ทำไมทองถึงมีค่า? ความลับที่นักลงทุนต้องรู้

2025-03-24
สรุป

ทองยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าและความสำคัญตลอดประวัติศาสตร์ เนื่องจากความหายาก สภาพคล่องสูง และบทบาทในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและวิกฤตเศรษฐกิจ

ทองเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดและได้รับการแสวงหามากที่สุดตลอดประวัติศาสตร์ ด้วยคุณค่าในตัวเองและเสน่ห์ที่เป็นสากล จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของการค้า สกุลเงิน และการลงทุน


แม้ในยุคของตลาดการเงินสมัยใหม่ในปัจจุบัน ทองก็ยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ ทั้งในหมู่บุคคลทั่วไป สถาบันการเงิน และธนาคารกลาง ความแตกต่างจากสินค้าโภคภัณฑ์อื่นคือ สามารถรักษาอำนาจซื้อไว้ได้ในระยะยาว จึงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ


ทำไมทองถึงมีค่าแม้เผชิญกับเงินเฟ้อ

ทองคำยังคงเป็นการลงทุนที่ดีในปี 2568 - EBC

ทองยังคงมีคุณค่าต่อเนื่อง เนื่องจากไม่เพียงแต่มีความหายากหรือการใช้งานในอุตสาหกรรม แต่ยังมีลักษณะเฉพาะที่เงินกระดาษไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ปริมาณที่จำกัด ซึ่งแตกต่างจากเงินที่สามารถพิมพ์เพิ่มได้ไม่จำกัด ทองจึงไม่ถูกลดค่าจากเงินเฟ้อและยังเป็นที่พึ่งพาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง


นอกจากนี้ ทองยังมีคุณสมบัติทางกายภาพที่โดดเด่น เช่น ความอ่อนตัว การนำไฟฟ้า และความทนทาน ทำให้เป็นที่ต้องการในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม หรือแม้แต่อากาศยาน ความต้องการที่ต่อเนื่องเหล่านี้ ยิ่งช่วยเสริมให้มีมูลค่านอกเหนือจากการลงทุน


อีกจุดแข็งที่สำคัญคือ ทองเป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้และได้รับการยอมรับในระดับสากล ต่างจากเงินดิจิทัลที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและระบบอินเทอร์เน็ต โดยมันสามารถแลกเปลี่ยนได้จริงทั่วโลก ความมีสภาพคล่องนี้ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ทั้งทองแท่ง เหรียญ และเครื่องประดับ คุณลักษณะเหล่านี้ทำให้ทองเป็นสินทรัพย์เหนือกาลเวลา ซึ่งสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ได้อย่างมั่นคง


บทบาทของทองในช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย วิกฤตทางการเงิน หรือสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ นักลงทุนมักจะหันมาพึ่งทอง เพราะในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนตลาด หุ้นมักมีความผันผวนสูง และสกุลเงินกระดาษอาจสูญเสียมูลค่า แต่ทองกลับถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและปลอดภัยเมื่อการลงทุนในทางเลือกอื่น ๆ ไม่อาจเชื่อถือได้


ในช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008 เมื่อราคาทองพุ่งสูงขึ้นในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำ นักลงทุนต่างหันมาซื้อทอง เพราะตระหนักถึงความมั่นคงที่มันสามารถมอบให้ จึงเกิดความต้องการที่เพิ่มขึ้นและราคาทำสถิติสูงสุดในเวลานั้น


เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงคราม ข้อพิพาททางการค้า และความไม่มั่นคงทางการเมือง ก็ล้วนส่งผลต่อราคาทองเช่นกัน เมื่อความตึงเครียดระดับโลกเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนมักเลือกทองเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เพราะให้ความมั่นคงทางจิตใจ แตกต่างจากสกุลเงินกระดาษที่อ่อนไหวต่อการควบคุมของรัฐบาล ทองยังคงมีความเป็นอิสระและได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในการรักษาความมั่งคั่งในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน


ทอง: การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

หนึ่งในเหตุผลหลักที่นักลงทุนจำนวนมากเลือกถือทอง คือความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่ออำนาจการซื้อของเงินกระดาษลดลงจากการที่ราคาสินค้าสูงขึ้น ทองมักจะสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ หรือบางครั้งยังเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ในประวัติศาสตร์ ราคาทองมักจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่มีเงินเฟ้อสูง เพราะนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ไม่ถูกลดมูลค่าจากการลดค่าเงิน การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดในช่วงวิกฤตเงินเฟ้อในทศวรรษ 1970 เมื่อราคาทองพุ่งสูงขึ้นในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง


ธนาคารกลางและรัฐบาลมักใช้นโยบายการเงินที่มีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงที่มีการพิมพ์เงินมากเกินไปหรืออัตราดอกเบี้ยต่ำ สกุลเงินกระดาษมักสูญเสียมูลค่า ทำให้มีนักลงทุนหันไปหาทองเพื่อเป็นที่หลบภัย ต่างจากหุ้นหรือพันธบัตรที่ผูกติดกับผลประกอบการของบริษัทหรือเสถียรภาพของรัฐบาล ทองกลับเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ขึ้นกับสถาบันการเงิน ทำให้มันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่มีเงินเฟ้อ


ทอง: เครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทองยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่สำคัญ คือความสามารถในการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ความสัมพันธ์ที่ต่ำกับหุ้นและพันธบัตรทำให้มันเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เมื่อราคาหุ้นลดลง ทองมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งทำให้เป็นเกราะป้องกันความเสียหายจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การนี้ทำให้ทองเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนสถาบัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และธนาคารกลาง


พอร์ตการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุน ด้วยการเลือกสินทรัพย์ที่ไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ทองทำหน้าที่นี้ได้โดยการสร้างความเสถียรให้กับพอร์ตในช่วงที่ตลาดตกต่ำ ที่ปรึกษาทางการเงินหลายคนแนะนำให้จัดสรรส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนไว้ในทอง โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 5% ถึง 10% ของพอร์ต การจัดสรรนี้จะช่วยให้นักลงทุนลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความผันผวนของค่าเงิน


ทองแท้และประเภทการลงทุน

ความสามารถในการแปลงสภาพเป็นเงินสดของทองทำให้มันเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมทั้งสำหรับนักลงทุนรายบุคคลและสถาบันต่าง ๆ ต่างจากอสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้อื่น ๆ ทองสามารถซื้อขายและทำการค้าขายได้ง่ายในตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะรูปแบบหนึ่งของการชำระเงิน ทำให้เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง


สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงทองในปัจจุบันมีหลายทางเลือก โดยหนึ่งในนั้นคือการลงทุนในทองแท้ เช่น ทองแท่งและเหรียญทอง ซึ่งให้การเป็นเจ้าของโดยตรง แต่ก็ต้องการการจัดเก็บอย่างปลอดภัย อีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการลงทุนในกองทุนแลกเปลี่ยนทอง (ETF) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครองทองจริง โดยกองทุน ETF ทองจะติดตามราคาทองและสามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้น


อีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนคือการซื้อหุ้นของบริษัทเหมืองทอง ซึ่งหุ้นเหล่านี้เป็นตัวแทนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการขุดและผลิตทอง แม้จะให้การเข้าถึงราคาแต่ก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเหมืองทอง เช่น ความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์และต้นทุนการผลิต


แนวโน้มในอนาคตว่าทำไมทองจึงยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ

ประวัติราคาทองคำและการคาดการณ์ - EBC

แนวโน้มระยะยาวของทองยังคงเป็นบวกจากหลายปัจจัยตัว อย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของทางเลือกการลงทุนในทองดิจิทัลทำให้มันเข้าถึงนักลงทุนทั่วโลกได้ง่ายขึ้น กองทุนแลกเปลี่ยนทอง (ETF) ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของทองจริง


นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยขยายความน่าสนใจของทอง ทำให้การลงทุนในทองง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า การลงทุนในทองดิจิทัลคาดว่าจะเติบโตขึ้น ซึ่งจะยิ่งเสริมบทบาทของมันในโลกการเงินยุคใหม่


นอกจากนี้ ความพิจารณาในด้านสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมในการขุดทองทำให้เกิดการลงทุนในทองที่ยั่งยืนมากขึ้น นักลงทุนนิยมมองหาทองที่มาจากการขุดที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสภาพการทำงานที่เป็นธรรม


การลงทุนในทองที่มีจริยธรรมสอดคล้องกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (SRI) และมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสังคมและการกำกับดูแล (ESG) การเปลี่ยนแปลงไปสู่การผลิตทองที่ยั่งยืนเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนระยะยาวของทอง


สรุป

ทองยังคงมีคุณค่าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คุณสมบัติที่ไม่เหมือนใคร และบทบาทในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน หรือการรักษาความมั่งคั่งในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทองยังคงเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าเชื่อถือและมีคุณค่าสำหรับนักลงทุน


ด้วยความหายาก สภาพคล่องที่สูง ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และความทนทานต่อความผันผวนของตลาด ทองจึงเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นสำหรับนักลงทุนทั่วโลก และเมื่อทั้งตลาดการเงินพัฒนาไปเรื่อย ๆ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ บทบาทของทองในฐานะการลงทุนที่น่าเชื่อถือจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

Bearish Divergence คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญในการซื้อขาย

Bearish Divergence คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญในการซื้อขาย

ค้นพบวิธีการทำงานของการแยกทางแบบขาลง เหตุใดจึงส่งสัญญาณว่าโมเมนตัมกำลังอ่อนตัวลง และผู้ซื้อขายใช้มันเพื่อคาดการณ์ภาวะขาลงของตลาดได้อย่างไร

2025-04-30
ราคาเศษทองแดงวันนี้: อัปเดตตลาดเดือนเมษายน 2568

ราคาเศษทองแดงวันนี้: อัปเดตตลาดเดือนเมษายน 2568

รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับราคาเศษทองแดงประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ดูอัตราปัจจุบัน แนวโน้มตลาด และสิ่งที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้รีไซเคิล

2025-04-30
อินดิเคเตอร์ Aroon หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่: ควรใช้ตัวไหนดี?

อินดิเคเตอร์ Aroon หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่: ควรใช้ตัวไหนดี?

ตัวบ่งชี้ Aroon และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ติดตามแนวโน้ม แต่ตัวใดมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานและกลยุทธ์ของตัวเหล่านี้

2025-04-30