กลยุทธ์ Momentum Trading ที่เทรดเดอร์ควรรู้

2025-08-04
สรุป

สำรวจกลยุทธ์ Momentum Trading ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเบรกเอาต์ การย่อตัวของราคา รูปแบบปริมาณการซื้อขาย และข่าวที่เป็นปัจจัยกระตุ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์สายแอคทีฟ

ในโลกของตลาดการเงินที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แทบไม่มีแนวทางใดที่ยืดหยุ่นและได้รับความนิยมเทียบเท่า Momentum Trading กลยุทธ์นี้ไม่ได้เน้นการวิเคราะห์พื้นฐานหรือคาดการณ์ระยะยาว แต่เน้นที่ "ความแรง" และ "ความเร็ว" ของการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงขณะนั้น เหมาะกับเทรดเดอร์ที่คิดเร็วทำเร็วและตัดสินใจโดยอิงข้อมูลเป็นหลัก


หากคุณต้องการใช้ประโยชน์จากแรงส่งของราคา และทำกำไรจากความไม่สมดุลระยะสั้น การเรียนรู้เทคนิค Momentum จึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้านล่างนี้คือกลยุทธ์ Momentum Trading ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเทรดเดอร์มืออาชีพใช้เป็นประจำเพื่อสร้างความได้เปรียบในสภาวะตลาดที่ผันผวน


กลยุทธ์ตามแนวโน้มและการตัดกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

กลยุทธ์ Momentum Trading

หัวใจสำคัญของ Momentum Trading คือ "การต่อเนื่องของแนวโน้ม" หรือแนวคิดที่ว่า เมื่อราคามีแรงส่งไปในทิศทางใดอย่างชัดเจนแล้ว มักจะมีแนวโน้มเคลื่อนไปต่อในทิศทางนั้นในระยะสั้น โดยหนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้เพื่อระบุแนวโน้มเหล่านี้คือการตัดกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Crossover)


เทรดเดอร์มักใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) ในช่วงสั้น เช่น เส้น 9 และ 21 แท่ง เพื่อจับจังหวะเปลี่ยนแปลงของ Momentum หากเส้น EMA ที่เร็วตัดขึ้นเหนือเส้นที่ช้า จะเป็นสัญญาณของ Momentum ขาขึ้น และในทางกลับกัน การตัดลงบ่งชี้ Momentum ขาลง การตัดกันของเส้นเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์หาจุดเข้าเทรดได้เมื่อแนวโน้มแข็งแรง โดยเฉพาะเมื่อสอดคล้องกับบริบทของตลาดโดยรวมหรือกรอบเวลาใหญ่กว่า


สำหรับเทรดเดอร์รายวัน (Intraday) อาจใช้ระยะห่างระหว่างราคากับเส้น MA หรือความชันของ EMA เพื่อวัด "แรง" ของ Momentum อย่างไรก็ตาม เนื่องจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มีความล่าช้าโดยธรรมชาติ การกลับตัวอย่างรวดเร็วหรือสภาวะตลาดที่แกว่งตัวในกรอบแคบอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอก ดังนั้นควรใช้ร่วมกับเครื่องมือยืนยันอื่น ๆ


เทคนิคการเทรดแบบ Breakout


Breakout คือช่วงเวลาที่ราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ พร้อมแรงส่งที่ชัดเจน ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบ Momentum Trading ที่เป็นที่รู้จักที่สุดเพราะมักเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวที่รุนแรง


ตัวอย่างเทคนิคการเทรด Breakout ได้แก่:

  • Opening Range Breakout (ORB): ใช้ระดับราคาสูง-ต่ำในช่วง 15–30 นาทีแรกของวัน เพื่อเป็นแนวอ้างอิง

  • Flat-top/Flat-bottom Breakout: ราคาสะสมตัวใต้แนวต้านหรือเหนือแนวรับ บ่งชี้แรงกดดันที่รอการปลดปล่อย

  • Breakout พร้อมปริมาณการซื้อขายสูง (Volume Spike): แสดงถึงความสนใจของสถาบันหรือนักลงทุนรายใหญ่


เทรดเดอร์สาย Momentum มักมองหาสัญญาณยืนยันจากปริมาณการซื้อขาย เช่น มากกว่าค่าเฉลี่ย 1.5 เท่า หรือมี Relative Volume (RVOL) สูง เพราะ Breakout ที่ไม่มีปริมาณการซื้อขายมักเป็นสัญญาณหลอกหรือเกิดการรีบาวด์กลับทันที ผู้ที่เทรดเชิงรุกอาจเข้าเทรดก่อน Breakout (แบบคาดการณ์) ขณะที่บางคนรอให้แท่งเทียนปิดเหนือแนวต้านเพื่อยืนยันก่อนเข้าซื้อ


กลยุทธ์การเข้าเทรดด้วยการย่อตัว (Pullback&Retracement)


การเทรด Momentum ไม่ได้แปลว่าต้องไล่ราคาตลอดเวลา เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักรอจังหวะที่ราคาย่อตัวในแนวโน้ม เพื่อเข้าในจุดที่คุ้มค่าและควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น


เทคนิคยอดนิยมสำหรับการเข้า Pullback ได้แก่:

  • Fibonacci Retracement โดยเฉพาะระดับ 38.2% และ 50%

  • การย่อตัวมาที่เส้น EMA 9 หรือ 20 ในกราฟรายวันหรือกราฟรายนาที เหมาะกับเทรดเดอร์รายวันและ Scalper

  • Bull Flag/Bear Flag: ลักษณะการพักฐานระยะสั้นก่อนราคาจะวิ่งต่อไปในทิศทางเดิม


การเข้าเทรดด้วย Pullback จะช่วยให้นักเทรดกำหนดความเสี่ยงได้ชัดเจน โดยมักตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ใต้แนวพักตัวหรือจุดย้อนกลับ เทคนิคนี้ยิ่งมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ยืนยัน เช่น MACD หรือ RSI เพื่อดูว่า Momentum มีแนวโน้มจะกลับมาอีกหรือไม่


สัญญาณจาก Oscillator: RSI และ MACD

สัญญาณจาก Oscillator: RSI และ MACD

Oscillator เป็นเครื่องมือช่วยให้เทรดเดอร์วัดความแรงของ Momentum รวมถึงสภาพ "ซื้อมากเกินไป" (Overbought) หรือ "ขายมากเกินไป" (Oversold) และยังใช้ตรวจจับสัญญาณ Divergence ที่อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแนวโน้มได้


  • ดัชนี RSI: ค่า RSI ที่มากกว่า 70 บ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought ส่วนค่าต่ำกว่า 30 สะท้อนว่าอาจ Oversold อย่างไรก็ตาม ในแนวโน้มที่แข็งแกร่งค่า RSI อาจค้างอยู่ในช่วงที่สูงหรือต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งในกรอบของ Momentum Trading มักมองว่าเป็น “สัญญาณต่อเนื่อง” มากกว่าการกลับตัว

  • MACD (Moving Average Convergence Divergence): เมื่อลาก MACD ตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณเป็นสัญญาณ ของ Momentum ขาขึ้น เทรดเดอร์จำนวนมากใช้ MACD ควบคู่กับการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อยืนยันการเข้าเทรดแบบ Breakout หรือ Pullback


บางคนอาจใช้ RSI Divergence เช่น เมื่อราคาทำจุดสูงใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดสูงตามได้ เพื่อดูว่าราคาเริ่มอ่อนแรงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในบริบทของ Momentum Trading แบบเข้มข้น สัญญาณเหล่านี้มักเป็นเพียงเครื่องมือรองไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจเข้าเทรด


การยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายและรูปแบบ VWAP


ปริมาณการซื้อขายเป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์โมเมนตัมที่เชื่อถือได้มากที่สุด การเคลื่อนไหวของราคาที่ได้รับแรงหนุนจากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะคงตัวต่อไป


  • Relative Volume (RVOL) ใช้เปรียบเทียบปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลาปัจจุบันกับค่าเฉลี่ย โดยค่า RVOL มากกว่า 2.0 มักบ่งชี้ถึงการเข้าร่วมของนักลงทุนจำนวนมาก

  • VWAP (Volume-Weighted Average Price) เป็นเครื่องมือมาตรฐานที่นักลงทุนสถาบันใช้บ่อย ราคาที่อยู่เหนือ VWAP พร้อมปริมาณการซื้อขาที่เพิ่มขึ้นมักแปลว่า Momentum ขาขึ้นยังคงแข็งแรง


เทรดเดอร์รายวันหลายคนมักใช้จังหวะ “ย่อตัวกลับมาแตะ VWAP” เป็นโอกาสเข้าเทรด โดยเฉพาะเมื่อราคากลับทิศและขึ้นต่อ ซึ่ง VWAP ยังสามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการกลับตัว (Mean Reversion) ได้ในกรณีที่ราคาวิ่งห่างจาก VWAP อย่างผิดปกติ


การเทรดตามข่าวที่เป็นตัวเร่ง Momentum (News‑Driven Momentum Trades)

การเทรดตามข่าวที่เป็นตัวเร่ง Momentum(News‑Driven Momentum Trades)

Momentum มักได้รับแรงผลักดันจาก "ตัวเร่ง" หรือ Catalyst ซึ่งข่าวสารสำคัญถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทรงพลังที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรายงานผลประกอบการการอนุมัติของ FDA หรือเหตุการณ์เศรษฐกิจไม่คาดฝัน เหล่านี้สามารถทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วได้


ตัวอย่างเช่น:

  • บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ได้รับการรับรองจาก FDA สามารถกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวได้หลายวัน

  • การปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบกะทันหันสามารถส่งผลให้ ETF ทางการเงินพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้นได้

  • แม้แต่การพูดคุยทางโซเชียลมีเดียหรือข่าวสารที่ขับเคลื่อนโดยผู้มีอิทธิพลก็สามารถผลักดันให้หุ้นที่มีการซื้อขายเบาบางเข้าสู่กระแสตอบรับที่มากเกินไปได้


เทรดเดอร์สาย Momentum มักใช้ News Scanner และ Feed ข่าวแบบเรียลไทม์ เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดทันสถานการณ์ แต่การจัดการความเร็วและความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากข่าวสามารถพลิกสถานการณ์ได้ทันที โดยเฉพาะหากตลาดโดยรวมไม่ตอบสนองตามหรือข่าวนั้นมีเนื้อหาที่คาดเดาเกินจริง


สรุป


Momentum Trading ไม่ใช่การ "ไล่ราคาสูงแบบไม่ลืมหูลืมตา" แต่คือการรู้จักสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ใช้เครื่องมือที่พิสูจน์แล้ว และมีวินัยในการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าที่จุด Breakout การรอจังหวะ Pullback หรือการเทรดตามข่าว ตัวแปรที่สำคัญคือการยืนยัน Momentum การวัดแรงหนุนจากตลาด และการตัดสินใจที่ชัดเจน


แม้หลักการอาจดูเรียบง่าย แต่การใช้งานจริงมีความซับซ้อน เทรดเดอร์ต้องมีความยืดหยุ่น เข้าใจบริบท และพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่องตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป เมื่อฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง Momentum Trading จะไม่ใช่แค่ “กลยุทธ์” แต่กลายเป็น “กรอบความคิด” ที่ยึดโยงกับความเร็วความมีแบบแผนและความได้เปรียบที่ยั่งยืน


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

ตัดเสียงรบกวนด้วยกลยุทธ์การเทรด Forex ที่พิสูจน์แล้ว ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค อินดิเคเตอร์ที่สำคัญ รวมถึงการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของ EBC คลาสเรียนออนไลน์ และสัญญาณเตือนเทรดที่แม่นยำ

2025-08-07
รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

เปิดข้อมูลแนวรับ แนวต้าน คืออะไร เจาะลึกหัวใจของการวิเคราะห์กราฟ พร้อมกลยุทธ์ใช้เทรดจริงที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ย ด้วยเทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดทุกตลาด

2025-08-07
ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ติดตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI แบบเรียลไทม์ พร้อมปัจจัยขับเคลื่อนตลาด การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ และความเคลื่อนไหววันนี้มีความหมายอย่างไรต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโลก

2025-08-07