การเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษากลยุทธ์ ข้อมูลข่าวสาร และข้อควรระวังเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนให้ได้มากที่สุด
สำหรับคนที่ไม่กลัวความเสี่ยงในการเทรดหุ้น หรืออยากได้ผลตอบแทนที่มีมูลค่าสูง การเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์ (Futures Trading) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หลักการเล่นหุ้นชนิดนี้คือ การซื้อขายหลักทรัพย์ในอนาคต โดยกำหนดราคาและระยะเวลาไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะต้องใช้ความสามารถในการคาดการณ์ค่อนข้างสูง และจำเป็นจะต้องมีการวิเคราะห์ข่าวสารและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อราคาของหุ้นในอนาคต ซึ่งเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ดังนั้นเราจึงควรศึกษากลยุทธ์ในการเล่นหุ้นด้วยวิธีนี้ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด
1. News Trading เป็นวิธีการเทรดตามข่าวสาร โดยการติดตามข่าวต่าง ๆ อยู่เสมอ จะทำให้สามารถวิเคราะห์และเปรียบเทียบได้ว่า ควรซื้อหุ้นตัวไหน และคาดการณ์ว่าจะมีราคาสูงขึ้นอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนออกมาในรูปแบบของข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวสังคม และข่าวการเงินการลงทุน ที่มีผลกระทบกับราคาของสินทรัพย์ค่อนข้างมาก และต้องใช้การตัดสินใจที่รวดเร็ว เพื่อให้สามารถช่วงชิงหุ้นที่ผลตอบแทนสูงได้ก่อน
2. Trend Following เป็นกลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ที่ต้องใช้การวิเคราะห์จากแนวโน้มของตลาด โดยใช้การวิเคราะห์ที่เจาะลึกมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ข้อมูลทางสถิติการซื้อขายในอดีตมาประกอบ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลให้แม่นยำมากขึ้น และสามารถมองเห็นจังหวะเข้าออกของตลาดที่เหมาะสม เช่น รูปแบบกราฟ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค และแนวรับแนวต้าน โดยกลยุทธ์นี้จำเป็นจะต้องศึกษาหาข้อมูลค่อนข้างเยอะ ครอบคลุมหลาย ๆ ด้านเพื่อนำมาประกอบกันให้สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำ ทำให้บริหารจัดการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
3. Mean ReveRSIon เป็นการเทรดตามการกลับตัวของราคา ซึ่งกลยุทธ์นี้จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ โดยหลักการคือ จะขายหุ้นฟิวเจอร์ที่คาดการณ์ว่าราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น และซื้อหุ้นฟิวเจอร์ที่คาดการณ์ว่าราคาจะต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งวิธีนี้จำเป็นจะต้องใช้ทักษะในการวิเคราะห์ค่อนข้างสูง จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรปรึกษาผู้รู้ที่มีประสบการณ์ในการเล่นหุ้นชนิดนี้มาก่อน
1. การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น หากมีการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นฟิวเจอร์ ก็จะส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ ดังนั้นจึงควรทำ hedging คือการทำสัญญาฟิวเจอร์กับสถานะที่ถือครองหุ้นอยู่ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นได้
2. การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน จะมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายในการถือหุ้นฟิวเจอร์ โดยเฉพาะสัญญาซื้อขายหุ้นฟิวเจอร์ในต่างประเทศ ยิ่งดอกเบี้ยสูงขึ้นก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการถือหุ้นสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ราคาหุ้นฟิวเจอร์ลดลง จึงมีโอกาสที่จะขาดทุนได้ ดังนั้นจึงควรดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนให้ดี
3. คาดการณ์ผิดพลาด เป็นสิ่งที่หลายคนจำเป็นต้องระวัง โดยเฉพาะมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน มีโอกาสที่จะคาดการณ์ผิดพลาดได้ ดังนั้นการลงทุนซื้อหุ้นฟิวเจอร์ในระยะแรกควรซื้อในปริมาณที่เหมาะสม และศึกษาข้อมูลต่าง ๆ พร้อมทั้งหากเลือกปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ร่วมด้วย ก็จะช่วยลดโอกาสในการคาดการณ์ผิดพลาดได้มากขึ้น
การเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง แต่ความเสี่ยงก็สูงมากเช่นกัน นอกการศึกษาหาวิธีในการเล่นหุ้นและทำความเข้าใจกับหุ้นชนิดนี้แล้ว จำเป็นจะต้องปรึกษาผู้รู้และมีประสบการณ์มากกว่า จะช่วยให้มองเห็นเทคนิคและแนวทางในการเล่นหุ้นได้ดียิ่งขึ้น หากใครมีทุนและมีกำลังในการซื้อขาย อยากได้ความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ ๆ หุ้นฟิวเจอร์สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน