เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-10
การลดค่าเงิน (Devaluation) คือการที่รัฐบาลหรือธนาคารกลางประกาศลดมูลค่าของสกุลเงินของตนอย่างเป็นทางการ เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นหรือกลุ่มของสกุลเงิน โดยกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นในระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่หรือแบบที่มีการควบคุมอย่างใกล้ชิด ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนนั้นถูกกำหนดโดยผู้กำกับดูแล ไม่ใช่โดยตลาดเสรี
พูดให้เข้าใจง่ายคือ หลังการลดค่าเงิน คุณจำเป็นต้องใช้จำนวนเงินสกุลท้องถิ่นมากขึ้นเพื่อแลกเงินตราต่างประเทศในปริมาณเท่าเดิม
เหตุการณ์นี้มีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ เพราะการลดค่าเงินมักเกิดขึ้นแบบกะทันหันเป็นช่วง ๆ ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงอาจสร้างช่องว่างราคา การเปลี่ยนทิศทางของเทรนด์อย่างรวดเร็ว และเพิ่มความเสี่ยงที่ผิดปกติในตลาดฟอเร็กซ์และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง

ในการเทรด การลดค่าเงินหมายถึงการดำเนินนโยบายอย่างเป็นทางการที่รัฐบาลหรือธนาคารกลางปรับลดมูลค่าของสกุลเงินในระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่หรือแบบที่ถูกควบคุมอย่างใกล้ชิด เมื่อเทียบกับอีกสกุลหนึ่งหรือกลุ่มของสกุลเงิน
สิ่งนี้แตกต่างจากการอ่อนค่าตามปกติของตลาด เพราะการอ่อนค่าตามตลาดเป็นผลลัพธ์จากอุปสงค์และอุปทานตามธรรมชาติ
แต่การลดค่าเงินเป็นการตัดสินใจอย่างจงใจของผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งมักประกาศผ่านแถลงการณ์ของธนาคารกลาง หรือการปรับกรอบอัตราแลกเปลี่ยนที่อนุญาตให้สกุลเงินเคลื่อนไหวภายในช่วงใหม่
บนแพลตฟอร์มเทรด จะเห็นการลดค่าเงินเป็นการกระโดดของราคา (gap) อย่างรวดเร็ว เช่น หากสกุลเงินถูกลดค่าลง 10% คู่เงินกับดอลลาร์สหรัฐอาจกระโดดขึ้นทันทีในระดับใกล้เคียงกับสัดส่วนดังกล่าว
นักวิเคราะห์ นักลงทุนระดับมหภาค และผู้ที่ถือสถานะเกี่ยวข้องกับสกุลเงินนั้น จะติดตามประกาศลักษณะนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งจากสายข่าว แถลงรัฐบาล และปฏิทินเศรษฐกิจที่มักบ่งชี้ช่วงเวลาความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
การลดค่าเงินส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์ที่อ้างอิงสกุลเงินนั้นโดยทันที ตัวอย่างเช่น หากรัฐบาลปรับลดค่าเงินลง 10% ในข้ามคืน คู่เงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินนั้นจะถูกปรับราคาใหม่ทันที
เทรดเดอร์อาจเห็นความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดต่าง ๆ ได้แก่:
ตลาดฟอเร็กซ์ (FX): สเปรดอาจกว้างขึ้นและสภาพคล่องลดลงในช่วงประกาศ
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์: เพราะราคาสินค้าโภคภัณฑ์มักอ้างอิงสกุลเงินหลัก เช่น ดอลลาร์
ตลาดพันธบัตร: การลดค่าเงินอาจผลักดันความคาดหวังเงินเฟ้อให้สูงขึ้น ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย
ตลาดหุ้น: โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออก ซึ่งอาจได้ประโยชน์จากสกุลเงินที่อ่อนค่าลง
การเข้าใจเหตุผลและสภาพเศรษฐกิจมหภาคที่อยู่เบื้องหลังการลดค่าเงิน จะช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินได้ว่า ผลกระทบเหล่านี้จะยืดเยื้อนานแค่ไหน และนโยบายดังกล่าวสะท้อนถึงความตึงเครียดทางเศรษฐกิจในระดับใด
มีหลายปัจจัยที่ผลักดันให้รัฐบาลหรือธนาคารกลางตัดสินใจลดค่าเงิน
เมื่อประเทศมีเงินดอลลาร์หรือยูโรไม่เพียงพอที่จะป้องกันอัตราแลกเปลี่ยนแบบตรึง รัฐบาลอาจจำเป็นต้องลดค่าเงินลง เมื่อเงินสำรองลดลง ความกดดันต่อค่าเงินจะเพิ่มขึ้น และโอกาสเกิดการลดค่าเงินก็สูงขึ้นตามไปด้วย
หากเศรษฐกิจมีปัญหาในการขายสินค้าออกต่างประเทศ ค่าเงินที่อ่อนลงจะช่วยให้สินค้าถูกลง และแข่งขันได้มากขึ้น ดังนั้น เมื่อยอดส่งออกลดลง ความต้องการลดค่าเงินจะสูงขึ้นตาม
เมื่อราคาสินค้าในประเทศพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ค่าเงินจะถูกมองว่ามีมูลค่าสูงเกินจริง ผู้กำกับนโยบายอาจต้องลดค่าเงินเพื่อสะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง แม้ว่าการลดค่าเงินอาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มแรงขึ้นในระยะต่อมา
ปัจจัยเหล่านี้เป็นสัญญาณที่เทรดเดอร์จับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อพวกเขาเห็นว่าเงินสำรองลดลง เงินเฟ้อพุ่ง หรือยอดส่งออกอ่อนแรง ก็จะเริ่มคำนวณความเป็นไปได้ที่ประเทศนั้นจะประกาศลดค่าเงิน

ลองนึกภาพเทรดเดอร์ที่กำลังดูคู่เงินหนึ่ง ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนคือ 1 ดอลลาร์เท่ากับ 10 หน่วยของสกุลเงินท้องถิ่น เทรดเดอร์ถือสถานะซื้อขนาดเล็กอยู่ ข้ามคืนรัฐบาลประกาศลดค่าเงินลง 10% อัตราใหม่จึงกลายเป็น 1 ดอลลาร์เท่ากับ 11 หน่วย
คู่เงินกระโดดขึ้นทันที หากเทรดเดอร์ถือสถานะ ซื้อ USD เทียบกับสกุลเงินท้องถิ่น สถานะจะได้กำไร เพราะตอนนี้ดอลลาร์สามารถแลกเป็นสกุลเงินท้องถิ่นได้มากกว่าเดิม การเคลื่อนจาก 10 เป็น 11 คือการปรับขึ้น 10%
ตำแหน่งเทรดขนาดเล็กมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ อาจทำกำไรได้ประมาณ 100 ดอลลาร์ ตามมูลค่าบนกระดาษ
แต่ถ้าเทรดเดอร์ถือสถานะขายคู่เงินเดียวกัน ผลลัพธ์จะกลับด้านทันที สถานะจะขาดทุนเพราะค่าเงินท้องถิ่นมีมูลค่าลดลง เทรดเดอร์อาจถูก บังคับปิดสถานะ (stop out) หากไม่ได้จัดการขนาดไม้เทรดอย่างเหมาะสม
ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างฉับพลันสามารถทำให้ผลลัพธ์ของการเทรดเปลี่ยนไปได้ทันที แม้ตลาดจะยังไม่ได้เคลื่อนไหวในลักษณะปกติก็ตาม
หากประเทศใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบตรึงหรือกึ่งลอยตัวที่มีการควบคุม ความเสี่ยงการลดค่าเงินมีอยู่เสมอ ส่วนสกุลเงินที่ลอยตัวอย่างเสรีจะไม่มีการลดค่าเงินแบบประกาศอย่างเป็นทางการ
หากมีประกาศพิเศษนอกเหนือจากกำหนดการประชุมปกติ อาจเป็นสัญญาณของความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ
ถ้าสเปรดกว้างขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปกติสงบ อาจสะท้อนความมั่นใจของตลาดที่ลดลง
เมื่อเงินสำรองลดลงต่อเนื่องหลายเดือน ความเสี่ยงการลดค่าเงินจะเพิ่มสูงขึ้น
หากเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายมาก สกุลเงินนั้นอาจอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญ
ควรตรวจสอบปัจจัยเหล่านี้อย่างน้อยวันละครั้ง เมื่อเทรดคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินแบบมีการควบคุม และก่อนประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญควรตรวจสอบอีกครั้ง
การอ่อนค่าตามตลาด: การลดลงของมูลค่าสกุลเงินตามแรงซื้อขายปกติ ไม่ใช่การดำเนินนโยบายของรัฐ
การเพิ่มค่าเงิน: การประกาศปรับมูลค่าสกุลเงินให้สูงขึ้น ในระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบตรึงหรือควบคุม
นโยบายการเงิน: ชุดเครื่องมือที่ธนาคารกลางใช้เพื่อควบคุมเศรษฐกิจ เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและปริมาณเงินในระบบ
การลดค่าเงินเป็นการตัดสินใจของผู้กำกับนโยบาย เช่น รัฐบาลหรือธนาคารกลาง ขณะที่การอ่อนค่าเป็นการเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดโดยธรรมชาติ และเกิดขึ้นกับสกุลเงินลอยตัวเท่านั้น เฉพาะสกุลเงินแบบตรึงหรือถูกควบคุมเท่านั้นที่สามารถถูก “ลดค่าเงิน” ได้อย่างเป็นทางการ
สกุลเงินที่อ่อนค่าลงอาจช่วยให้การส่งออกแข่งขันได้มากขึ้น แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุปสงค์ในต่างประเทศ โครงสร้างซัพพลายเชน และความเร็วที่บริษัทสามารถปรับราคาได้ หากเงินเฟ้อในประเทศสูง ผลดีต่อการส่งออกอาจถูกจำกัด
ไม่มีใครรู้แน่นอน 100% เทรดเดอร์จะดูสัญญาณอย่างเช่น เงินสำรองระหว่างประเทศ เงินเฟ้อ ข้อมูลการค้า และคำแถลงของรัฐบาล เพื่อประเมินความเสี่ยง สัญญาณเหล่านี้ช่วยเตรียมตัว แต่ไม่สามารถระบุเวลาที่แน่ชัดได้
สินค้านำเข้าจะแพงขึ้น เพราะต้องใช้เงินท้องถิ่นจำนวนมากกว่าเดิมในการซื้อสินค้าเดิม สิ่งนี้สามารถผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น ทำให้ผู้กำกับนโยบายต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีด้านความสามารถแข่งขัน และความเสี่ยงราคาสินค้าพุ่งสูง
การลดค่าเงินคือการปรับลดมูลค่าเงินอย่างตั้งใจโดยหน่วยงานรัฐหรือธนาคารกลาง ถือเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ใช้แก้ปัญหาดุลการค้า หรือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยง เช่น เงินเฟ้อ การไหลออกของเงินทุน และความไม่แน่นอนในหมู่นักลงทุน
สำหรับเทรดเดอร์ การลดค่าเงินสามารถเปลี่ยนโครงสร้างราคาในตลาดฟอเร็กซ์ พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดหุ้นได้อย่างรวดเร็ว
การเข้าใจว่าทำไมเกิดการลดค่าเงิน และความเชื่อมโยงกับปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค จะช่วยให้เทรดเดอร์ตอบสนองได้อย่างมีเหตุผลและวางกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ