เผยแพร่เมื่อ: 2025-11-14 อัปเดตเมื่อ: 2025-11-16
ดัชนี หรือ Index คือค่าตัวเลขสรุปผลที่ถูกคำนวณจากกลุ่มตราสารทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายสามารถวัดผลการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ
Index ทำหน้าที่ “ย่อโลกการเงิน” โดยรวมราคาจำนวนมากเข้าเป็นตัวเลขเดียว ทำให้มองเห็นภาพรวมทันที ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มตลาด ความแข็งแกร่งของกลุ่มอุตสาหกรรม หรือระดับความเสี่ยงที่กระจุกตัวอยู่ในบางภาคส่วน
ปัจจุบัน Index ถือเป็นรากฐานสำคัญของการลงทุนแบบพาสซีฟ (Passive Investing) และเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้วัดผลการบริหารพอร์ตของผู้จัดการกองทุนและนักลงทุนทั่วโลก
บทความนี้จะคำอธิบายเกี่ยวกับความหมายของดัชนี ประเภท วิธีถ่วงน้ำหนัก ความครอบคลุม ผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนได้ สัญญาณตลาด ข้อจำกัด เทรนด์ใหม่ ๆ และคำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับนักลงทุนในยุคปัจจุบัน

ดัชนี (Index) คือเครื่องชี้วัดทางสถิติที่ใช้ติดตามผลการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลักทรัพย์ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ดัชนีถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถวัดผลตลาดได้อย่างเป็นกลาง ตรวจสอบซ้ำได้ และไร้อคติ ดัชนีมีอยู่เพื่อทำให้ตลาดที่ซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้น ช่วยให้นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบผลตอบแทน (Benchmarking) รองรับการสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ และสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศการลงทุนได้อย่างทันท่วงที
กฎเกณฑ์ของดัชนีถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ดัชนีมีความโปร่งใสและสามารถทำซ้ำได้ โดยอาศัยวิธีการคัดเลือกหุ้น การถ่วงน้ำหนัก และการปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing) ตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศไว้
เมื่อมีคนอ้างอิงค่าดัชนี พวกเขาจะอ้างอิงตัวเลขรวมที่ได้จากราคาของส่วนประกอบแต่ละส่วนตามสูตรที่เผยแพร่ ดัชนีใช้รูปแบบการถ่วงน้ำหนักอย่างน้อยหนึ่งแบบเพื่อกำหนดสัดส่วนของส่วนประกอบแต่ละส่วนต่อมูลค่าดัชนี
รูปแบบการถ่วงน้ำหนักทั่วไปประกอบด้วยการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด การถ่วงน้ำหนักตามราคาตลาด และการถ่วงน้ำหนักเท่ากัน วิธีการนี้จะกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติต่างๆ เช่น สภาพคล่อง ภูมิลำเนา การกระจายหุ้นแบบอิสระ และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขั้นต่ำ ผู้ดูแลดัชนีจะคำนวณมูลค่าอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาทำการของตลาด และเผยแพร่ระดับอ้างอิงหลังตลาดปิดทำการ
ดัชนีมีวัตถุประสงค์เชิงปฏิบัติหลายประการในด้านการเงิน ดัชนีเหล่านี้ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับผู้จัดการกองทุนแบบแอคทีฟ แม่แบบสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบพาสซีฟ จุดอ้างอิงสำหรับการกำหนดราคาตราสารอนุพันธ์ และอินพุตสำหรับแบบจำลองความเสี่ยง
นักลงทุนใช้ดัชนีเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย วัดผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดสัดส่วนการลงทุนในตลาดต่างๆ เช่น หุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ หรือหุ้นขนาดเล็กในตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายและนักเศรษฐศาสตร์ยังใช้ดัชนีเป็นตัวชี้วัดความยืดหยุ่นหรือภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ทันท่วงทีอีกด้วย
| หมวดหมู่ดัชนี | องค์ประกอบทั่วไป | วัตถุประสงค์หลัก |
|---|---|---|
| ดัชนีหุ้น | หุ้นจากจักรวาลระดับชาติ ระดับภูมิภาค หรือระดับโลก | ติดตามผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นและสร้างผลิตภัณฑ์ด้านหุ้น |
| ดัชนีพันธบัตร | พันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรองค์กร | พอร์ตตราสารหนี้มาตรฐานและ ETF พันธบัตรสนับสนุน |
| ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ | สินค้าโภคภัณฑ์หรือสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า | ให้การเปิดรับวัตถุดิบและการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ |
| ดัชนีสกุลเงิน | ตะกร้าสกุลเงิน | วัดความแข็งแกร่งของสกุลเงินและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ FX |
| ดัชนีภาค/เฉพาะเรื่อง | บริษัทภายในภาคหรือหัวข้อ | การเปิดรับแบบเจาะจงไปยังภาคส่วนต่างๆ เช่น เทคโนโลยีหรือพลังงานหมุนเวียน |
| ปัจจัยและดัชนีเบต้าอัจฉริยะ | หุ้นที่ถ่วงน้ำหนักตามปัจจัยต่างๆ เช่น มูลค่าหรือโมเมนตัม | จับเบี้ยประกันความเสี่ยงทางเลือกด้วยกฎเกณฑ์ที่เป็นระบบ |

รูปแบบการถ่วงน้ำหนักของดัชนีส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อพฤติกรรมของดัชนี การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทำให้บริษัทขนาดใหญ่มีอิทธิพลมากขึ้น จึงทำให้ผลตอบแทนกระจุกตัวอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่
การถ่วงน้ำหนักแบบเท่ากันจะพิจารณาองค์ประกอบแต่ละส่วนเท่ากัน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่หุ้นขนาดเล็กจะเข้าถึงได้ ส่วนการถ่วงน้ำหนักตามปัจจัยพื้นฐานจะใช้ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เช่น กำไรหรือมูลค่าทางบัญชี เพื่อกำหนดน้ำหนัก
ดัชนีถ่วงน้ำหนักราคาหุ้น (Price-weighted index) มีอิทธิพลมากกว่าหุ้นราคาสูงโดยไม่คำนึงถึงขนาดของบริษัท ผู้ใช้ดัชนีต้องเข้าใจการถ่วงน้ำหนัก เพราะการถ่วงน้ำหนักจะเปลี่ยนแปลงความผันผวน ความเข้มข้น และแหล่งที่มาของผลตอบแทน
| แบบจำลองการถ่วงน้ำหนัก | ผลที่ตามมาทางพฤติกรรม | กรณีการใช้งานทั่วไป |
|---|---|---|
| การถ่วงน้ำหนักมูลค่าตลาด | เน้นการเปิดรับในบริษัทใหญ่ๆ อัตราการหมุนเวียนพนักงานต่ำ | กองทุนดัชนีตลาดกว้างแบบ Passive |
| การถ่วงน้ำหนักเท่ากัน | การเปิดรับองค์ประกอบที่เล็กกว่ามากขึ้น อัตราการหมุนเวียนที่สูงขึ้น | กลยุทธ์ดัชนีทางเลือก |
| การถ่วงน้ำหนักพื้นฐาน | เอียงไปทางบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งกว่า | ผลิตภัณฑ์ Smart Beta |
| การถ่วงน้ำหนักราคา | หุ้นราคาสูงครองตลาดไม่ว่าจะขนาดไหน | ดัชนีเก่าแก่ที่ใช้กฎแบบดั้งเดิม เช่น ดัชนีที่พัฒนาขึ้นในยุคแรก ๆ |
Index ถูกกำหนดให้แสดงถึงขอบเขตทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกการเปิดรับตลาดที่ตนต้องการได้
| ตัวอย่างดัชนี | ความคุ้มครอง | จุดข้อมูลที่น่าสังเกต |
|---|---|---|
| MSCI ACWI | ตลาดโลกที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ | ครอบคลุมประมาณ 85% ของจักรวาลหุ้นที่สามารถลงทุนได้ทั่วโลก โดยมีส่วนประกอบมากกว่า 2,500 รายการ |
| S&P 500 | หุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ | คิดเป็นประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดที่มีอยู่ของสหรัฐฯ และเป็นเกณฑ์มาตรฐานหลักของสหรัฐฯ |
| FTSE 100 | หุ้นขนาดใหญ่ของสหราชอาณาจักร | ติดตาม 100 บริษัทที่จดทะเบียนในอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตลาด |



ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ (Large-cap) เช่น S&P 500 คิดเป็นสัดส่วนสำคัญของมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลก ปัจจุบันมูลค่ารวมของ S&P 500 อยู่ที่ระดับ หลายสิบล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลอันหนักแน่นของหุ้นกลุ่มเมกะแคปสหรัฐฯ ต่อทิศทางตลาดโลกโดยรวม
นักลงทุนสามารถเข้าถึงดัชนีได้ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายประเภทที่จำลองหรือติดตามดัชนี ซึ่งรวมถึงกองทุนรวม กองทุนดัชนี และกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) นอกจากนี้ ตราสารอนุพันธ์ เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าและออปชันดัชนี ยังให้ประโยชน์ทั้งในด้านเลเวอเรจและการป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์และใบรับรองที่มีโครงสร้างมักให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนที่ตรงกับผลการดำเนินงานของดัชนี การเติบโตของอุตสาหกรรม ETF ทำให้การเปิดรับความเสี่ยงจากดัชนีมีสภาพคล่องสูงและต้นทุนต่ำ โดยสินทรัพย์ ETF ทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2025
โดยสรุปแล้ว ดัชนีหุ้น (Index) จะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างตลาดและการจัดการการลงทุนต่อไป ผู้ให้บริการดัชนียังคงปรับปรุงวิธีการคำนวณและเกณฑ์การจัดทำดัชนี เพื่อครอบคลุมธีมการลงทุนใหม่ ๆ และตอบสนองความต้องการของผู้เข้าร่วมตลาดด้านความโปร่งใสและต้นทุนต่ำ มูลค่าสินทรัพย์ใน ETF และสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับดัชนี (Index-linked AUM) ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2025 ซึ่งย้ำถึงบทบาทอันยั่งยืนของดัชนีในตลาดทุนทั่วโลก
ดัชนีคือมาตรการทางสถิติที่อิงตามกฎเกณฑ์ (rule-based) ซึ่งรวบรวมราคาของหลักทรัพย์ที่เลือกมาเพื่อแทนส่วนตลาดใดตลาดหนึ่ง ดัชนีให้เกณฑ์อ้างอิงที่โปร่งใสสำหรับการวัดผลการลงทุน การสร้างผลิตภัณฑ์ และการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจในตลาดการเงิน
ผู้จัดทำดัชนีจะเผยแพร่วิธีการคำนวณที่ระบุเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ กฎการถ่วงน้ำหนัก และตารางการปรับสมดุล (rebalancing) หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีต้องมีสภาพคล่องและมูลค่าตลาดขั้นต่ำ วิธีการนี้ช่วยให้การคำนวณดัชนีมีความสม่ำเสมอ โปร่งใส และทำซ้ำได้
ดัชนีให้เกณฑ์อ้างอิงที่เป็นวัตถุประสงค์ ซึ่งช่วยให้เห็นว่าผู้จัดการลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเกินดัชนีหลังหักค่าธรรมเนียมหรือไม่ การเปรียบเทียบช่วยแยกแยะระหว่างความสามารถกับโชค นำทางการจัดสรรสินทรัพย์ และประเมินประสิทธิภาพกลยุทธ์เทียบกับตัวแทนตลาดที่ชัดเจน
ไม่ใช่ดัชนีทั้งหมดที่สามารถลงทุนได้ บางดัชนีมีไว้เพื่อสังเกตการณ์เท่านั้นและไม่เหมาะกับการทำซ้ำ ดัชนีที่สามารถลงทุนได้จะถูกออกแบบให้มีหลักทรัพย์ที่ซื้อขายได้จริงและถ่วงน้ำหนักอย่างเหมาะสม ทำให้กองทุนและ ETF สามารถติดตามได้อย่างใกล้เคียง
ดัชนีมักให้การเปิดรับความเสี่ยงที่กว้าง แต่ไม่รับประกันความหลากหลาย บางดัชนีอาจเน้นไปที่บริษัทใหญ่เพียงไม่กี่แห่งหรือภาคส่วนที่เด่นชัด ทำให้เกิดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวแม้ดัชนีจะดูครอบคลุมก็ตาม
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ