简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นแตะ 41.30 ดอลลาร์ หลังผลประกอบการไตรมาส 3 ฟื้นตัว

เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-24


ราคาหุ้น Intel ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 41.30 ดอลลาร์ หลังผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ของบริษัทเผยให้เห็นถึงการฟื้นตัวของรายได้อย่างชัดเจนและการกลับมามีกำไรอีกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณของความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในกระบวนการฟื้นฟูกิจการระยะยาวของบริษัท

ราคาหุ้น Intel ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา

ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน ว่าความพยายามในการปรับโครงสร้างองค์กรและการลงทุนขนาดใหญ่ในด้าน AI ของ Intel เริ่มสร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่จับต้องได้แล้ว


บทความนี้จะสำรวจว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 มีผลต่อราคาหุ้น Intel อย่างไร โดยจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของแต่ละหน่วยธุรกิจ ปฏิกิริยาของตลาด แนวทางการบริหาร มุมมองของนักวิเคราะห์ และความเสี่ยงสำคัญที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มของ Intel ในไตรมาสถัดไป


ปัจจัยสำคัญของไตรมาส 3 ที่ขับเคลื่อนราคาหุ้น Intel

รายได้รายไตรมาสของ Intel (YoY)

ตัวชี้วัด ผลประกอบการ (ไตรมาส 3 ปี 2025)
รายได้ 13.7 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
กำไรสุทธิแบบ GAAP 4.1 พันล้านดอลลาร์
กำไรต่อหุ้น (GAAP) 0.90 ดอลลาร์ต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้น (Non-GAAP) 0.23 ดอลลาร์ต่อหุ้น
การเคลื่อนไหวของราคาหลังตลาดปิด หุ้นปรับขึ้นราว 7–8% หลังการประกาศผลประกอบการ
แนวโน้มคาดการณ์ Q4 (รายได้) 12.8–13.8 พันล้านดอลลาร์; คาดการณ์กำไรต่อหุ้น (Non-GAAP) สำหรับ Q4 อยู่ที่ 0.08 ดอลลาร์


เหตุผลที่ราคาหุ้น Intel ปรับตัวขึ้น

ราคาหุ้น Intel พุ่งแตะ 41.30 ดอลลาร์ หลังผลประกอบการ Q3 ฟื้นตัว

1. การกลับมาทำกำไรตามมาตรฐาน GAAP มีความสำคัญมาก

นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อการพลิกจากขาดทุนหนักในอดีตกลับมามีกำไรสุทธิ (GAAP net income) เพราะเป็นสัญญาณว่าการปรับโครงสร้าง การควบคุมต้นทุน และกลยุทธ์ของบริษัทเริ่มเห็นผลจริง


2. รายได้และกำไรต่อหุ้นสูงกว่าคาด เพิ่มความมั่นใจของตลาด

รายได้ 13.7 พันล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุง (EPS) 0.23 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงขาลงระยะสั้นและทำให้นักลงทุนประเมินกำไรในอนาคตใหม่


3. แนวโน้มและธุรกิจโรงหล่อชิป (Foundry) ยังเป็นจุดระวัง

คำแนะนำรายได้ Q4 ของผู้บริหารและความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับอัตรากำไรของธุรกิจโรงหล่อ ทำให้ภาพรวมเป็นไปในทิศทาง “คืบหน้าแต่ยังไม่ไร้ปัญหา”


ตัวเลขสำคัญของ Intel ไตรมาส 3 เทียบกับประมาณการของนักวิเคราะห์

ผลประกอบการทางการเงินของ Intel ไตรมาส 3 ปี 2025


การเปรียบเทียบที่สำคัญที่สุดคือระหว่างผลประกอบการจริง กับประมาณการของนักวิเคราะห์ (consensus estimate):


  1. รายได้ 13.7 พันล้านดอลลาร์ เติบโตประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสูงกว่าช่วงคาดการณ์รายได้จากเดือนกรกฎาคม

  2. กำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP ที่ 0.23 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เดิมราว 0.02–0.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น ถือเป็นผลประกอบการที่เหนือความคาดหมายของตลาดอย่างชัดเจน

  3. การตอบรับของตลาด (ราคาหุ้นหลังปิดตลาดพุ่งขึ้นระดับ 7–8%) สอดคล้องกับขนาดของผลประกอบการที่ดีกว่าคาด และสะท้อนความเชื่อว่าการฟื้นตัวของ Intel เริ่มปรากฏผลในเชิงตัวเลขแล้ว


ปัจจัยที่ขับเคลื่อนรายได้และอัตรากำไร
หน่วยธุรกิจ สัญญาณ Q3 ความสำคัญต่อราคาหุ้น Intel
Client (พีซี) ทรงตัวแต่ไม่เติบโตแรง ราคาขายเฉลี่ย (ASP) มีทั้งบวกและลบ การฟื้นตัวของตลาดพีซีช่วยคงรายได้ฐาน แต่ยังไม่ใช่แหล่งเติบโตที่นักลงทุนให้ความสำคัญสูงสุด
Data Centre & AI ความต้องการเพิ่มขึ้น อัตรากำไรปรับดีขึ้น เป็นหัวใจเชิงกลยุทธ์ของการเติบโตในอนาคต หากขยายตลาด AI ได้ต่อเนื่องจะหนุนมูลค่าหุ้นในระยะยาว
Foundry (โรงหล่อชิป) รายได้เริ่มมีส่วนร่วมแต่ยังมีปัญหาเรื่องอัตรากำไร แม้รายได้จากโรงหล่อช่วยเพิ่มยอดรวม แต่ต้นทุนสูงและอัตรากำไรต่ำยังจำกัดกระแสเงินสดอิสระและการขยายค่า P/E

ประเด็นสำคัญ:

  1. ความต้องการด้าน Data Centre และ AI คือ “หัวใจ” ของแนวโน้มขาขึ้นของหุ้น Intel

  2. หาก Intel สามารถเปลี่ยนความต้องการในตลาด AI ให้เป็นส่วนแบ่งตลาดที่มั่นคงและสินค้าที่มีกำไรสูงกว่า ได้ ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก

  3. ธุรกิจ Foundry เป็นดาบสองคม แม้จะเพิ่มรายได้รวม แต่ใช้เงินลงทุนสูง ทำให้ถ่วงอัตรากำไรรวมของบริษัทจนกว่าประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนจะดีขึ้น

  4. นักลงทุนจึงจับตาอย่างใกล้ชิดต่อคำอธิบายของฝ่ายบริหารเกี่ยวกับแนวโน้มอัตรากำไร

แนวโน้มไตรมาสถัดไปของ Intel


1. การคาดการณ์ของฝ่ายบริหารสำหรับไตรมาส 4:


  • รายได้คาดอยู่ระหว่าง 12.8–13.8 พันล้านดอลลาร์

  • กำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP คาดที่ 0.08 ดอลลาร์ สำหรับไตรมาส 4 ปี 2025

  • ตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Altera ซึ่งขายออกไปในไตรมาส 3

  • ผู้บริหารเน้นย้ำว่าจะเดินหน้าลงทุนใน GPU และสถาปัตยกรรมที่รองรับ AI, พัฒนาเทคโนโลยีกระบวนการผลิตขั้นสูง และเพิ่มประสิทธิภาพของโรงหล่อชิป


2. เหตุผลที่แนวทาง (guidance) มีผลต่อราคาหุ้น Intel:

  1. เป็นตัวกำหนดกรอบการประเมินมูลค่าระยะสั้น แนวทางที่ระมัดระวังเกินไปอาจจำกัดแรงซื้อของตลาดแม้ผลประกอบการจะออกมาดี

  2. เป็น “มาตรฐานใหม่” สำหรับการประเมินไตรมาสถัดไป นักลงทุนจะจับตาผลการดำเนินงาน Q4 เทียบกับช่วงคาดการณ์นี้และคำแถลงเพิ่มเติมจากการประกาศงบครั้งต่อไป


มุมมองของนักวิเคราะห์และบริบทด้านมูลค่าหุ้น

ราคาหุ้น Intel

1. ปฏิกิริยาของนักวิเคราะห์มีทั้งเชิงบวกและระมัดระวัง:

  • มีบางสำนักวิจัยปรับเพิ่มคำแนะนำและราคาเป้าหมายของหุ้น Intel โดยเน้นไปที่การลดต้นทุนและโครงสร้างรายได้ที่เริ่มดีขึ้น

  • ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์สายระมัดระวังยังเตือนถึงความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดชิป AI และความท้าทายในการขยายขนาดธุรกิจโรงหล่อ (foundry) ซึ่งอาจกระทบต่อการดำเนินงาน


2. ภาพรวมด้านมูลค่าหุ้น (Valuation Snapshot):

  • ราคาหุ้นของ Intel ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันได้สะท้อนข่าวดีส่วนใหญ่ไปแล้ว การปรับมูลค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตจะต้องได้รับการยืนยันด้วยการขยายอัตรากำไร (margin expansion) และการปรับปรุงกระแสเงินสด (cash flow)

  • ปฏิกิริยาของตลาดหลังประกาศงบไตรมาส 3 บ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่ม “กลับมาเพิ่มการถือครอง” แต่ยังคงเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง


ความเสี่ยงหลักและสิ่งที่นักลงทุนควรจับตา


ประเด็นความเสี่ยงหลัก:

  • ความเสี่ยงด้านอัตรากำไรและขนาดของโรงหล่อชิป: หากอัตราการใช้กำลังการผลิต (utilisation) ต่ำหรืออัตราผลผลิต (yield) ปรับตัวช้า อัตรากำไรโดยรวมของบริษัทจะยังคงถูกกดดัน

  • ค่าใช้จ่ายด้านเงินลงทุน (Capex): การลงทุนจำนวนมากอาจถ่วงกระแสเงินสดอิสระ (free cash flow) และจำกัดโอกาสในการซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่มเงินปันผล

  • การแข่งขันในตลาด AI: คู่แข่งยังคงครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มชิปเร่งการประมวลผลเฉพาะทาง (AI accelerators) ได้เพิ่มขึ้น Intel จึงจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึง “ชัยชนะเชิงผลิตภัณฑ์” ที่ชัดเจนในตลาด


รายการเฝ้าดูระยะสั้น:

  • รายได้และกำไรต่อหุ้น (EPS) ในไตรมาสถัดไปเมื่อเทียบกับช่วงคาดการณ์ปัจจุบัน

  • ความคืบหน้าและคำอธิบายของฝ่ายบริหารเกี่ยวกับอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ของธุรกิจโรงหล่อ

  • การประกาศพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หรือดีลลูกค้าใหม่ในกลุ่ม AI และศูนย์ข้อมูล (Data Centre)


บทสรุป


รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ของ Intel นำเสนอ “ความคืบหน้าที่ถูกทาง” ให้กับนักลงทุน การกลับมามีกำไรสุทธิ (GAAP Profitability), รายได้ที่สูงกว่าคาด, และกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่สร้างความประหลาดใจ ล้วนสนับสนุนให้ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นหลังตลาดปิด


อย่างไรก็ตาม การรักษาแนวโน้มบวกนี้ไว้ในระยะยาว จะต้องอาศัยการปรับปรุงอัตรากำไรของธุรกิจโรงหล่อให้เห็นผลจริง และการสร้าง “ชัยชนะที่จับต้องได้” อย่างต่อเนื่องในตลาด AI และ Data Centre


สำหรับนักลงทุน ไตรมาสต่อๆ ไปจะเป็นช่วงเวลาชี้ชะตา หาก Intel เดินหน้าบรรลุเป้าหมายได้ต่อเนื่อง จะเปิดโอกาสให้ราคาหุ้นขยับขึ้นอีก แต่หากเกิดข้อผิดพลาดในการดำเนินงาน ความเสี่ยงขาลงก็อาจกลับมาอีกครั้ง


คำถามที่พบบ่อย


Q1: ทำไมราคาหุ้น Intel จึงปรับขึ้นหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025?

ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นประมาณ 7–8% ในการซื้อขายหลังปิดตลาด หลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้นและกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง นักลงทุนมองว่าผลประกอบการนี้สะท้อนว่า การปรับโครงสร้างองค์กรและกลยุทธ์ที่มุ่งเน้น AI ของ Intel เริ่มเห็นผลจริงแล้ว


Q2: ตัวเลขทางการเงินสำคัญใดที่ส่งผลต่อราคาหุ้น Intel?

Intel มีรายได้ 13.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 4.1 พันล้านดอลลาร์ กำไรต่อหุ้น (GAAP EPS) อยู่ที่ 0.90 ดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP อยู่ที่ 0.23 ดอลลาร์ ซึ่งทั้งสองตัวเลขสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก ถือเป็น ปัจจัยหลักที่หนุนให้ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นแรง


Q3: ธุรกิจโรงหล่อ (Foundry) มีผลอย่างไรต่อราคาหุ้น Intel?

ธุรกิจโรงหล่อสร้างรายได้ประมาณ 4.2 พันล้านดอลลาร์ แม้จะแสดงให้เห็นถึงการขยายกำลังการผลิต แต่ด้วยอัตรากำไรที่ยังต่ำจึงยังจำกัดความสามารถในการทำกำไรรวมของบริษัท นักวิเคราะห์ชี้ว่า การปรับปรุงอัตรากำไรของธุรกิจนี้อย่างยั่งยืน จะเป็นกุญแจสำคัญในการสนับสนุนราคาหุ้น Intel ให้เติบโตต่อไป


Q4: แนวทาง (Guidance) สำหรับไตรมาส 4 ปี 2025 จะมีผลอย่างไรต่อราคาหุ้น Intel?

ฝ่ายบริหารคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 อยู่ระหว่าง 12.8–13.8 พันล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP ที่ 0.08 ดอลลาร์ น้ำเสียงที่ค่อนข้างระมัดระวังและการเน้นควบคุมต้นทุนอาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้น ขึ้นอยู่กับ ประสิทธิภาพการดำเนินงานจริงและทัศนคติของตลาด


Q5: ความเสี่ยงใดที่อาจกดดันราคาหุ้น Intel ในอนาคต?

ความเสี่ยงหลัก ได้แก่

  • การปรับปรุงอัตรากำไรของโรงหล่อที่ช้ากว่าคาด

  • การใช้จ่ายเงินลงทุน (Capex) ที่ยังสูง

  • แรงกดดันจากคู่แข่งในตลาดชิป AI

หาก Intel ไม่สามารถจัดการปัจจัยเหล่านี้ได้ดีพอ อาจจำกัดโอกาสการปรับขึ้นของราคาหุ้นในอนาคต


Q6: นักลงทุนควรจับตาประเด็นใดต่อไปเกี่ยวกับราคาหุ้น Intel?

นักลงทุนควรติดตาม:

  • อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงหล่อ (Foundry utilisation)

  • การยอมรับผลิตภัณฑ์ AI ของ Intel ในตลาด

  • แนวโน้มกระแสเงินสดอิสระ (Free cash flow)

การดำเนินงานที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในด้านเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางระยะยาวของราคาหุ้น Intel


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
จับเทรนด์ AI ทั่วโลก ผ่าน SMH ETF
SOXX ETF กลยุทธ์ใหม่ของนักลงทุนสายเทค
เจาะกลยุทธ์-ราคาหุ้น Nvidia ปี 2025 พร้อมปัจจัยเสี่ยงในอนาคต
รวมหุ้น Growth พุ่งแรงแห่งปี 2025 ที่นักลงทุนต้องจับตา
ทำไมหุ้น Ferrari จึงร่วงลง 15% เมื่อวานนี้?