เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-24
หุ้น RKLB กำลังกลายเป็นหนึ่งในชื่อที่นักลงทุนสายเทคโนโลยีอวกาศจับตามองมากที่สุด ด้วยโมเดลธุรกิจที่ซับซ้อนกว่าแค่การปล่อยจรวด Electron บริษัทไม่เพียงให้บริการขนส่งดาวเทียมขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่การพัฒนาส่วนประกอบดาวเทียมและแพลตฟอร์ม Photon รวมถึงการพัฒนาจรวดขนาดกลาง Neutron ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้เต็มรูปแบบ บทความนี้จะพาไปสำรวจว่า RKLB คืออะไร ทำไมโมเดลธุรกิจถึงโดดเด่น และความเสี่ยงเชิงการเงินและการดำเนินงานที่นักลงทุนควรรู้
ธุรกิจหลักส่วนแรกของ Rocket Lab หรือ RKLB คือการให้บริการขนส่งดาวเทียมขนาดเล็ก (Launch Services) ด้วยจรวด "Electron" ซึ่งได้รับการยอมรับด้านความน่าเชื่อถือในภารกิจ (Mission Reliability) ในระดับสูง จรวด Electron ตอบสนองตลาดการปล่อยดาวเทียมเฉพาะภารกิจ (Dedicated Launch) สำหรับลูกค้าภาครัฐและเอกชน สร้างกระแสรายได้และชื่อเสียงซึ่งเป็นรากฐานสำคัญให้แก่บริษัท
ส่วนที่สองคือธุรกิจระบบอวกาศ (Space Systems) ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์การบูรณาการแนวดิ่ง (Vertical Integration) ที่ RKLB ใช้เพื่อขยายห่วงโซ่คุณค่า ผ่านการพัฒนาและการเข้าซื้อกิจการ บริษัทได้สร้างขีดความสามารถในการผลิตส่วนประกอบดาวเทียมและแพลตฟอร์มดาวเทียม Photon การดำเนินงานส่วนนี้ช่วยเพิ่มอัตรากำไรโดยรวม, ลดการพึ่งพิงธุรกิจขนส่งเพียงอย่างเดียว และสร้างความได้เปรียบในการนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรแก่ลูกค้า
สำหรับทิศทางการเติบโตในอนาคต RKLB กำลังทุ่มทรัพยากรในการพัฒนาจรวดขนาดกลาง Neutron"ซึ่งถูกออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด (Fully Reusable) เป้าหมายหลักของ Neutron คือการเข้าแข่งขันในตลาดการขนส่งที่มีมูลค่าสูงกว่าเดิม เช่น การปล่อยดาวเทียมสำหรับเครือข่ายขนาดใหญ่ (Mega-Constellations) ความสำเร็จของโครงการนี้จึงเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อศักยภาพการเติบโตและการประเมินมูลค่าบริษัทในระยะยาว
ผู้ให้บริการอวกาศครบวงจร (End-to-End Solution): RKLB ไม่ได้มีแค่ธุรกิจปล่อยจรวด แต่ยังออกแบบ ผลิต และบริหารจัดการดาวเทียมและส่วนประกอบต่างๆ ด้วย ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและสร้างรายได้จากหลายส่วนในห่วงโซ่คุณค่า
จรวด Electron ที่พิสูจน์แล้ว: มีจรวดขนส่งขนาดเล็ก "Electron" ที่มีสถิติความสำเร็จและความน่าเชื่อถือสูง เป็นจรวดสัญชาติอเมริกันที่มีความถี่ในการปล่อยสูงเป็นอันดับสองรองจาก SpaceX สร้างกระแสรายได้ที่มั่นคง
การบูรณาการแนวดิ่ง (Vertical Integration): ธุรกิจ "Space Systems" ที่ผลิตส่วนประกอบดาวเทียมและแพลตฟอร์ม "Photon" มีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจปล่อยจรวด ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยรวมและลดการพึ่งพิงรายได้ทางเดีย
ศักยภาพการเติบโตในอนาคตกับจรวด Neutron: การพัฒนาจรวดขนาดกลาง "Neutron" ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด เป็นกุญแจสำคัญในการเจาะตลาดการปล่อยดาวเทียมขนาดใหญ่ (Mega-Constellations) ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงกว่าเดิมหลายเท่า
ฐานลูกค้าภาครัฐที่แข็งแกร่ง: การได้รับสัญญาจากหน่วยงานสำคัญ เช่น NASA, กองทัพอวกาศสหรัฐฯ และสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติ (NRO) เป็นการยืนยันคุณภาพเทคโนโลยีและสร้างความน่าเชื่อถือสูง
ความยืดหยุ่นในการปล่อยจรวด: การมีฐานปล่อยจรวดส่วนตัวทั้งในนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถควบคุมตารางการปล่อยได้เองและมีความยืดหยุ่นสูงกว่าคู่แข่งที่ต้องใช้ฐานปล่อยรวม

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 หุ้น RKLB แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง โดยราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นมาถึง 156% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกระแสดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากความสำเร็จในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการประกาศสัญญาฉบับสำคัญหลายฉบับ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และมีปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
ปัจจัยสำที่ทำให้ RKLB โดดเด่นในสายตานักลงทุน คือการเป็นบริษัท Pure-Play ซึ่งหมายถึงการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นในอุตสาหกรรมอวกาศเพียงอย่างเดียว ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการเติบโตของเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ (New Space Economy) ได้โดยตรง โดยไม่มีปัจจัยจากธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาเจือจางเหมือนในกลุ่มบริษัทอากาศยานและป้องกันประเทศ (Aerospace & Defense) ขนาดใหญ่ ที่รายได้จากธุรกิจอวกาศอาจเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของพอร์ตโฟลิโอทั้งหมด
สำหรับนักลงทุน สถานะ Pure-Play นี้ช่วยให้การวิเคราะห์และประเมินมูลค่าของ RKLB มีความตรงไปตรงมาและชัดเจนกว่ามาก ทุกความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยจรวด, การได้สัญญาระยะยาว, หรือความคืบหน้าทางเทคโนโลยี จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประกอบการและราคาหุ้น ทำให้ง่ายต่อการติดตามและประเมินปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในระยะยาวได้แม่นยำยิ่งขึ้น
RKLB ไม่ใช่บริษัทสตาร์ทอัพที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาแนวคิด แต่เป็นองค์กรที่มีผลการดำเนินงานที่พิสูจน์ตัวเองแล้วในเชิงพาณิชย์ จรวด Electron ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธง ได้สร้างสถิติเป็นหนึ่งในจรวดที่มีความถี่ในการปล่อยสูงที่สุดในโลกและมีความน่าเชื่อถือในภารกิจอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างยิ่ง การมีรายได้ที่เกิดขึ้นจริงและเติบโตอย่างสม่ำเสมอจากทั้งสองหน่วยธุรกิจ (Launch Services และ Space Systems) ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับบริษัท
คุณภาพของฐานลูกค้าเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันถึงความสามารถของ RKLB การได้รับความไว้วางใจและมีสัญญาต่อเนื่องกับหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูงสุด เช่น องค์การนาซา (NASA), กองทัพอวกาศสหรัฐฯ (U.S. Space Force) และสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติ (NRO) ทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีในระดับสูงสุด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในมุมมองของนักลงทุนและเพิ่มความน่าสนใจให้กับหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นักลงทุนไม่ได้มอง RKLB แค่จากความสำเร็จในปัจจุบันของจรวด Electron เท่านั้น แต่ยังมองเห็นเส้นทางการเติบโตในอนาคตที่ชัดเจนและเป็นลำดับขั้น บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าแค่การเป็นผู้ให้บริการปล่อยจรวดขนาดเล็ก ผ่านการขยายธุรกิจแนวดิ่งไปสู่ระบบอวกาศ (Space Systems) ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ครบวงจรและแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะเข้ามาปลดล็อกการเติบโตแบบก้าวกระโดดและเป็นที่คาดหวังของตลาดมากที่สุด คือโครงการพัฒนายานอวกาศขนาดกลาง "Neutron" จรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมดนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันในตลาดการปล่อยดาวเทียมขนาดใหญ่และเครือข่ายดาวเทียม (Mega-Constellations) ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว ความสำเร็จของโครงการ Neutron จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะยกระดับ RKLB ขึ้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของอุตสาหกรรมอวกาศระดับโลก และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หุ้นถูกประเมินมูลค่าโดยอิงกับศักยภาพในอนาคตที่สูงมาก

Rocket Lab แสดงการเติบโตเชิงรายได้ที่ชัดเจน บริษัททำรายได้รวมปี 2024 อยู่ที่ $436.2 ล้าน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดประจำปีและสะท้อนการเพิ่มขึ้นของปริมาณภารกิจปล่อยจรวดและธุรกิจระบบอวกาศอื่นๆ ของบริษัท
แต่ภาพการเงินเบื้องลึกเผยปัญหาที่ต้องจับตามองอย่างจริงจัง ในไตรมาส 2 ของปี 2025 Rocket Lab รายงาน รายได้ไตรมาสละประมาณ $144.5 ล้าน แต่ยังมี ขาดทุนสุทธิ (net loss) ที่ขยายตัวอยู่ ไตรมาสนั้นขาดทุนราว $66.4 ล้าน (หรือประมาณ $0.13 ขาดทุนต่อหุ้น) ซึ่งหมายความว่าแม้รายได้จะโต แต่การแปลงรายได้เป็นผลกำไรสุทธิกำลังเป็นความท้าทาย
การวิเคราะห์สภาพคล่องและ runway (ประมาณการความสามารถคงอยู่โดยไม่ต้องระดมทุนเพิ่ม) ให้มุมมองเชิงปริมาณ: ณ สิ้นปี 2024 บริษัทมี เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวมกันประมาณ $271.0M (cash) + $208.6M (marketable securities) = $479.6M ของสภาพคล่องที่สบายกว่าบริษัทสตาร์ทอัพบางราย แต่ก็ไม่ถึงกับ “เยอะเหลือเฟือ” เมื่อเทียบกับอัตราการขาดทุนปัจจุบันในไตรมาส
คำนวณคร่าว ๆ โดยสมมติว่าอัตราขาดทุนไตรมาสละเท่ากับ Q2 2025 ($66.4M) — เงินสดรวม $479.6M / $66.4M ≈ 7.22 ไตรมาส (ประมาณ 1.8 ปี) ก่อนเงินสดจะหมด แต่อย่าลืมว่า
บริษัทใช้เงินเพื่อการลงทุนเชิงโครงสร้าง (โรงงาน, Neutron development, R&D) ซึ่งมักทำให้กระแสเงินสดในอนาคตผันผวน
รายได้ต่อไตรมาสอาจเพิ่มหรือลดตามภารกิจที่ปล่อยได้จริงและการรับเงินล่วงหน้าจากลูกค้า ดังนั้น 7.22 ไตรมาสเป็น ประมาณการเชิงง่าย ไม่ใช่คำมั่น (คำนวณโดยตรงจากตัวเลขที่อ้างอิงข้างต้น)
อีกด้านหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นคือ backlog / manifest สัญญาที่จองไว้ — รายงานและบทวิเคราะห์ล่าสุดระบุ backlog ของ Rocket Lab อยู่ในระดับประมาณ $1 พันล้าน ซึ่งทำให้บริษัทมี “ความชัดเจนด้านรายได้ในอนาคต” ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะภารกิจหลายภารกิจที่มาจากลูกค้ารายใหญ่ (เช่น Synspective ที่จองหลายสิบภารกิจ) — แต่ความเสี่ยงที่ฝังอยู่คือความเข้มข้นของลูกค้า (customer concentration): หากลูกค้ารายใหญ่เลื่อน/ยกเลิก การมองเห็นรายได้จะหายไปอย่างรวดเร็ว

A: RKLB คือชื่อย่อของ Rocket Lab USA, Inc. บริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่ผลิตและปล่อยจรวด Electron เพื่อส่งดาวเทียมขนาดเล็กขึ้นสู่วงโคจร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐฯ
รายได้หลักมาจากบริการปล่อยดาวเทียมเชิงพาณิชย์และภารกิจที่ได้รับว่าจ้างจากหน่วยงานรัฐ เช่น NASA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รวมถึงการพัฒนาและขายดาวเทียมขนาดเล็กของตนเอง
A: Rocket Lab มุ่งเน้นตลาดดาวเทียมขนาดเล็ก ใช้จรวด Electron ที่มีต้นทุนต่ำและขนาดกะทัดรัด ต่างจาก SpaceX ที่ใช้จรวดขนาดใหญ่กว่าเพื่อภารกิจเชิงอุตสาหกรรม
หุ้น RKLB สะท้อนภาพการเปลี่ยนผ่านของโลกการลงทุนที่เงินทุนกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ “เศรษฐกิจอวกาศ” ที่มีมูลค่ามหาศาลในอนาคต Rocket Lab พิสูจน์แล้วว่าการปล่อยจรวดไม่จำเป็นต้องอยู่ในมือรัฐบาลอีกต่อไป แต่สามารถเป็นธุรกิจเอกชนที่สร้างรายได้จริงได้
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของ RKLB ยังอยู่ที่การเปลี่ยน “ความสำเร็จทางเทคนิค” ให้กลายเป็น “ความยั่งยืนทางการเงิน” การเติบโตของรายได้ยังคงต้องพึ่งพาการระดมทุนและสัญญาจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งทำให้เส้นทางสู่การทำกำไรยังไม่ชัดเจนในระยะสั้น
นักวิเคราะห์บางส่วนประเมินว่า หาก Rocket Lab สามารถส่งมอบจรวด Neutron ได้ตามแผนภายในปี 2026 และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากบริการปล่อยดาวเทียมได้สำเร็จ บริษัทอาจกลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปในตลาดอวกาศโลก และทำให้ หุ้น RKLB กลับมาเป็นหนึ่งใน “หุ้นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพเติบโตสูงสุด” อีกครั้ง
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ