简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

คู่มือเรียนเทรดสำหรับมือใหม่ เรียนรู้ไว เทรดอย่างมือโปร

เผยแพร่เมื่อ: 2025-07-10    อัปเดตเมื่อ: 2025-07-11

การก้าวเข้าสู่โลกของการเทรด อาจรู้สึกเหมือนกำลังเข้าร่วมสนามแข่งขันที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยความเสี่ยง ซึ่งโอกาสและความเสี่ยงเดินเคียงข้างกัน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น ข้อมูลและกลยุทธ์มากมายอาจทำให้รู้สึกสับสน อย่างไรก็ตาม ด้วยโครงสร้างและแนวคิดที่ถูกต้อง การเรียนเทรดไม่จำเป็นต้องวุ่นวาย ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเข้าใจหลักการสำคัญ จับจุดโฟกัสให้ชัดเจน และค่อย ๆ พัฒนาทักษะเพื่อการตัดสินใจอย่างมั่นใจและมีข้อมูลประกอบในตลาด


เรียนรู้พื้นฐานตลาดการเงิน

ผู้ชายกำลังดูราคาเรียลไทม์ ก่อนจะเปิดบัญชีเทรดหรือแม้แต่ดูกราฟราคา สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า ตลาดการเงินทำงานอย่างไร พื้นฐานเหล่านี้อาจดูธรรมดา แต่เป็นรากฐานของความรู้สำหรับเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทุกคน


เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ประเภทของตลาดที่สามารถเทรดได้ เช่น:

  • หุ้น – หุ้นในบริษัทมหาชน

  • Forex – คู่สกุลเงิน เช่น GBP/USD

  • ดัชนี – กลุ่มหุ้น เช่น FTSE 100

  • สินค้าโภคภัณฑ์ – ทองคำน้ำมันก๊าซธรรมชาติ

  • สกุลเงินดิจิทัล – Bitcoin Ethereum และอื่น ๆ


ทำความคุ้นเคยกับแนวคิดสำคัญในการเทรด เช่น:

  • ราคาซื้อ/ขาย (Bid/Ask) – ราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายยอมรับได้

  • สเปรด (Spread) – ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและขาย ซึ่งมักเป็นกำไรของโบรกเกอร์

  • เลเวอเรจ (Leverage) – การเทรดโดยใช้เงินกู้เพิ่ม ทำให้กำไรและขาดทุนขยายตัว

  • มาร์จิ้น (Margin) – เงินทุนที่ต้องใช้เพื่อเปิดสถานะที่ใช้เลเวอเรจ

  • ประเภทคำสั่งซื้อขาย – คำสั่งตลาด (Market), คำสั่งจำกัดราคา (Limit), คำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-loss), และคำสั่งทำกำไร (Take-profit)


ในขั้นตอนนี้ เป้าหมายของคุณคือสร้างความเข้าใจที่มั่นคงเกี่ยวกับหลักการทำงานของการเทรดในเชิงทฤษฎี เว็บไซต์อย่าง Investopedia ช่อง YouTube และคอร์สสำหรับมือใหม่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก


เลือกประเภทสินทรัพย์และสไตล์การเทรดของคุณ

ชายคนหนึ่งกำลังศึกษาการเทรดโดยมีจอภาพสองจอแสดงข้อมูลตลาด เมื่อคุณเข้าใจกลไกของตลาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจำกัดขอบเขตความสนใจ มือใหม่หลายคนมักพยายามเทรดทุกอย่างพร้อมกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่สำเร็จ วิธีที่ดีกว่าคือเลือกตลาดเพียงหนึ่งหรือสองตลาด แล้วมุ่งเรียนรู้ในตลาดเหล่านั้น


ตลาดที่เหมาะกับมือใหม่ ได้แก่:

  • Forex — มีสภาพคล่องสูง เข้าถึงง่าย แต่ความผันผวนสูง

  • หุ้น — คุ้นเคยและง่ายต่อการวิจัย เหมาะสำหรับฝึกวิเคราะห์

  • สกุลเงินดิจิทัล — เติบโตเร็ว แต่มีความเสี่ยงสูงและผันผวนมาก


ต่อมา พิจารณาสไตล์การเทรดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ บุคลิก และความเสี่ยงที่คุณรับได้ เช่น:

  • Day trading — เข้าออกสถานะภายในวันเดียว

  • Swing trading — ถือสถานะหลายวันหรือหลายสัปดาห์

  • Scalping — เปิดปิดหลาย ๆ การเทรดขนาดเล็กรวดเร็วต่อเนื่อง

  • Position trading — ถือสถานะนานเป็นสัปดาห์หรือเดือน


ถามตัวเองว่า คุณมีเวลาทุ่มเทมากแค่ไหนในแต่ละวัน? มีความอดทนมากน้อยแค่ไหน? ชอบตัดสินใจเร็วหรือช้า?


การเลือกประเภทสินทรัพย์และสไตล์การเทรดที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณไม่ต้องรับข้อมูลมากเกินไป และทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพและโฟกัสมากขึ้น


เลือกโบรกเกอร์และเรียนรู้แพลตฟอร์มการเทรด


ถึงเวลาลงมือปฏิบัติจริงแล้ว การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญ ควรมองหาโบรกเกอร์ที่:

  • อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ (เช่น FCAของสหราชอาณาจักร)

  • มีสเปรดแข่งขันได้และค่าธรรมเนียมต่ำ

  • มีแพลตฟอร์มใช้งานง่าย (เช่น MetaTrader, TradingView หรือซอฟต์แวร์เฉพาะของโบรกเกอร์นั้น)

  • มีบริการลูกค้าที่ดีและมีเครื่องมือการเรียนรู้ที่ครบถ้วน


เมื่อเลือกโบรกเกอร์ได้แล้ว ให้เปิดบัญชีเดโม (บัญชีทดลอง) ซึ่งเป็นวิธีฝึกฝนโดยไม่เสี่ยงเงินจริง ช่วยให้คุณสามารถ:

  • ทดลองวางคำสั่งซื้อขาย

  • สำรวจกราฟและอินดิเคเตอร์

  • เข้าใจเครื่องมือและการจัดวางบนแพลตฟอร์


ในช่วงนี้ เป้าหมายคือให้คุณคุ้นเคยกับการวางคำสั่งเทรด การบริหารความเสี่ยง และการทดสอบไอเดียต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินจริง


หลีกเลี่ยงการเร่งรีบเข้าสู่การเทรดจริง เทรดเดอร์หลายคนใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนฝึกฝนในบัญชีเดโมก่อนจะเสี่ยงเงินจริง


สร้างและทดสอบแผนการเทรด


ข้อผิดพลาดทั่วไปของมือใหม่คือการเทรดโดยไม่มีแผนชัดเจน แผนการเทรดเปรียบเสมือนกฎเกณฑ์ของคุณ ซึ่งจะกำหนดว่า:

  • สินทรัพย์ที่คุณจะเทรดคืออะไร

  • เวลาเข้าและออกการเทรดคือเมื่อไหร่

  • จะเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งเท่าไร

  • ใช้เครื่องมือหรืออินดิเคเตอร์อะไรบ้าง

  • วิธีประเมินผลการเทรดของคุณอย่างไร


เมื่อเขียนแผนเสร็จแล้ว ให้ทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) โดยใช้ข้อมูลตลาดในอดีต เพื่อดูว่าแผนของคุณจะเป็นอย่างไรถ้าได้นำไปใช้จริง


คุณสามารถทดสอบด้วยตนเองโดยดูกราฟย้อนหลัง หรือใช้ซอฟต์แวร์ช่วยอัตโนมัติ โดยดูผลลัพธ์ เช่น:

  • อัตราส่วนชนะ/แพ้โดยเฉลี่ย

  • การขาดทุนสูงสุด (Maximum drawdown) หรือการลดลงจากจุดสูงสุดถึงต่ำสุด

  • จำนวนการเทรดและความสม่ำเสมอในช่วงเวลาต่าง ๆ


การทดสอบย้อนหลังไม่รับประกันความสำเร็จในอนาคต แต่ช่วยให้คุณปรับปรุงแนวทางและสร้างความมั่นใจก่อนลงเงินจริง


เทรดจริงด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม


เมื่อพร้อมเปลี่ยนมาใช้บัญชีจริง ให้เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินน้อย ๆ แม้จะมีแผนที่ผ่านการทดสอบแล้ว แต่ตลาดจริงมีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป และอารมณ์สามารถเข้ามามีบทบาทได้


ให้ปฏิบัติตามหลักการดังนี้:

  • อย่าเสี่ยงเกิน 1–2% ของทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

  • ใช้คำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-loss) เพื่อลดความเสียหาย

  • จดบันทึกการเทรด เพื่อเก็บข้อมูลการตัดสินใจ ผลลัพธ์ และความรู้สึก

  • ทบทวนผลการเทรดทุกสัปดาห์หรือเดือน เพื่อหาจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง


ต้องยอมรับการขาดทุน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด เป้าหมายไม่ใช่หลีกเลี่ยงการขาดทุนทั้งหมด แต่คือการจัดการให้ขาดทุนนั้นไม่ทำลายบัญชีของคุณ


รักษาแผนเทรดอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามอารมณ์ การเทรดเกินจำเป็น หรือการเทรดแก้มือ (Revenge trading) ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ทำให้มือใหม่ล้มเหลวบ่อยครั้ง


เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะพัฒนาความได้เปรียบส่วนตัว (Edge) ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเล็ก ๆ ที่ถ้านำมาใช้สม่ำเสมอจะนำไปสู่ความสำเร็จและกำไร


สรุป


การเรียนเทรดคือการเดินทาง โดยเริ่มจากพื้นฐาน เลือกจุดโฟกัสที่ชัดเจนฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง วางกลยุทธ์ และบริหารความเสี่ยง คุณจะอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งกว่ามือใหม่ส่วนใหญ่ที่ลงสนามโดยไม่มีการเตรียมตัว


การเทรดต้องใช้ความอดทน วินัย และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และวิธีการของคุณก็ต้องปรับตาม แต่ด้วยพื้นฐาน เครื่องมือ และทัศนคติที่ถูกต้อง การเทรดจะเป็นทักษะที่ทรงพลังและคุ้มค่า


ไม่ว่าคุณจะเทรดแบบพาร์ทไทม์หรือมุ่งหวังเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว จำไว้ว่าความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความเข้มข้น เริ่มต้นเล็ก ๆ คิดระยะยาว และให้ประสบการณ์เป็นตัวหล่อหลอมความสำเร็จของคุณ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เริ่มต้นสร้างแผนการเทรดให้ปัง แบบมือโปร
เคล็ดลับวิธีใช้ EA Forex เทรดสบายไม่ต้องเฝ้าจอ
เทรดจำลอง (Paper Trading) อย่างมือโปร ด้วยคู่มือ Step by Step
คู่มือเริ่มต้นเทรด จากศูนย์สู่การเป็นนักลงทุน
Copy Trading ประตูสู่การเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ในตลาดที่ซับซ้อน