VT ETF กองทุนเดียว ครอบคลุมโลกการลงทุนทั้งหมด

2025-09-05

กองทุน VT ETF (Vanguard Total World Stock ETF) นำเสนอวิธีการลงทุนในบริษัทหลายพันแห่งทั่วตลาดทั่วโลกอย่างง่ายดายและต้นทุนต่ำ


VT ETF กองทุนเดียว ครอบคลุมทั่วโลก

VT ETF กองทุนเดียว ครอบคลุมทั่วโลก

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเรียบง่ายโดยไม่พลาดโอกาส กองทุน Vanguard Total World Stock ETF (VT) มักเป็นตัวเลือกยอดนิยม


VT ก่อตั้งในปี 2008 VT มีเป้าหมายในการสะท้อน FTSE Global All Cap Index ซึ่งครอบคลุมบริษัทหลายพันแห่งทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ กองทุนนี้เป็นกองทุนแบบ Passive หมายความว่าไม่ได้พยายามเอาชนะตลาด แต่เพียงแค่ติดตามตลาด


เห็นได้ชัดว่า VT มีอัตราค่าใช้จ่ายเพียง 0.06% ช่วยให้คุณลงทุนได้ทั่วโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด สำหรับนักลงทุนระยะยาว ความคุ้มค่านี้สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป


ทำไม VT ETF จึงโดดเด่น?


คุณสมบัติหลายประการทำให้ VT มีความโดดเด่นเฉพาะตัว:

  • การกระจายความเสี่ยงอย่างมหาศาล – VT ถือหุ้นมากกว่า 10,000 ตัว ลดการพึ่งพาบริษัทหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง

  • ต้นทุนต่ำเป็นพิเศษ – เพียง 0.06% ต่อปี ถูกกว่ากองทุนแบบบริหารจัดการทั่วโลกหลายเท่า

  • ขนาดและสภาพคล่อง – ด้วยสินทรัพย์มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ การซื้อและขาย VT จึงเป็นเรื่องง่าย

  • ครอบคลุมทั่วโลก – ประมาณ 60% ของกองทุนเป็นหุ้นสหรัฐฯ แต่ยังครอบคลุมถึงยุโรป ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และตลาดเกิดใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย


โดยสรุป VT นำเสนอแพ็คเกจเดียวที่ครบถ้วนให้กับนักลงทุนพร้อมการเข้าถึงแทบทุกมุมของตลาดหุ้นโลก


VT ETF ทำผลงานอย่างไรบ้าง?

การเปลี่ยนแปลงราคาของ VT ETF ในรอบปีที่ผ่านมา

ผลตอบแทนของ VT นั้นแข็งแกร่ง ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2008 VT ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 8%


ในช่วงล่าสุด ภายในกลางปี 2025 กองทุน ETF นี้ทำกำไรเกือบ 19% ในรอบปี ทะลุจุดสูงสุดใหม่ และสูงกว่าจุดต่ำสุด 52 สัปดาห์เกิน 24% การฟื้นตัวของตลาดทั่วโลกทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และตลาดเกิดใหม่ช่วยหนุนแรงขับเคลื่อนนี้


อย่างไรก็ตาม ก็ต้องแลกมาด้วยสิ่งตอบแทน ในปีที่ตลาดสหรัฐฯ ครองตลาดโลก VT อาจทำผลตอบแทนตามหลังกองทุนเฉพาะสหรัฐฯ เช่น VTI แต่การกระจายการลงทุนอย่างกว้างของ VT ช่วยสร้างสมดุลและลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง


VT ETF: การเปรียบเทียบที่สำคัญ


เมื่อพิจารณา VT นักลงทุนหลายคนมักเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ ดังนี้:


1) VT vs VTI

VTI ลงทุนเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ VT กระจายการลงทุนทั่วโลก VTI ทำผลงานดีกว่าช่วงล่าสุดเพราะตลาดสหรัฐฯ แข็งแกร่ง แต่ VT มอบการกระจายการลงทุนที่มากกว่า


2) VT vs ACWI

กองทุน iShares ACWI เป็นอีกตัวเลือกกองทุนโลก แต่ VT ถือหุ้นหลายบริษัทกว่า รวมถึงบริษัทขนาดเล็กด้วย และโดยทั่วไป VT ยังมีต้นทุนต่ำกว่า


นี่คือสาเหตุที่ VT มักถูกเรียกว่า "ETF แบบครบวงจร" เนื่องจากให้การเข้าถึงหุ้นทั่วโลกได้ด้วยการลงทุนเพียงกองทุนเดียว


อนาคตของ VT ETF: กองทุน ETF กองเดียวทำได้ครบจริงหรือ?

อนาคตของ VT ETF

แม้จะได้รับความนิยม แต่นักลงทุนบางส่วนก็ยังคงตั้งคำถามว่าการกระจายการลงทุนทั่วโลกเป็นสิ่งจำเป็นจริงหรือไม่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว สหรัฐอเมริกายังคงครองความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และตลาดทุน


สำหรับผู้ที่เชื่อว่าความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนด กองทุน ETF ที่มีเฉพาะในสหรัฐฯ เช่น VTI อาจดูน่าสนใจกว่า


แต่ประวัติศาสตร์กลับบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป ในช่วงทศวรรษ 1980 ญี่ปุ่นเป็นดาวรุ่งด้านเศรษฐกิจของโลก ต่อมาในช่วงทศวรรษ 2000 ตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและบราซิลกลับกลายเป็นผู้นำ ไม่มีประเทศใดที่สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำด้านการเติบโตได้ตลอดไป


ด้วยการถือ VT นักลงทุนจะสามารถรับประโยชน์ทุกครั้งที่ความเป็นผู้นำหมุนเวียน


ในอนาคต การเติบโตของเศรษฐกิจเกิดใหม่ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของ VT เมื่อประเทศอย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนามขยายตัว VT จะปรับพอร์ตตามอัตโนมัติ


ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนไม่จำเป็นต้องคาดเดาว่าเรื่องราวการเติบโตครั้งต่อไปจะเกิดที่ไหน เพราะกองทุนจะพัฒนาพอร์ตตามตลาดโลกเอง


จุดแข็งที่ซ่อนอยู่ของ VT ETF ที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้าม


นอกจากการกระจายการลงทุนอย่างชัดเจน VT ยังมีจุดแข็งหลายประการที่มักถูกมองข้าม:


1) การปรับสมดุลอัตโนมัติ

VT ปรับหุ้นในพอร์ตอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับดัชนีโลก นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนน้ำหนักระหว่างภูมิภาค เพราะ ETF ทำให้เอง


2) การเข้าถึงหุ้นขนาดเล็ก

หลายกองทุน ETF โลกมักละเลยบริษัทขนาดเล็ก แต่ VT รวมหุ้นเหล่านี้ไว้ ทำให้นักลงทุนมีโอกาสลงทุนในบริษัทที่อาจเติบโตเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในอนาคต


3) ความคุ้มครองระดับสถาบัน

ด้วยหุ้นกว่า 10,000 ตัว VT สะท้อนการจัดสรรกว้างแบบที่โดยปกติมีเฉพาะกองทุนบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเท่านั้น


คุณสมบัติซ่อนเหล่านี้ทำให้ VT ไม่ใช่แค่ “กองทุน ETF โลกทั่วไป” แต่เป็นพอร์ตหุ้นครบวงจรในกองทุนเดียว


ใครควรพิจารณา VT ETF?


VT เหมาะที่สุดสำหรับ:

  • นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นแบบซื้อและถือครอง โดยต้องการเปิดรับความเสี่ยงในระดับโลกโดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนบ่อยครั้ง

  • นักลงทุนสายมินิมอลที่ชอบกองทุนเดียวครอบคลุมแทบทุกอย่าง

  • นักลงทุนที่สร้างพอร์ตหลัก (Core Portfolio) ต้องการฐานมั่นคง ซึ่งสามารถจับคู่กับพันธบัตรหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ได้


อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่มองหาโอกาสเฉพาะ เช่น หุ้นเทคโนโลยี หุ้นขนาดเล็ก หรือภูมิภาคเดียว อาจต้องผสม VT กับกองทุน ETF เฉพาะทางเพิ่มเติม


คำถามที่พบบ่อย


1. VT ETF ลงทุนในอะไรบ้าง?

VT ติดตาม FTSE Global All Cap Index ครอบคลุมหุ้นกว่า 10,000 บริษัท ทั้งในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่


2. ค่าใช้จ่ายในการถือ VT ETF อยู่ที่เท่าไหร่?

อัตราค่าธรรมเนียมเพียง 0.06% ต่อปี ทำให้เป็นหนึ่งใน ETF หุ้นโลกที่ถูกที่สุด


3. VT ETF ทำผลงานล่าสุดเป็นอย่างไร?

ในปีที่ผ่านมา VT ให้ผลตอบแทนเกือบ 19% และทำจุดสูงสุด 52 สัปดาห์ใหม่ ในระยะยาวให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 8% ต่อปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง


4. ควรเลือก VT หรือ VTI ETF?

เลือก VT หากคุณต้องการกระจายการลงทุนทั่วโลก เลือก VTI หากคุณต้องการเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว ทั้งสองตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ


สรุป


กองทุน VT ETF (Vanguard Total World Stock) ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่เศรษฐกิจโลกอีกด้วย ด้วยการกระจายการลงทุนอัตโนมัติ จุดแข็งที่ซ่อนอยู่ และความสามารถในการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด ทำให้ VT เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนแทบทุกคน


ภาพรวมของ VT ETF
คุณสมบัติ รายละเอียด
ชื่อกองทุน Vanguard Total World Stock ETF (VT)
สัญลักษณ์ของหุ้น VT
ปีที่ก่อตั้ง 2008
วัตถุประสงค์ของกองทุน ติดตามดัชนี FTSE Global All Cap เพื่อการเปิดรับหุ้นทั่วโลก
จำนวนการถือครอง หุ้นมากกว่า 10,000 ตัวในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่
ภูมิภาคหลัก สหรัฐอเมริกา (~60%), ยุโรป, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, ตลาดเกิดใหม่
อัตราส่วนค่าใช้จ่าย 0.06% ต่อปี
มูลค่าสินทรัพย์ที่บริหาร มากกว่า 50 พันล้านดอลลาร์ (ปี 2025)
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ~2% (แตกต่างกันไปตามสภาวะตลาด)
ผลตอบแทนเฉลี่ย ~8% ต่อปีนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
สภาพคล่อง มีสภาพคล่องสูงและมีสเปรดที่แคบ
เหมาะสำหรับ นักลงทุนระยะยาวที่มองหาการกระจายการลงทุนทั่วโลกที่มีต้นทุนต่ำ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ