วิเคราะห์หุ้น Amazon เจาะลึกธุรกิจ-งบการเงิน และแนวโน้มในอนาคต

2025-09-05

หุ้น Amazon ถือเป็นอีกหนึ่งในหุ้น 7 นางฟ้าที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจมาก เนื่องจากบริษัท Amazon ไม่ได้เป็นเพียงผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ แต่ยังขยายธุรกิจไปสู่เทคโนโลยีคลาวด์ สื่อดิจิทัล และบริการลอจิสติกส์ครบวงจร ทำให้หุ้น Amazon ถูกพูดถึงในฐานะหุ้นเทคโนโลยีระดับเรือธง ซึ่งในบทความนี้จึงจะพาไปเจาะลึกตั้งแต่โครงสร้างธุรกิจของ Amazon ผลประกอบการล่าสุด ไปจนถึงการวิเคราะห์แนวโน้มอนาคตแบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก


หมดเปลือก หุ้น Amazon ทำธุรกิจอะไรบ้าง ที่ไม่ใช่แค่ค้าปลีก?


หากพูดถึง หุ้น Amazon นักลงทุนส่วนใหญ่มักนึกถึงบริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ความจริงแล้ว Amazon คือกลุ่มธุรกิจที่มีความหลากหลายและซับซ้อนกว่านั้นมาก ธุรกิจของ Amazon กระจายตัวไปหลายด้าน ตั้งแต่การค้าปลีกออนไลน์ บริการคลาวด์ โฆษณาดิจิทัล ไปจนถึงสื่อและบันเทิง ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันทำให้หุ้น Amazon มีความโดดเด่นและได้รับการประเมินมูลค่าในระดับสูงเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ซึ่งมีข้อมูลเรียงธุรกิจหลัก ๆ ดังนี้


อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)


ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์คือรากฐานของ Amazon และยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุด แม้ในปัจจุบันสัดส่วนกำไรอาจไม่สูงเท่าธุรกิจอื่น แต่ปริมาณการขายและฐานผู้ใช้มหาศาลทำให้ส่วนนี้ยังเป็น “หัวใจ” ของบริษัท การสร้างแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคจนถึงสินค้าราคาแพง พร้อมด้วยระบบ Prime Membership ทำให้ Amazon ผูกพันกับผู้บริโภคอย่างเหนียวแน่น


จุดเด่นอีกประการคือโครงสร้างโลจิสติกส์และคลังสินค้าที่กว้างขวาง Amazon ลงทุนสร้างเครือข่ายการจัดส่งที่รวดเร็วและแม่นยำ จนสามารถตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการค้าปลีก สิ่งนี้ไม่เพียงสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน แต่ยังกลายเป็น “Barrier to Entry” หรือกำแพงกีดขวางคู่แข่งรายใหม่ไม่ให้เข้ามาแข่งขันง่าย ๆ


Amazon Web Services (AWS)


AWS ถือเป็น “เครื่องจักรทำกำไร” ที่สำคัญที่สุดของ Amazon เพราะแม้รายได้จะน้อยกว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่กำไรขั้นต้นสูงกว่ามาก ตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ รัฐบาล หรือสตาร์ทอัพ ต่างต้องพึ่งพา AWS ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล


ความสำคัญของ AWS ต่อหุ้น Amazon คือความสามารถในการสร้างกำไรอย่างสม่ำเสมอ แม้ธุรกิจค้าปลีกจะมีมาร์จิ้นต่ำ แต่กำไรจาก AWS ช่วยชดเชยและผลักดันให้ภาพรวมทางการเงินของบริษัทแข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ AWS ยังเป็นผู้เล่นอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งหมายความว่า Amazon ครองส่วนแบ่งตลาดที่มั่นคงในอุตสาหกรรมที่ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง


โฆษณาดิจิทัล (Digital Advertising)


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Amazon พัฒนาแพลตฟอร์มโฆษณาที่ใช้ข้อมูลผู้บริโภคจำนวนมหาศาลที่บริษัทเก็บมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การขายพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์และแอปของ Amazon ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย ซึ่งทำให้รายได้ส่วนนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด


สำหรับหุ้น Amazon ธุรกิจโฆษณาคือ “เสาหลักใหม่” ที่สร้างรายได้เพิ่มโดยไม่ต้องพึ่งพาการขายสินค้าโดยตรง การใช้ข้อมูลการซื้อของจริงจากผู้บริโภคทำให้ Amazon มีข้อได้เปรียบเหนือแพลตฟอร์มโฆษณาอื่น ๆ อย่าง Google หรือ Meta ความสามารถในการต่อยอดฐานลูกค้าสู่การสร้างรายได้จากโฆษณาถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทกำลังพัฒนาไปสู่ “Data Company” ที่ใช้ข้อมูลเป็นทรัพยากรทางเศรษฐกิจหลัก


ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media & Entertainment)


Amazon Prime Video และ Twitch คือธุรกิจที่สะท้อนการกระจายตัวสู่สื่อดิจิทัล บริษัทลงทุนอย่างจริงจังในคอนเทนต์ภาพยนตร์ ซีรีส์ และกีฬา ซึ่งช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคสมัครสมาชิก Prime ไม่เพียงเพื่อรับสิทธิ์จัดส่งฟรี แต่ยังเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์พรีเมียม


การสร้าง “Ecosystem” แบบครบวงจรนี้เป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันหุ้น Amazon เพราะรายได้จากค่าสมาชิกและค่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพิ่มเข้ามาเป็นอีกเส้นทางรายได้ใหม่ สิ่งที่สำคัญคือการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้ให้มากกว่าการเป็นร้านค้าออนไลน์ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ประจำวันของผู้บริโภค


ธุรกิจลอจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน (Logistics & Infrastructure)


Amazon ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทขายของ แต่ยังกลายเป็นหนึ่งในบริษัทโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การลงทุนในคลังสินค้า การขนส่ง และระบบจัดส่งอัตโนมัติ ทำให้ Amazon มีความสามารถในการควบคุมห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ


สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปิดโอกาสให้ Amazon ขายบริการลอจิสติกส์แก่บุคคลที่สาม คล้ายกับการสร้างธุรกิจใหม่ภายในบริษัท ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างว่าทำไมหุ้น Amazon ถึงถูกประเมินมูลค่าสูง เพราะนักลงทุนไม่ได้มองว่าบริษัทเป็นเพียงผู้ค้าปลีก แต่เป็น “Infrastructure Provider” ที่มีบทบาทในหลายอุตสาหกรรม


หุ้น Amazon - EBC


งบการเงินล่าสุดของ Amazon สะท้อนอะไรบ้าง?


ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ของ Amazon (NASDAQ: AMZN) มีการรายงานยอดขายสุทธิ (Net Sales) ว่าอยู่ที่ 167.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 161.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ (Net Income) อยู่ที่ 18.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 35% จาก 13.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.26 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน


อย่างไรก็ตาม แม้ผลประกอบการจะดีเกินคาด แต่ราคาหุ้นของ Amazon ปรับตัวลดลงประมาณ 7% ในการซื้อขายหลังปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ Amazon Web Services (AWS) และการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดในระยะสั้น


รายละเอียดผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2025


  • ยอดขายสุทธิ (Net Sales): 167.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็น


- อเมริกาเหนือ (North America): 100.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11%

- ต่างประเทศ (International): 36.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16%

- AWS (Amazon Web Services): 30.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.5%


  • กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income): 19.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31% จาก 14.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

  • กำไรสุทธิ (Net Income): 18.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 35% จาก 13.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.26 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow): 121.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 108.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน

  • กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow): 18.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 66% จาก 53.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน


งบหุ้น Amazon - EBC


วิเคราะห์แนวโน้มอนาคตหุ้น Amazon: โอกาสและความท้าทาย


Amazon กำลังเพิ่มการลงทุนใน Amazon Web Services (AWS) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้าน AI โดยมีแผนที่จะขยายศูนย์ข้อมูล 8.5 ล้านตารางฟุตในปี 2025 และ 10 ล้านตารางฟุตในปี 2026 ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของรายได้ AWS เป็นประมาณ 20% ภายในปี 2026


การลงทุนนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Amazon ในการเป็นผู้นำในตลาดคลาวด์และ AI แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงจาก Microsoft Azure และ Google Cloud แต่การขยายโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AgentCore และ Alexa+ จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของ AWS


การคาดการณ์ราคาหุ้นในอนาคต


นักวิเคราะห์หลายสำนักมีมุมมองที่เป็นบวกต่อหุ้น Amazon โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 263 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึง upside ประมาณ 15% จากราคาปัจจุบัน ในระยะยาว นักวิเคราะห์คาดว่า Amazon จะสามารถเพิ่มรายได้จาก 710 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 เป็น 1.153 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2030 และกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจาก 48.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 110.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน


ความท้าทายจากต้นทุนและการแข่งขัน


แม้การลงทุนใน AI และคลาวด์จะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต แต่ต้นทุนที่สูงขึ้นจากการขยายโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดอิสระในระยะสั้น นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงจาก Microsoft Azure และ Google Cloud อาจส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ AWS


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า Amazon มีความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ โดยการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการขยายตลาดต่างประเทศจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตในระยะยาว


boliviainteligente-rK3ySpKgUmI-unsplash (1).jpg


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)


Q: AWS สำคัญต่อหุ้น Amazon แค่ไหน?

A: AWS มีสัดส่วนรายได้เพียงบางส่วน แต่สร้างกำไรมากที่สุดในบรรดาธุรกิจทั้งหมดของ Amazon จึงถือเป็นตัวขับเคลื่อนกำไรหลักและเป็นเหตุผลที่นักลงทุนให้ความสำคัญอย่างมาก


Q: หุ้น Amazon จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ไหน?

A: หุ้น Amazon จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐอเมริกา ใช้ตัวย่อ (Ticker Symbol) ว่า AMZN


Q: ความเสี่ยงหลักของการถือหุ้น Amazon คืออะไร?

A: ความเสี่ยงหลักมาจากการแข่งขันในธุรกิจคลาวด์และโฆษณา รวมถึงการตรวจสอบด้านกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากรัฐบาลหลายประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อการเติบโตในอนาคต


สรุป


หุ้น Amazon ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในตลาดโลก โดยมีจุดแข็งสำคัญมาจากการกระจายธุรกิจที่หลากหลายและแข็งแกร่ง ตั้งแต่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุมตลาดผู้บริโภคจำนวนมหาศาล การให้บริการคลาวด์ผ่าน AWS ที่สร้างกำไรสูง ไปจนถึงธุรกิจโฆษณาและสื่อดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ความหลากหลายของแหล่งรายได้เหล่านี้ทำให้ Amazon สามารถสร้างผลประกอบการที่มั่นคงและลดความเสี่ยงจากความผันผวนในแต่ละธุรกิจ


ผลประกอบการล่าสุดของ Amazon แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ โดยเฉพาะรายได้จาก AWS และตลาดต่างประเทศที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้กระแสเงินสดอิสระจะลดลงจากการลงทุนสูง แต่สะท้อนถึงการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว การลงทุนใน AI และระบบอัตโนมัติช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน และเสริมสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคในหลายตลาด


ในภาพรวม แนวโน้มของหุ้น Amazon ยังคงเป็นบวกในระยะยาว แม้จะมีความท้าทายจากต้นทุนการลงทุนและการแข่งขันในตลาดคลาวด์ นักลงทุนสามารถมองเห็นความแข็งแกร่งจากธุรกิจหลักและโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในธุรกิจ AI, โฆษณา และสื่อดิจิทัล การกระจายความเสี่ยงในหลายธุรกิจ และการสร้าง Ecosystem ที่ครอบคลุมทั้งผู้บริโภคและองค์กร ทำให้หุ้น Amazon ยังคงเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ


บทความแนะนำ
ข้อมูลเชิงลึกการลงทุนของบริษัทจดทะเบียน
หุ้น AI มีอะไรบ้าง? ส่องหุ้นเด่น 2025
ความหมายและตัวอย่างของการลงทุนแบบเน้นมูลค่า
รูปแบบธุรกิจและการวิเคราะห์การลงทุนของ Amazon
การวิเคราะห์หุ้นและข้อมูลเชิงลึกด้านการลงทุนของ Meta