4 ข้อผิดพลาดต้องเลี่ยงใน Divergence Trading

Divergence Trading คือกลยุทธ์การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของราคากับการเคลื่อนไหวของอินดิเคเตอร์ ซึ่งมักจะเป็นดัชนี RSI หรือ Moving Average Convergence Divergence (MACD) เมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับอินดิเคเตอร์ จะเรียกว่า Divergence

เทรดเดอร์หลายรายใช้การเทรดแบบ Divergence เพื่อมองหาจุดกลับตัวหรือการคงตัวของแนวโน้ม อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยมากกว่าแค่การมองหาการเคลื่อนไหวที่ไม่ตรงกันระหว่างราคาและอินดิเคเตอร์ หากขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง การเทรดแบบ Divergence อาจส่งผลให้เกิดสัญญาณหลอกและการเข้าเทรดที่ผิดพลาด

หากคุณต้องการพัฒนาทักษะวิเคราะห์ทางเทคนิค การเรียนรู้สิ่งที่ไม่ควรทำก็สำคัญไม่แพ้กับการเรียนรู้สิ่งที่ควรทำ ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดสำคัญ 4 ประการที่ควรหลีกเลี่ยงในการเทรดแบบ Divergence

ข้อผิดพลาดที่ 1: ละเลยบริบทของตลาด

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดใน Divergence Trading คือการใช้งานโดยแยกจากบริบทของตลาดโดยรวม Divergence สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสภาพตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดเทรนด์ขาขึ้น ขาลง หรือในช่วงที่ผันผวนสูง แต่ความน่าเชื่อถือของสัญญาณจะแตกต่างกันไปตามบริบท

ตัวอย่างเช่น Divergence แบบ Bullish ในช่วงเทรนด์ขาลงที่แข็งแกร่ง อาจไม่ใช่สัญญาณกลับตัวที่แท้จริง แต่อาจเป็นเพียงช่วงพักตัวสั้น ๆ ก่อนที่เทรนด์จะดำเนินต่อไป ในทำนองเดียวกัน Divergence แบบ Bearish ในช่วงเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่ง อาจทำให้เกิดการดีดตัวกลับแค่ระยะสั้น ๆ

นักเทรดที่มุ่งเน้นแต่สัญญาณ Divergence โดยไม่ตรวจสอบระดับแนวรับแนวต้าน ความแข็งแรงของเทรนด์หรือข้อมูลปริมาณการซื้อขาย อาจเสี่ยงต่อการเข้าเทรดสวนกับแรงขับเคลื่อนหลักของตลาด เพื่อหลีกเลี่ยง ควรใช้ Divergence ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น เส้นแนวโน้ม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือรูปแบบกราฟ เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของสัญญาณ

ข้อผิดพลาดที่ 2: อ่านสัญญาณอินดิเคเตอร์ผิดพลาด

หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการอ่าน Divergence ที่ถูกต้อง การเห็นราคาขยับในทิศทางหนึ่ง ขณะที่อินดิเคเตอร์เคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้ามอย่างเดียวไม่เพียงพอ ระยะเวลา ประเภท และโครงสร้างของ Divergence มีความสำคัญ

มี Divergence หลัก ๆ อยู่ 2 ประเภท คือ Divergence ปกติ (Regular) และ Divergence ซ่อนเร้น (Hidden) โดย Divergence ปกติสามารถบ่งบอกถึงโอกาสกลับตัวของเทรนด์ ขณะที่ Divergence ซ่อนเร้นมักเป็นสัญญาณว่าราคาจะเดินเทรนด์ต่อไป การสับสนระหว่างสองประเภทนี้ อาจนำไปสู่การเข้าออกเทรดที่ผิดพลาด

ตัวอย่างเช่น การพบ Divergence Bullish แบบปกติ ที่ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ต่ำลง แต่อินดิเคเตอร์ทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น อาจดูเหมือนสัญญาณซื้อที่ดี แต่ถ้าในความเป็นจริงเป็น Divergence ซ่อนเร้นในช่วงเทรนด์ขาลง นั่นอาจเป็นสัญญาณของการเดินเทรนด์ต่อ

การระบุ Divergence อย่างแม่นยำต้องอาศัยการฝึกฝนและการวิเคราะห์ภาพอย่างละเอียด ควรเปรียบเทียบจุดสูงสุดและต่ำสุดที่ถูกต้องทั้งบนกราฟราคาและตัวชี้วัดเพื่อให้มั่นใจว่าสัญญาณนั้นถูกต้อง

ข้อผิดพลาดที่ 3: เข้าเทรดโดยไม่มีการยืนยัน

อีกหนึ่งข้อผิดพลาดใหญ่ใน Divergence Trading คือการเข้าเทรดทันทีที่เห็นสัญญาณ แม้ Divergence จะเป็นสัญญาณบอกถึงโอกาสกลับตัว แต่ตัวมันเองไม่ใช่สัญญาณซื้อขายที่สมบูรณ์ หลายครั้ง Divergence ไม่เกิดขึ้นตามที่คาด ทำให้เกิดการเข้าเทรดก่อนเวลาและขาดทุนโดยไม่จำเป็น

การยืนยันสัญญาณสามารถทำได้จากรูปแบบแท่งเทียน เช่น แท่งค้อน (Hammer) หรือแท่ง Engulfing, การทะลุเส้นแนวโน้ม หรือสัญญาณ Crossover ของอินดิเคเตอร์เองการรอยืนยันเพิ่มเติมช่วยกรองสัญญาณที่อ่อนแอและเพิ่มคุณภาพของการเข้าเทรดโดยรวม

การเทรดแบบ Divergence ให้ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา การเข้าเร็วเกินไปอาจทำให้ติดอยู่ในเทรนด์เดิมที่ยังดำเนินต่อไป การรอยืนยันอาจทำให้พลาดกำไรเล็กน้อย แต่จะเพิ่มโอกาสในการเทรดที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ข้อผิดพลาดที่ 4: มองข้ามการจัดการความเสี่ยง

ไม่มีวิธีเทรดใดที่ได้ผล 100% และ Divergence Trading ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แม้ว่าทุกสถานการณ์ดูเหมือนจะสอดคล้องกัน แต่เหตุการณ์ข่าวที่ไม่คาดคิดก็สามารถทำลายสัญญาณได้

บางคนผิดพลาดโดยการเปิดพอร์ตขนาดใหญ่เพราะมั่นใจเกินไปในสัญญาณ ขณะที่บางคนไม่ตั้งจุด Stop-Loss หรือไม่ปรับระดับความเสี่ยงตามความผันผวน ความผิดพลาดเหล่านี้อาจทำให้การผิดพลาดเล็กน้อยกลายเป็นการขาดทุนใหญ่

การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมรวมถึงการกำหนดขนาดพอร์ตอย่างเหมาะสม ใช้คำสั่ง Stop-Loss และไม่เสี่ยงเกินสัดส่วนเล็กน้อยของทุนในแต่ละเทรด ควรใช้ Trailing Stop เพื่อปกป้องกำไรเมื่อราคาขยับไปในทิศทางที่เป็นบวก

ถ้าคุณต้องการให้ Divergence Trading เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ยั่งยืน การควบคุมความเสี่ยงอย่างมีวินัยจึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้อย่างยิ่ง

สรุป

Divergence Trading ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวิเคราะห์ทางเทคนิค หากใช้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนทิศทางของราคาและแรงโมเมนตัมของตลาด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการจับจังหวะการเข้าและออกจากตลาดอย่างแม่นยำ แต่เช่นเดียวกับเครื่องมืออื่น ๆ ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งาน

ด้วยการเข้าใจความหมายของการเทรดแบบ Divergence และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการหลีกเลี่ยง 4 ข้อผิดพลาดหลัก ได้แก่ การมองข้ามบริบทของตลาด การอ่านสัญญาณผิดพลาด การเข้าเทรดโดยไม่รอยืนยัน และการละเลยการบริหารความเสี่ยง คุณจะสามารถยกระดับผลลัพธ์ในการเทรดได้อย่างชัดเจน

แม้จะไม่มีกลยุทธ์ใดที่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ในทุกสถานการณ์ แต่การเทรดแบบ Divergence ที่มาจากความรู้ ความเข้าใจ และมีวินัยในการวางแผน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ