีค่าพรีเมียม ค่าผลิต และภาษีขาย ขณะที่ ETF ทองคำมีเพียงค่าธรรมเนียมการบริหารรายปีต่ำ (ประมาณ 0.17% – 0.50%) ซึ่งมีผลกระทบต่อผลตอบแทนในระยะยาวเพียงเล็กน้อย และ ETF หลายตัวไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีสินค้าและบริการ (GST) เหมือนทองคำจริงในบางประเทศ


4) ความโปร่งใสและการกำกับดูแล

ETF ทองคำมีการตรวจสอบสินทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ และมักดำเนินการโดยสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน


5) เครื่องมือกระจายความเสี่ยง

การรวม ETF ทองคำไว้ในพอร์ตการลงทุนช่วยเพิ่มการกระจายความเสี่ยง และสามารถป้องกันความผันผวนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ หรือการอ่อนค่าของสกุลเงินได้ โดยมักให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นในช่วงวิกฤต


ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนใน ETF ทองคำ

ข้อดี ข้อเสีย
ซื้อขายได้ผ่านบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป ไม่มีทองคำจริงในครอบครอง จับต้องไม่ได้
มีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ในช่วงเวลาตลาดเปิด อาจมีค่าธรรมเนียมบริหาร หรือเกิดความคลาดเคลื่อนของราคาเมื่อเทียบกับราคาทองจริง
ไม่ต้องจัดเก็บ ทำประกันเหมือนทองจริง มีความเสี่ยงจากตลาดและความผันผวนเหมือนหุ้นทั่วไป
ราคาหน่วยลงทุนโปร่งใส อิงใกล้เคียงกับราคาทองคำจริง ไม่เหมาะในกรณีวิกฤตหนักที่อาจต้องใช้ทองคำจริง
เหมาะกับการลงทุนรายเดือนหรือลงทุนสม่ำเสมอ ไม่ก่อให้เกิดดอกเบี้ยหรือปันผล เช่นเดียวกับทองคำจริง


ทำไมนักลงทุนบางคนยังเลือกถือทองคำจริง? การป้องกันความเสี่ยงแบบดั้งเดิม

ทองคำแท่ง


1) การเป็นเจ้าของโดยตรงและจับต้องได้

ทองคำแท่งหรือเหรียญทองเป็นทรัพย์สินที่คุณถือครองได้จริง ไม่มีตัวกลาง ไม่ต้องพึ่งพาผู้ดูแล (Trustee) หรือผู้รับฝาก (Custodian) จึงไม่มีความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม


2) ไม่มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง

เมื่อซื้อทองคำจริงแล้ว จะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี แม้อาจมีค่าประกันภัยหรือค่าเก็บรักษา แต่ก็ไม่มีต้นทุนซ่อนเร้นเหมือนการถือครองแบบกองทุน


3) หลุดพ้นจากระบบในภาวะวิกฤต

หากระบบการเงินล่มสลายหรือธนาคารล้ม ทองคำจริงยังสามารถใช้แลกเปลี่ยนได้ทันที และสามารถเก็บไว้นอกระบบได้


4) มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและการสืบทอด

ทองคำแท้ยังมีคุณค่าทางสังคมและจิตใจ เช่น การเป็นมรดก หรือใช้ในพิธีสำคัญ และยังคงมูลค่าในรูปแบบที่จับต้องได้


ETF ทองคำ VS ทองคำจริง: อะไรปลอดภัยกว่ากัน?

ETF ทองคำ vs ทองคำแท่ง

ความเสี่ยงจากคู่สัญญา

ทองคำจริงไม่ต้องพึ่งพาสถาบัน กองทุน ETF ทองคำจำเป็นต้องอาศัยความเชื่อมั่นในผู้ให้บริการและการจัดการดูแลของผู้ดูแล ความเสี่ยงจากคู่สัญญานั้นต่ำสำหรับกองทุนที่มีชื่อเสียง แต่ก็ยังคงมีอยู่


การเปรียบเทียบสภาพคล่อง

กองทุน ETF ซื้อขายได้ทันทีตามราคาตลาด ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ในระหว่างเวลาทำการ การขายทองคำจริงอาจเกี่ยวข้องกับตัวแทนจำหน่าย ความล่าช้าในการตรวจสอบความถูกต้อง และการลดราคา อย่างไรก็ตาม ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ทองคำจริงสามารถหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อกองทุน ETF ได้


โครงสร้างต้นทุน

ค่าธรรมเนียมรายปีของ ETF อาจสะสมมากกว่าค่าพรีเมียมและค่าจัดเก็บทองคำในระยะยาว แต่สำหรับระยะสั้น ค่าพรีเมียมและค่าจัดเก็บทองคำจริงอาจสูงเกินไปและไม่คุ้มค่า


การจัดการภาษี

ในสหรัฐอเมริกา ETF และทองคำจริงมีการจัดเก็บภาษีใกล้เคียงกัน แต่มีโครงสร้างแตกต่างกัน ในขณะที่บางประเทศ เช่น อินเดีย ทองคำจริงอาจได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากการถือครองระยะยาว


เปรียบเทียบโดยสรุป: ควรเลือกแบบใด?

เกณฑ์ ETF ทองคำ ทองคำจริง
สภาพคล่อง สภาพคล่องสูงในช่วงเวลาทำการของตลาด อาจต้องมีการเจรจาเรื่องเวลา/การชำระเงินเพื่อขาย
การเก็บรักษา ตู้นิรภัย รักษาความปลอดภัยอย่างมืออาชีพ  ต้องดูแลเอง เสี่ยงสูญหายหรือถูกขโมย
ความเสี่ยงจากคู่สัญญา ต่ำแต่มีอยู่ (ผู้ดูแล, ผู้ดูแล) ไม่มี การเป็นเจ้าของโดยตรง
ค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมรายปี (0.17–0.50%) ค่าพรีเมียม ค่าเก็บรักษา ค่าประกันภัย
ประสิทธิภาพภาษี ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง ETF และประเทศ ในบางประเทศมีสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
การเข้าถึง ซื้อได้ผ่านโบรกเกอร์ หน่วยเล็กได้ ต้องซื้อเป็นเหรียญหรือแท่ง ต้องตรวจสอบคุณภาพ
บทบาทในพอร์ตยามวิกฤต อาจได้รับผลกระทบจากตลาด เป็นสินทรัพย์สำรองออฟไลน์อย่างแท้จริง


ใครเหมาะกับการลงทุนใน ETF ทองคำ?

  • ผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ดิจิทัล มีสภาพคล่องสูง

  • นักลงทุนที่เน้นต้นทุนต่ำ และต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี

  • ผู้ที่ไม่สะดวกในการจัดเก็บทองคำจริง

  • นักลงทุนที่ใช้แพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์เป็นหลัก


ใครเหมาะกับการถือทองคำจริง?

  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการถือครองทรัพย์สินโดยตรง

  • ผู้ที่มองทองคำเป็นของขวัญหรือมรดก

  • ผู้ที่อาศัยในประเทศที่ระบบธนาคารไม่มั่นคง

  • นักลงทุนที่เน้นการรักษาความมั่งคั่งระยะยาว โดยไม่กังวลเรื่องสภาพคล่อง


โดยรวมแล้ว ตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่านั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ หากคุณเน้นความคล่องตัว ความสะดวก และต้นทุนต่ำในระยะยาว ETF ทองคำคือคำตอบที่มีประสิทธิภาพ


หากคุณต้องการอิสระจากระบบการเงิน และการถือครองโดยตรง ทองคำจริง ยังคงเป็นทางเลือกที่เหนือกว่า


นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกใช้แนวทางผสม เช่น การถือ ETF 80% และทองคำจริง 20% เพื่อให้ได้ทั้งความคล่องตัวทางการเงิน และการป้องกันความเสี่ยงเชิงลึกในพอร์ตการลงทุนของตนเอง


แนวโน้มล่าสุด: ทำไม ETF ทองคำถึงโดดเด่นในปี 2025?

กองทุน ETF ทองคำ ปี 2025

  • ETF ทองคำมีเงินทุนไหลเข้าเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 เนื่องจากนักลงทุนต้องการป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทั้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะเมื่อความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐเพิ่มขึ้น

  • ตั้งแต่ปี 2016 ถึง 2025 ETF ที่อิงกับทองคำให้ผลตอบแทนดีกว่า ETF หุ้นในประมาณ 70% ของปี ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของทองคำในภาวะตลาดผันผวน

  • นักลงทุนจำนวนมากหันมาใช้ ETF มากขึ้นในช่วงปี 2024–2025 เนื่องจากความเสี่ยงจากฟิวเจอร์ส อัตราดอกเบี้ย และค่าเงินเพิ่มสูงขึ้น โดยให้ความสำคัญกับสภาพคล่องและความสะดวกมากกว่าความซับซ้อนของการถือครองทองคำจริง


แนวทางปฏิบัติ: วิธีลงทุนใน ETF ทองคำ


  1. เปิดบัญชีโบรกเกอร์ที่สามารถเข้าถึง ETF ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

  2. เลือก ETF ทองคำที่น่าเชื่อถือ เช่น SPDR Gold Shares (GLD) หรือ iShares Gold Trust (IAU) ซึ่งมีสภาพคล่องสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ

  3. ตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมการบริหาร (Expense Ratio) และการดูแลรักษาทองคำ โดยทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 0.18%–0.40% และควรมีการถือครองทองคำจริงอย่างปลอดภัย

  4. พิจารณาผลกระทบทางภาษีตามกฎหมายของแต่ละประเทศ บาง ETF อาจมีการออกแบบภาษีแบบ K-1 ซึ่งอาจจัดเป็นทรัพย์สินประเภทของสะสม

  5. ซื้อขายระหว่างเวลาตลาดเปิด โดยสามารถใช้คำสั่งแบบ Limit หรือ Market ก็ได้ ทั้งนี้ ETF ทองคำไม่มีการจ่ายเงินปันผล จึงควรใส่ใจส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ–ขาย (Bid-Ask Spread)

  6. ติดตามประสิทธิภาพของการติดตามราคาทองคำ และปรับพอร์ตทุกปี หรือเมื่อสัดส่วนการลงทุนเบี่ยงเบนจากเป้าหมาย


คำถามที่พบบ่อย


Q1. ETFทองคำคืออะไรและทำงานอย่างไร?


คำตอบ :

ETF ทองคำ (Gold ETF) คือกองทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามราคาทองคำ และซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้นทั่วไป ผู้ลงทุนจะถือครองหน่วยลงทุนที่มีมูลค่าอิงกับทองคำ โดยกองทุนอาจมีทองคำจริงเป็นสินทรัพย์หนุนหลัง หรือใช้สัญญาฟิวเจอร์ส โดยไม่จำเป็นต้องถือทองคำจริงด้วยตนเอง


Q2. จะลงทุนใน ETF ทองคำได้อย่างไร?


คำตอบ :

สามารถลงทุนผ่านบัญชีโบรกเกอร์ได้เหมือนการซื้อหุ้นทั่วไป เพียงค้นหาชื่อย่อของ ETF (เช่น GLD หรือ IAU) ระบุจำนวนหน่วยที่ต้องการซื้อแล้วส่งคำสั่งซื้อ ในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด และสามารถตั้งค่าการลงทุนรายเดือนได้หากต้องการถือยาว


Q3. ETF ทองคำจ่ายเงินปันผลหรือดอกเบี้ยหรือไม่?


คำตอบ :

ไม่จ่าย เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปแบบรายได้ (non-yielding asset) ผลตอบแทนของ ETF ทองคำมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ไม่ใช่จากเงินปันผลหรือดอกเบี้ย


สรุป


เมื่อพิจารณาเรื่องความปลอดภัย ทั้งทองคำจริงและ ETF ต่างมีความเสี่ยงในรูปแบบที่แตกต่างกัน ETF ทองคำมีข้อดีด้านความคล่องตัว ซื้อ–ขายง่าย และจัดเก็บไม่ยุ่งยาก แต่ก็มีความเสี่ยงเชิงสถาบันและค่าธรรมเนียม


ในขณะที่ทองคำจริงไม่มีความเสี่ยงจากสถาบันการเงิน แต่ต้องมีการจัดเก็บที่ปลอดภัยและมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า สำหรับนักลงทุนทั่วไป การผสมผสานทั้งสองรูปแบบอาจเป็นทางเลือกที่สมดุล โดยใช้ ETF สำหรับการลงทุนประจำ และถือทองคำจริงเป็นการกระจายความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เทรดทอง CFD ให้ปัง! เข้าใจง่าย กำไรได้จริง
พันธบัตรทองคำคืออะไร และคุณควรลงทุนหรือไม่? คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
คู่มือการลงทุนในทองคำและเงินระยะยาวเพื่อผลตอบแทนมั่นคง
ลงทุนเงินอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนดี 10 ไอเดียพิสูจน์แล้ว
6 เช็กลิสต์ต้องรู้ก่อนลงทุนตลาดทองต่างประเทศ