เงินบาทผันผวน เหตุแรงกดดันการเมือง ทอง Sideway เฟดหนุนลดดอก
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เงินบาทผันผวน เหตุแรงกดดันการเมือง ทอง Sideway เฟดหนุนลดดอก

เผยแพร่เมื่อ: 2025-09-01   
อัปเดตเมื่อ: 2025-09-02

1 ก.ย. 2025 - ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุด แม้จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย นักลงทุนทั่วโลกกำลังเฝ้าดูทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ความเป็นอิสระของเฟดในอนาคต และความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์นี้


ราคาทองคำแท่งตลาดสปอตเคลื่อนไหวที่ 3,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วงเช้าการซื้อขายในเอเชีย หลังจากสัปดาห์ก่อนปรับขึ้น 2.3% โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านนโยบาย หลังคดีฉุกเฉินเรื่องความพยายามของทรัมป์ในการปลดลิซา คุก กรรมการผู้ว่าการ FED ยังไม่มีข้อสรุป คาดว่าจะไม่ตัดสินอย่างน้อยจนถึงวันอังคาร


นักวิเคราะห์ระบุว่า หากความเป็นอิสระของเฟดถูกกระทบ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสหรัฐฯ จะลดลงและหนุนการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย พร้อมกันนี้ ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ชี้ว่ามาตรการภาษีศุลกากรทั่วโลกของทรัมป์บังคับใช้อย่างไม่ถูกต้อง แต่ยังคงมีผลบังคับชั่วคราวในระหว่างที่คดียังดำเนินต่อ


ทองคำเคยทำสถิติสูงสุดราว 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนเมษายน หลังจากทรัมป์ประกาศแผนภาษีตอบโต้ แต่หลังจากนั้นราคายังคงแกว่งในกรอบจำกัด แม้จะได้รับแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า ETF อย่างต่อเนื่อง


ทองคำ - EBC


ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ทิศทาง FED

ตลาดกำลังจับตารายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กคาดว่าเดือนสิงหาคมจะมีการจ้างงานเพิ่มเพียง 75,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานขยับสูงขึ้น สะท้อนแรงกดดันต่อตลาดแรงงาน ข้อมูลล่าสุดยังเผยว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทรงตัวตามคาดการณ์ โดย Core PCE ขยายตัว 0.3% จากเดือนก่อนหน้า และ 2.9% จากปีก่อนหน้า สนับสนุนมุมมองว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน


เช้าวันนี้ ราคาทองคำอยู่ที่ 3,443.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (เวลา 8:55 น. สิงคโปร์) หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ดอลลาร์และโลหะมีค่าอื่นเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด


หุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจและการเมือง

ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ โดยดาวโจนส์ปิดลบ 92 จุด (-0.2%) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากแรงกดดันของหุ้นเทคโนโลยีอย่าง DELL และ NVIDIA รวมถึงความกังวลภาษีที่ซ้ำเติมเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลง 0.7% เพราะกังวลอุปสงค์ในสหรัฐฯ อ่อนแรงและอุปทานเพิ่มขึ้น


ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคมชะลอตัว จากการท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่การส่งออกฟื้นตัวโดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคครัวเรือนยังทรงตัวเพราะความเชื่อมั่นถดถอย ภาคอสังหาฯ อุปสงค์และสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลงต่อเนื่อง ทำให้อุปทานใหม่ชะลอตัวตามไปด้วย


ส่วนแรงกดดันหลักมาจากการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นำไปสู่การสรรหาผู้นำรัฐบาลคนใหม่ โดยชื่อที่ถูกจับตามีอนุทินจากพรรคภูมิใจไทย และชัยเกษมจากพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคประชาชนซึ่งครองเสียง ส.ส. มากที่สุดในสภาฯ ถือเป็นตัวแปรชี้ขาด


โดยประวัติการเมืองชี้ว่า SET INDEX มักปรับตัวลงหลังนายกพ้นตำแหน่ง (รอบคุณเศรษฐา ทวีสิน -1.3%) ก่อนจะฟื้นเมื่อได้ผู้นำใหม่ ล่าสุดวันศุกร์ SET INDEX ลดลง 1.08% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยดังกล่าว


หุ้นไทย - EBC


ค่าเงินบาทอ่อนค่า นักลงทุนต่างชาติเทขาย

ค่าเงินบาทเช้าวันนี้เปิดตลาดที่ 32.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 32.24 บาทต่อดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่าปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นแรงกดดันสำคัญต่อทั้งค่าเงินและตลาดทุนไทย การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่าผู้นำรัฐบาลต้องพ้นตำแหน่ง ได้สร้างความไม่แน่นอนระลอกใหม่ นักลงทุนจึงเทขายสินทรัพย์ไทยเพื่อลดความเสี่ยง


ข้อมูลจากตลาดทุนเผยว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3,951 ล้านบาท และพันธบัตรไทย 2,158 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การไหลออกของเงินทุนต่างชาติสะท้อนความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ


สำหรับกรอบค่าเงินบาทวันนี้คาดเคลื่อนไหวในช่วง 32.17–32.47 บาทต่อดอลลาร์ กลยุทธ์ที่แนะนำคือทยอยซื้อเมื่ออ่อนค่าใกล้ 32.17 และขายทำกำไรเมื่อแข็งค่ากลับสู่ระดับ 32.47 บาทต่อดอลลาร์


สรุป


โดยสรุป ค่าเงินบาทในระยะสั้นยังเผชิญแรงกดดันจาก ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ที่ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอย่างท่าทีของเฟดและตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงเป็นแรงหนุนให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลก สำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุน จึงควรติดตามทั้งพัฒนาการทางการเมืองไทยและทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนและการป้องกันความเสี่ยงให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่ยังไม่แน่นอน


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ


บทความแนะนำ
ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวก่อนวันหยุด พร้อมจับตาทิศทางตลาดต่อไป
Bitcoin ลงหนัก? สาเหตุตลาดแดง
จับตา! การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยคืนนี้จากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตลาดคาดหวังอะไร?
ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank Of England) คืออะไร?
วิธีเทรดหุ้นสหรัฐจากปากีสถาน (โดยไม่ต้องมีบัญชีสหรัฐ)