ทำความเข้าใจฟอเร็กซ์ คืออะไร พร้อมวิธีเริ่มต้นเทรด Forex แบบปลอดภัย รู้ทันเวลาเปิดปิด ข้อกฎหมาย และภาษีที่เกี่ยวข้องในไทย
หากกล่าวถึงหนึ่งในตลาดที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดในโลกนั้น ชื่อ ตลาดฟอเร็กซ์ หรือ Forex ย่อมขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ ในใจหลายคนแน่นอน เพราะตลาดฟอเร็กซ์นี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน
วันนี้ (22 ก.ค.) EBC Financial Group โบรกเกอร์จากเมืองผู้ดีจะพาเทรดเดอร์หน้าใหม่ไปเปิดข้อมูลว่า ฟอเร็กซ์ คืออะไร วิธีเทรด Forex เวลาทำการตลาดฟอเร็กซ์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย และประเด็นภาษีที่นักลงทุนควรทราบแบบครบจบในที่เดียว
ฟอเร็กซ์ (Forex) คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีการซื้อขายสกุลเงินต่าง ๆ กันแบบคู่ เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อการค้า การลงทุน หรือเก็งกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยลักษณะเด่นขคือเป็นตลาดที่ไม่มีศูนย์กลาง (Decentralized Market) ทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ทั่วโลก ไม่จำกัดเพียงแค่ตลาดหลักทรัพย์แห่งใดแห่งหนึ่ง ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ถึงศุกร์
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังซื้อสกุลเงินหนึ่ง และขายอีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน โดยเปิดออร์เดอร์ Buy ในคู่ EUR/USD นั่นแปลว่าเรากำลังซื้อยูโรโดยใช้ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าของสกุลเงินคู่นี้ก็จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง และอารมณ์ของตลาด ทำให้สุดท้ายเราอาจได้ในราคาที่ต้องการหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่ว่ามีความผันผวนมากแค่ไหน
1. เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ : แพลตฟอร์มหรือโบรกเกอร์ที่ได้มาตรฐานควรมีใบอนุญาตที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินระดับสากล ประวัติโปร่งใส ระบบการฝากถอนปลอดภัย และรองรับช่องทางธนาคารที่สะดวกต่อผู้ใช้งาน อีกทั้งแพลตฟอร์มเทรดควรมีความเสถียร ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วน รวมถึงควรตรวจสอบโครงสร้างค่าธรรมเนียมให้ชัดเจน เช่น สเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชันไม่แฝง และอัตรา Swap ที่สมเหตุสมผล
2. ทดลองเทรดด้วยบัญชีเดโม : บัญชีเดโม (Demo Account) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์ เข้าใจพฤติกรรมของตลาด และทดสอบกลยุทธ์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจริง เป็นขั้นตอนที่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม
3. เปิดบัญชีจริง : หลังเราทดลองเทรดในบัญชีเดโม ทดสอบระบบเรียบร้อย ให้เราตรวจเช็กความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มหรือโบรกเกอร์ที่เราตั้งใจจะใช้บริการอีกครั้งว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ หากพิจารณาแล้วรู้สึกปลอดภัยหรือไว้วางใจได้ นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีเพื่อเทรดจริงตามเงื่อนไขที่โบรกเกอร์เจ้านั้น ๆ กำหนดไว้ได้เลย
4. วางแผนและกลยุทธ์การเทรด : ต่อมาให้เราลองเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนน้อยก่อน และค่อยเริ่มฝึกการบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย ใช้ Stop Loss และ Take Profit เพื่อควบคุมความเสี่ยงทุกครั้งในการออกออเดอร์ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคอลร่วมกันเพื่อช่วยให้ตัดสินใจแม่นยำยิ่งขึ้น
ตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ถึงศุกร์ โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงเวลาตามศูนย์กลางการเงินหลักของโลก ได้แก่
ซิดนีย์: เปิด 04:00 - 13:00 น. (เวลาไทย)
โตเกียว: เปิด 06:00 - 15:00 น. (เวลาไทย)
ลอนดอน: เปิด 14:00 - 23:00 น. (เวลาไทย)
นิวยอร์ก: เปิด 19:00 - 04:00 น. (เวลาไทย)
ทั้งนี้ช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กที่จะเปิดพร้อมกัน (19:00 - 23:00 น.) เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายสูงและมีข่าวเศรษฐกิจสำคัญออกบ่อย
ส่วนข้อสงสัยที่หลายคนอาจยังคาใจอยู่ว่า “สามารถเทรดฟอเร็กซ์ในไทยได้ไหม” นั้น คำตอบคือ ทำได้ เพราะการเทรด Forex คือการที่นักลงทุนใช้บริการกับโบรกเกอร์ต่างประเทศโดยตรง มีการโอนเงินเข้าออกผ่านบัญชีเปรียบได้กับการฝากเงินลงทุนไว้ในแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อใช้ในตลาดเทรดตามปกติ สามารถทำกำไรได้เหมือนการลงทุนทั่วไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งในแง่ของสิทธิผู้บริโภคหรือสภาพการเงิน ฯลฯ นักลงทุนไทยที่ใช้บริการกับโบรกเกอร์ต่างประเทศจะไม่ได้รับการคุ้มครองหรือความรับผิดชอบจากภาครัฐแต่อย่างใด ดังนั้นนักลงทุนจะต้องศึกษาให้รอบคอบถึงกฎระเบียบและความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ที่ต้องการใช้บริการอย่างรอบทุกครั้ง
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่ากำไรที่ได้จากการซื้อขายในตลาด Forex ถูกจัดเป็น "เงินได้" ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 40(4) ว่าด้วยเงินได้จากดอกเบี้ยเงินปันผลเงินลดทุน หรือเงินส่วนแบ่งกำไร ทำให้นักลงทุนจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90) ภายในเดือนมกราคม ถึง เดือนมีนาคมของปีถัดไป เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ซึ่งจะมีเพดานรายได้ของอัตราภาษีที่จะต้องเสียอีกทีหนึ่ง
ดังนั้นหากคุณเป็นนักลงทุนที่มีรายได้จาก Forex และพักอาศัยในประเทศไทยเกิน 180 วันต่อปี รายได้ดังกล่าวจะต้องถูกนำมาคำนวณภาษีไม่ว่ากำไรจะมาจากภายในหรือนอกประเทศ จากนั้นเอายอดภาษีตรงนี้ไปเทียบว่าเราต้องเสียภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้าหรือไม่ต่อไป โดยมีข้อมูลเพดานรายได้และอัตราภาษีที่ต้องเสีย พร้อมตัวอย่างการคำนวณภาษีดังนี้
ข้อมูลเพดานรายได้ต่อปีและอัตราภาษีที่ต้องเสีย
รายได้ 0 - 150,000 บาท : ยกเว้น
รายได้ 150,001 - 300,000 บาท : 5%
รายได้ 300,001 - 500,000 บาท : 10%
รายได้ 500,001 - 750,000 บาท : 15%
รายได้ 750,001 - 1,000,000 บาท : 20%
รายได้ 1,000,001-2,000,000 บาท : 25%
รายได้ 2,000,001-5,000,000 บาท : 30%
รายได้ 5,000,001 บาทขึ้นไป : 35%
ตัวอย่างการคำนวณภาษี : หากคุณมีกำไรจากการเทรด Forex เป็นจำนวน 500,000 บาทต่อปี คุณต้องเสียภาษี 5% สำหรับรายได้ส่วนที่เกิน 150,000 บาท จนถึง 300,000 บาทและ 10% สำหรับส่วนที่เกิน 300,000 บาท จนถึง 500,000 บาท
ขณะที่การเทรดทองนั้น ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันกับ Forex เพราะถ้าการเทรดทองของคุณได้กำไรและเข้าข่ายเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 จะต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ที่กำหนดามอัตราภาษีก้าวหน้าตามข้างต้นเช่นกัน
ตลาดฟอเร็กซ์คือระบบซื้อขายสกุลเงินระดับโลกที่ไม่มีศูนย์กลาง มีการเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ถึงศุกร์ ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ฝึกฝนผ่านบัญชีเดโม และเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ และในประเทศไทย แม้การเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างชาติยังไม่ถูกกฎหมายเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถทำได้ภายใต้ความเข้าใจในความเสี่ยง
ส่วนเรื่องรายได้จากการเทรดนั้น ก็จำเป็นต้องเสียภาษี เพราะหากมีการนำเงิน (จากการเทรด) กลับเข้าประเทศ เงินดังกล่าวจะถูกจัดเป็นเงินได้ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 40(4) นั่นเอง
Q: ฟอเร็กซ์เหมาะกับมือใหม่ไหม?
A: หากมีการศึกษาข้อมูลและฝึกฝนในบัญชีเดโมก่อน ฟอเร็กซ์สามารถเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่มีโอกาสสูงสำหรับมือใหม่ได้
Q: ใช้เงินเทรดขั้นต่ำเท่าไร?
A: ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ บางแห่งเปิดให้เทรดเริ่มต้นเพียง 10 ดอลลาร์ (ประมาณ 300 บาท)
Q: สามารถเทรดผ่านมือถือได้ไหม?
A: ได้ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้แอป MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 ซึ่งรองรับทั้ง iOS และ Android
Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ไหนปลอดภัย?
A: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น FCA, ASIC, CySEC และมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในเชิงบวก
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้รูปแบบการกลับตัวที่มีความน่าจะเป็นสูง 5 ประการที่เทรดเดอร์ทุกคนควรเชี่ยวชาญ ได้แก่ โครงสร้าง จังหวะเวลา การกระตุ้นการเข้า และเคล็ดลับการจัดการความเสี่ยง
2025-07-23ค้นพบสัญญาณซื้อและขายของตัวบ่งชี้ RSI ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อกำหนดเวลาการซื้อขายของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ เรียนรู้วิธีที่เทรดเดอร์ใช้ระดับ RSI เพื่อจับโมเมนตัมของตลาด
2025-07-23เจาะลึกกองทุน UNG ETF: กลยุทธ์การเทรด ความเสี่ยงจากโครงสร้างราคา และปัจจัยกระตุ้นที่นักลงทุนก๊าซธรรมชาติระยะสั้นต้องจับตาในภาวะตลาดผันผวน
2025-07-23